[รีวิว] Motorola One Action มือถือราคา 6,990 บาท ที่มีกล้องพร้อมถ่ายแบบสายลุย 

กลับมาพบกับรีวิว Gadget และ Smart Phone จากทีม Sanook! Hitech กันอีกครั้งหนึ่ง ในวันนี้ทีมได้รับ Motorola One Action มือถือเนื้อหอมอีกตัวหนึ่งที่มีฟีเจอร์คล้ายกับ One Vision ที่รีวิวก่อนหน้านี้แต่มีราคาถูกกว่า แล้วมันโดดเด่นที่ตรงไหน มารับชมรีวิวกันเลยดีกว่า 

เปิดกล่อง Motorola One Action จะมีอะไรบ้าง 

เริ่มต้นเราต้องมาแกะกล่องกันก่อนว่าจะมีอะไรบ้างกับมือถือรุ่นนี้ ประกอบไปด้วย 

• ตัวเครื่อง Motorola One Action 
• เข็มจิ้มซิมการ์ด 
• เคสใส่ 
• คู่มือ / ใบรับประกัน 
• สาย USB-C  
• หูฟัง 
• ที่ชาร์จไฟ 

รูปลักษณ์และดีไซน์ของ Motorola One Action 

สำหรับรูปร่างของ Motorola One Action ยังคงมีหน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว แต่ว่าอัตราส่วนมาพร้อมกับ 21:9 ที่เรียกได้ว่ายาวพอสมควร และเครื่องไม่ได้กว้างมากทำให้นำไปชมดูภาพยนตร์ได้ดี 

ส่วนบนสุดของหน้าจอเรียบและกลมกลืนไปด้วยกัน แต่ว่าจะมีกล้องหน้าความละเอียด 25 ล้านพิกเซล มีเซนเซอร์พร้อมกับลำโพงตัวเครื่องแต่ว่าเป็นลำโพงสำหรับสนทนาเท่านั้น และมีเซนเซอร์ติดตั้งซ่อนไว้ที่ขอบบนสุดประกอบด้วย accelerometer, gyro, proximity 

  

ส่วนล่างก็จะมีปุ่มกดข้างล่างนอกจากปุ่มกดแบบ Android Pie เวอร์ชั่น 9 มีปุ่ม Back และปุ่มขีด ที่กดใช้งานง่าย ไม่ว่าจะเป็น การกดปุ่ม ค้างจะเรียก Google Assistant, ถ้าผลักขึ้น ครั้งแรกเป็น Recent สลับ Apps และ ผลักจนสุด จะมี Apps Drawer เป็นต้น แต่ถ้าทั้งหมดยากไป Motorola จะมีการเผยปุ่ม One Button Nav ที่ผลักซ้ายเพื่อกลับ, ผลักขวาเป็น Recent Apps เป็นต้น 

รอบตัวเครื่องออกแบบให้ดูเรียบง่ายขึ้นเลือกใช้สีโครเมียมที่สวยงาม โดยฝั่งซ้ายมาพร้อมกับฝั่งขวามีปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่ม เปิดปิดตัวเครื่องมาให้ครบเครื่อง 

ฝั่งซ้ายจะมีถาดใส่ซิม ซึ่งจะใส่ได้ทั้ง Nano SIM อีกช่องเป็น Hybrid Slot (สลับได้ทั้ง Nano SIM และ Micro SD ก็ได้) และไม่มีอะไรปล่อยให้เรียบไปเลย 

ส่วนบนสุดจะมีช่องเสียบหูฟัง, ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนอย่างครบครัน 

  

ส่วนล่างสุดของเครื่องจะมาพร้อมกับไมโครโฟนพร้อมกับช่องเสียบ USB-C มาพร้อมกับลำโพงตัวเครื่องที่เสียงดีไม่น้อย 

  

พลิกมาด้านหลังของ Motorola One Action จะมาพร้อมกับสีแบบเรียบง่ายอย่างมากเลยทีเดียวมาพร้อมกับกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัวด้วยกันพร้อมกับมี LED Flash แบบ True Tone มาให้ใช้งาน สีสันของเครื่องดูเรียบง่ายกว่า และสีลวดลายข้างในที่สวยงาม พร้อมกับโลโก้ M เป็นระบบสแกนนิ้ว และ โลโก้ Android One อยู่ล่างสุด 

 

ภาพรวม และ ความรู้สึกหลังจากสัมผัสดีไซน์ / สีสัน 

ยังคงเหมือนกับ Motorola One Vision เพียงแต่ว่าการตกแต่งอาจจะทำให้เครื่องนั้นดูเรียบง่ายกว่าเดิม และน้ำหนักเบา จนทำให้มันน่าใช้งานมากขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนอย่าง One Vision อย่างไรก็ดี อาจจะมีเรื่องต้องปรับคือ วัสดุ ขอบเครื่องสีเงินที่เสี่ยงที่จะถลอกง่ายไปหน่อย 

สีสันของ Motorola One Action มีให้เลือก 2 สีคือ น้ำเงิน Damin Blue และ ขาว Pure White 

เปิดเครื่องลองใช้งาน Motorola One Action 

รายละเอียดของ Motorola One Action 

• สัดส่วน (ยาว x กว้าง x หนา) : 160.1 x 71.2 x 9.2  มม. 
• น้ำหนัก: 176 กรัม 
• การป้องกันน้ำและฝุ่น : ไม่ระบุ 
• หน้าจอ LTPS LCD ขนาด  6.3 นิ้ว Cinematic Display ความละเอียด 2520 x 1080 พิกเซล อัตราส่วน 21:9 
• ชิปเซ็ต Exynos 9609 Octa Core + Mali G72 

• การเชื่อมต่อ : WiFi 802.11 B/G/N/AC, Bluetooth 5.0, GPS, A-GPS 
• ระบบปฏิบัติการ : Android 9.0 Pie (เข้าโครงการ Android One อัปเกรดได้ 2 ปี) 
• ระบบความปลอดภัย 
  • ติดตั้งระบบสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง 
  • ระบบบสแกนใบหน้า 2D 

• กล้องหลัง 3 ตัว : 12 ล้านพิกเซล (F2.0) + 16 ล้านพิกเซล Ultra Wide (117 องศา) + 2 ล้านพิกเซล Depth Sensor 
• กล้องหน้าคู่: 12 ล้านพิกเซล (f2.0) 
• แบตเตอรี : 3,500 mAh รองรับที่ชาร์จกำลัง 10W 
• แรม (RAM): 4GB  
• ความจำภายใน : 128GB  

• ความจำได้ภายนอก :  Micro SD 512GB 
• สี : น้ำเงิน Denim Blue, ขาว Pearl White 

 

การทดสอบประสิทธิภาพ / ลองเล่นเกมผ่าน Motorola One Action 

สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพผ่าน Antutu ทำได้ที่ 148,914 คะแนน 

ส่วนการทดสอบผ่าน Geekbench 5 เวอร์ชั่นล่าสุด แบบ SIngle Core 341 คะแนน และ Multi Core 1280 คะแนน 

 

สำหรับการทดลองเล่นเกมของ Motorola One Action ไม่ได้ติดตั้งฟีเจอร์นอกเหนือจากตัวเครื่องที่ให้การตอบสนองจึงออกมาเป็นธรรมดาไปหน่อย 

การทดสอบเรื่องของการเชื่อมต่อ / ระบบนำทาง 

 

สำหรับการเชื่อมต่อของ Motorola One Action ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีทันสมัยทั้ง 4G LTE, WiFi 802.11 AC, Bluetooth 5.0 และใช้นำทางผ่าน GPS ได้ดีไม่น้อย 

การแสดงผลในส่วนของภาพ / ระบบเสียง 

 

การแสดงผลของหน้าจอ 6.3 นิ้วอัตราส่วน 21:9 เป็นแบบแนวกว้างในการรับชม แต่ภาพที่ออกมายังคมชัดเพราะใช้หน้าจอแบบ IPS LCD เหมือนเดิม 

ส่วนระบบเสียงของเครื่องรุ่นนี้มาพร้อมกับ Dolby Audio ปรับแต่งการทำงานได้ดี แต่ว่าแนะนำว่าควรเสียบหูฟังถึงจะเห็นผลมากกว่า 

ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ที่โดดเด่น / ระบบความปลอดภัย 

สำหรับ Motorola One Action ยังคงเป็นมือถือที่อยู่ในโครงการ Android One โดยใช้ระบบปฏิบัติการ Android Pie และมาพร้อมกับอัปเดตได้อย่างแน่นอน แถมยังได้ Patch ความปลอดภัยที่อัปเดตให้ทุก 3 เดือน (ความเร็วในการอัปเดตขึ้นอยู่กับทาง Motorola นะ) 

เครื่องมือและฟีเจอร์ต่างๆ ของเครื่องรุ่นนี้ ยังเหมือนกับ มือถือ Android ทั่วไปไม่ว่าจะเป็น เครื่องคิดเลข, และสามารถโหลดเพิ่มได้ทั้ง และ Google Play Store 

แต่ความพิเศษของมือถือรุ่นนี้คือการเพิ่มฟีเจอร์และลูกเล่นของ Moto Action ที่สามารถตอบโจทย์และความแตกต่างจากมือถือทั่วไป โดยเฉพาะลูกเล่นต่างๆ ที่จะมีให้เลือกไม่ว่าจะเป็น 

• พลิกเครื่องซ้ายขวา จะเปิดกล้อง 
• เหวี่ยงขึ้นลง เปิดไฟฉาย 

• ใช้ 3 นิ้วลากหน้าจอ จะเป็นการ Capture Screen 
• Motorola One Navigator Button ปุ่มเดียวใช้งานอย่างเดียว 

 

ส่วนระบบความปลอดภัย มี 2 ระบบทั้งการสแกนใบหน้า ที่ใช้กล้องและสามารถปรับความสว่างอัตโนมัติที่หน้าจอ 

อีกระบบหนึ่งคือการปลดล็อคด้วยการสแกนลายนิ้วมือทางด้านหลังใช้งานง่ายไม่ซับซ้อนและทำงานได้ลงตัวอย่างมาก และสามารถปลดล็อคทั้งเครื่องหรือสั่งป้องกันการเข้า Apps ได้ 

เปิดกล้องลองถ่ายภาพ 

สำหรับกล้องหลังของ Motorola One Action ให้กล้องหลังทั้งหมด 3 ตัวด้วยกันประกอบไปด้วย 

• กล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล F2.0  
• กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล F2.2 มุมกว้าง 117 องศา (ทำงานเฉพาะโหมด วิดีโอเท่านั้น) 

• กล้องหลังความละเอียด 2 ล้านพิกเซล เป็นเลนส์ Depth Sensor 

ภาพรวมของกล้องนั้นจะถ่ายภาพในที่แสงน้อยด้อยกว่า Motorola One Vision แน่นอน แต่ว่ามันก็จะมีเรื่องอื่นที่ทำได้ดีกว่า จะเป็นเรื่องอะไรเรามาดูกันต่อ 

ฟีเจอร์ / หน้าจอการควบคุมกล้อง 

ยังคงเหมือนกับ Motorola One Vision เพราะว่ามันมีปุ่มที่ควบคุมโหมดต่างๆ ครบ เช่นถ้าต้องการเปลี่ยน Manual Mode และสามารถเปลี่ยนโหมด โดยการกด ปุ่มซ้ายสุด มาพร้อมกับปุ่ม บุคคล, ปรับสี, ปรับ Cinemagraph จะทำให้ภาพเคลื่อนไหว และอื่นๆ เยอะมากมายเลยครับ  

ความพิเศษจะอยู่ในโหมดวิดีโอ 

ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Motorola One Action 

สำหรับในภาพกลางวันนั้นให้สีสันที่สวยงามอยู่ แม้ว่ารูรับแสงจะไม่ได้กว้างก็ตาม รายละเอียดยังคงเก็บได้ครบถ้วน 

ในภาพแสงน้อยเก็บรายละเอียดได้ดีเหมือนกัน แต่ว่า ถ้าแสงน้อยเกินไป อาจจะเกิด Noise และไม่มีโหมดกลางคืน ต้องให้ AI ปรับเอง 

นอกจากนี้ภาพอื่นๆ Motorola One Action ยังคงดูดสีได้, ถ่ายภาพบุคคลได้ และ Live Filter ได้ 

การถ่ายวิดีโอของ Motorola One Action เป็นอย่างไร 

 Motorola One Action รองรับความละเอียดในการถ่ายวิดีโอสูงสุดที่ 4K ได้อย่างสบาย แต่ว่าจะมีโหมด Action Camera ที่จะทำให้คุณถือกล้องแบบแนวตั้ง แต่ภาพออกเป็นแนวนอนได้ทันที เพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้น และระบบป้องกันภาพสั่นไหว (EIS + Gyroscope Sensor) อัปเกรดมากขึ้นทำให้ภาพที่ออกมาสั่นน้อยมากเกือบเท่ากับกล้อง Action Camera เลยล่ะครับ 

กล้องหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เป็นอย่างไร 

สำหรับการถ่ายภาพนิ่งด้วยกล้องหน้าของ Motorola One Action ยังคงมีโหมดปรับความสวยมาให้พร้อมกับ HDR มาให้เหมือนกัน เพียงแต่ว่าความละเอียดลดลงจาก 25 ล้านพิกเซล เหลือ 12 ล้านพิกเซลเท่านั้น 

แบตเตอรี่ / ระบบการชาร์จไฟ 

ขนาดแบตเตอรี่ของเครื่องรุ่นนี้ให้มาเพียง 3500 mAh ไม่ได้มากกว่าเดิมเท่าไหร่ แต่ว่าเมื่อทดลองใช้งานแล้ว ในรูปแบบปกติอยู่ได้หมดวันสบายๆ แต่ถ้าทดสอบจากโปรแกรมพบว่าจะอยู่ได้ราวๆ เกือบ 12 ชั่วโมง ถือว่า นานพอสมควร 

ข่าวร้ายสำหรับคนที่หวังว่า Motorola One Action จะมีระบบ Turbo Power ในการชาร์จไฟเร็ว นั้นปรากฏหลังจากทดลองแล้ว ไม่รองรับ และที่ชาร์จกำลังสูงสุดที่รับได้คือ 10W 

สรุปหลังจากทีม Sanook! Hitech ได้ทดลองใช้งาน Motorola One Action 

จากที่ได้ลองใช้มาสักระยะ ก็มีความชอบมือถือตัวนี้ที่น้ำหนักเบาและสามารถพกพาได้สะดวกมาก นอกจากนี้สีสันของมันดูเรียบง่าย และเหมาะกับการถ่ายวิดีโอแนว Action ได้อย่างดีเลยทีเดียว แต่ว่าอาจจะมีเรื่องที่ต้องหงุดหงิดใจที่ ไม่มีระบบชาร์จด้วย และ กล้องความละเอียดน้อย และ เลนส์มุมกว้างใช้ได้เฉพาะวิดีโอเท่านั้น 

อย่างไรก็ดี มือถือรุ่นนี้มีราคาเพียง 6,990 บาท เท่านั้น ถือว่าน่าสนใจเพราะคู่แข่งกลุ่มนี้ ไม่เยอะและสเปกของมันก็ตอบโจทย์ได้ดีเมื่อเทียบกับราคา 

สุดท้าย ถ้าคุณต้องการมือถือที่ดูหนังได้ดี, กล้องถ่ายวิดีโอนิ่งราวกับ Action Camera แต่งบไม่ได้มีมาก Motorola One Action ถือว่าน่าเลือกซื้ออย่างมากเลยครับ 

จุดเด่น 

• การถ่ายวิดีโอนิ่งและคมชัดดีมาก 
• ลูกเล่นน่าสนใจและครบเครื่อง 
• ได้ Android One อัปเดตได้นาน 
• ระบบความปลอดภัยครบครัน 
• ราคาเปิดที่คุ้มค่า 

ข้อสังเกต 

• ไม่มีระบบชาร์จไฟไว 
• ไม่กันน้ำ 
• เลนส์ Wide ใช้ได้แต่วิดีโอเท่านั้น