![[Hands On] สัมผัส Realme 2 Pro มือถือสเปคดี กล้องถ่ายชัดราคาถูกกว่าที่คาด](http://s.isanook.com/hi/0/ud/292/1463669/re.jpg?ip/crop/w670h402/q80/jpg)
Realme แบรนด์มือถือน้อยใหม่ที่มีอายุทีมงานนั้นเฉลี่ยเพียง 27 ปีเท่านั้น ทำให้หลายคนสงสัยว่าพวกเขาจะทำมือถืออกมาอย่างไร และตอนนี้ในประเทศไทยได้เผยแพร่เครื่องอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นรุ่น Realme 2 Pro นั่นเอง ทีม Sanook! Hitech ไม่พลาดที่จะนำมือถือรุ่นนี้มาสัมผัสแรกให้ได้เห็นและรู้รายละเอียดกันแบบชัดเจน

ด้านหน้าของเครื่องมาพร้อมกับขนาดหน้าจอ 6.3 นิ้ความละเอียด Full HD หน้าจอมีพื้นที่ 90.8 % จัดว่าเยอะในอันดับต้นๆ ของวงการมือถือ นอกจากนี้มาพร้อมกับกล้องหน้าทรงหยดน้ำและมีลำโพงของตัวเครื่องไว้ที่ด้านบน ส่วนล่างสุดมีปุ่มควบคุมระบบปฏิบัติการ Android


ด้านข้างตัวเครื่องออกแบบด้วยการเลือกใช้วัสดุโครเมี่ยม แต่มีการทำให้ตัวเครื่องโค้งรับกับมือได้ดี ฝั่งซ้าย มีปุ่มกด Power ฝั่งขวา มีปุ่มปรับระดับเสียงช่องใส่ซิมการ์ด และความจำฝั่งข้างซ้าย


ด้านบนมีแค่ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน ด้านล่างมีแค่ช่องเสียบหูฟัง, ช่องเสียบ Micro USB, ไมโครโฟนและลำโพงมาให้อย่างครบครัน


ด้านหลังออกแบบด้วยสีสันที่สวยงามมาพร้อมกับ 2 สีให้เลือกคือ สีฟ้า และ สีดำ มาพร้อมกับกล้องหลังคู่ และ ระบบสแกนลายนิ้วมือ พร้อมโลโก้ Realme ที่เด่นชัด


เปิดเครื่องมาพบกับระบบปฏิบัติการ Color OS 5.2 รุ่นใหม่ มาพร้อมกับ Android 8.1 Oreo ซึ่งมีความคล้ายกับ OPPO แต่ว่าการตกแต่งของ UI ที่ทำให้มันแตกต่างกันออกไปอย่างมากเลยทีเดียว
นอกจากนี้ฟีเจอร์เด่นของเครื่องคงเป็นเรื่องของการให้สเปคที่สูงเพราะได้ใช้ Qualcomm Snapdragon 660 AIE นอกจากนี้ยังได้ RAM 4 / ความจำในตัว 64GB พร้อมกับเพิ่มความจำในตัวได้ด้วย ในราคาที่จับต้องได้ง่าย

ส่วนกล้องนั้นมีมาให้ทั้งกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับ AI Beauty ที่ปรับเรื่องของความสวยและตั้งให้ละลายหลังได้ด้วย

ส่วนกล้องหลังความละเอียด 16 + 2 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับฟีเจอร์หน้าชัดหลังละลาย และลูกเล่นไม่ว่าจะเป็นสติ๊กเกอร์ หรือ โหมดการถ่ายวิดีโอ 1080P ก็มีให้คร
ถึงแม้ว่ารูปร่างหน้าตาของ Realme ที่พูดตรงๆ ว่าเหมือนกับ OPPO ในบางรุ่นแต่งก็มีความแตกต่างกันอยู่เล็กน้อยในเรื่องของฟีเจอร์และการทำงานในภาพรวม ซึ่งทำให้ตัวเครื่องมีความน่าใช้งานไม่เบาเลยทีเดียว ซึ่ง Realme 2 Pro นั้นตอบโจทย์ในเรื่องการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างดี โดยไม่ต้องจ่ายเงินแพงจนเกินไป

เพราะราคาเครื่องนั้นอยู่ที่ 6,590 บาท เท่านั้น แต่สำหรับวันนี่ 7 และ 11 พฤศจิกายน นี้จะมีการวางจำหน่ายผ่านทาง Lazada ซึ่งจะเป็นการลดราคาเครื่องให้เลือกเพียง 5,990 บาท และหลังจากวันที่ 11 แล้วจะวางขายแบบ Flash Sale ทุกวันพุธในราคาปกติ แต่ทั้งหมดจะมีการเปลี่ยนแปลงได้เรื่อยๆ ทำให้มีความคุ้มค่าและน่าจับจองอย่างยิ่งเลย แต่ทั้งหมดเป็นเพียงแค่การลองเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น หลังจากนี้มันจะตอบโจทย์การใช้งานของทีม มากแค่ไหน ติดตามอ่านต่อในรีวิวเร็วๆ นี้ครับ