ยังจำกันได้หรือไม่ว่า มี Notebook รุ่นหนึ่งที่ทีม Sanook! Hitech ได้ไปจับไกลถึงสหรัฐอเมริกา แม้ว่าตอนนี้ผ่านมาถึง 9 เดือนหลังจากเปิดตัวแล้ว ก็ยังคงมีความน่าสนใน จนต้องขอนำมารีวิวอีกครั้ง และมันก็คือ Dell XPS 13 (2018) รุ่นนี้
รายละเอียดของ Dell XPS 13 (2018) เฉพาะเครื่องที่ได้รีวิว
เริ่มต้นที่ฝาหน้าของเครื่อง Dell XPS 13 มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ด้วยการเลือกใช้วัสดุสีเงินอย่างดีพร้อมกับโลโก้ Dell ประทับตรากลางเครื่องที่เด่นชัดมากกว่ารุ่นก่อน
Dell XPS 13
ด้านข้างเครื่อง ยังคงความบางเหมือนกับ Ultrabook ทั่วไป และเป็นครั้งแรกของ XPS ที่ช่องเสียบแทบทั้งหมดเป็นแบบ USB-C ต่างกันที่ฝั่งซ้ายมี ให้ 2 ช่องพร้อมกับปุ่มตรวจสอบแบตเตอรี่ว่าเหลือเท่าไหร่ และลำโพงตัวเครื่องฝั่งซ้าย
Dell XPS 13
Dell XPS 13
ด้านขวามีช่องเสียบหูฟัง, USB-C ที่สามารถแปลงภาพออก Display Port ได้และ Micro SD พร้อมด้วยลำโพงตัวที่ 2
Dell XPS 13
Dell XPS 13
ส่วนเปิดฝาหน้าเรียบ อาจจะผลักยากหน่อย แต่มีไฟบอกสถานะเครื่องกำลัง Sleep ได้
Dell XPS 13
บานหน้าเหลี่ยมสันไม่ได้สลักคำอะไร เน้นความแข็งแรงเป็นหลักเพราะตกแต่งด้วยสีดำ กับขอบเครื่องเป็นมีเงิน
Dell XPS 13
ใต้เครื่องมาพร้อมกับร่องระบายอากาศ น่าเสียดายเพียงแค่ โลโก้ XPS จะไม่สามารถเปิดได้เหมือนแต่ก่อย
Dell XPS 13
เมื่อเปิดมาจะพบกับหน้าจอความละเอียดระดับ 4K แถมให้การแสดงผลของสีแบบ DCI-P3 รองรับ HDR10 ด้วย และเครื่องที่ได้รีวิวเป็นรุ่นท็อปหน้าจอจะสามารถทัชสกรีนได้ด้วย ส่วนล่างของหน้าจอมีกล้องพร้อมกับระบบสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคจาก Windows Hello
Dell XPS 13
ส่วน Keyboard มีขนาดใหญ่กำลังดีพร้อมกับ Touchpad ที่ละเอียดแต่รู้สึกเล็กไปหน่อยเมื่อได้จับต้อง
Dell XPS 13
Dell XPS 13
ภาพรวมถือว่าเป็น Ultrabook ที่น้ำหนักเบาเพียง 1.2 กิโลกรัมตัวเครื่องขนาดเท่ากับ 11.6 นิ้วแต่ได้หน้าจอขนาดใหญ่ถึง 13.3 นิ้ว ผมถือว่าเป็นอีกคอมพิวเตอร์ที่พกพาง่ายอยู่และวัสดุเกรดดีมาก
Dell XPS 13
Dell XPS 13
ขึ้นชื่อว่ารุ่นท็อปอย่าง Dell XPS 13 ต้องใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Pro ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุด มาพร้อมกับ Windows Hello
สเปคของ Dell XPS 13 นั้นเลือกใช้ Intel Core i7 8550U พร้อมกับ SSD สูงสุด 512GB, RAM 16GB รองรับ WiFi 802.11 AC พร้อมกับ Bluetooth V4.2 ประสิทธิภาพของเครื่องทำได้ดีและไม่ตกบกพร่อง แต่เสียดายแค่ การ์ดจอเป็นแบบ Onboard อยู่ แต่สำหรับคอมพิวเตอร์ระดับนี้คงไม่มีใครคิดมากหรอกครับ
ความเจ๋งของ Dell XPS 13 คือเรื่องระบบระบายความร้อนที่ใช้ GORE Thermal Insulation เข้ามา ทำให้เกิดการกระจายความร้อนในตัวเครื่องอย่างรวดเร็วและทำให้ความร้อนที่เกิดขึ้นน้อยลง ส่งผลให้นอกจากเครื่องทำงานเต็มประสิทธิภาพ ยังช่วยประหยัดไฟได้
แบตเตอรี่ของ Dell XPS 13 ให้มาขนาด 3 Cell เหมือนเดิม เมื่อทดลองใช้งานหากไม่ได้ใช้งานเยอะสามารถทนได้ระดับ 10 ชั่วโมงได้ แต่จะลดลงตามประสิทธิภาพในการใช้งาน
ส่วนลูกเล่นที่พบภายใน Dell XPS 13 (2018) มีดังนี้
มีระบบจัดการเรื่องของระบบเสียงทำให้คุณฟังเพลง หรือ ดูหนังให้อารมณ์ที่ดีมาก
นอกจากนี้ Dell ยังมี Premium Support ที่สามารถดูแลเรื่องปัญหาของเครื่อง, จัดการเรื่องต่างๆ ครบเครื่อง
Dell XPS 13 x Dell Ultra Slim Display S2419HW
และการทำงานกับ หน้าจอ LCD ของ Dell ที่รองรับเทคโนโลยี Dell Cinema จะทำให้สีของภาพออกมาสมจริงอย่างเช่นหน้าจอ Dell Ultrathin S2419HM ที่ทำให้ภาพออกมาสวยสมจริงเพราะหน้าจอของทั้งคู่รองรับการสแสดงผลแบบ Display HDR 400 และให้สีตรงในแบบ DCI-P3 แต่สำหรับ Display รุ่นนี้จะมีความสว่างที่ 600 nits และขอบหน้าจอบางลงแทบจะไร้กรอบเลยก็ว่าได้ เป็นอีกอุปกรณ์เสริมที่เหมาะกับ Dell XPS 13 เครื่องนี้
Dell XPS 13
หลังจากที่ได้ลองสักพักหนึ่ง Dell XPS 13 เป็นอีกคอมพิวเตอร์ที่น่าใช้สามารถทำงานได้ดีและยังรองรับการทำงานที่หลากหลายแถมตัวเครื่องที่ดูเหมาะกับการทำงานอย่างมาก และบางเบาจนเรียกได้ว่าเป็น Macbook Pro ในเวอร์ชั่น PC ไม่มีผิดเลยล่ะครับ
แต่ก็มีจุดด้อยไม่กี่จุดเช่น บางคนอยากให้ได้ Port แบบเดิมกลับมา, ดูแลเครื่องยากเพราะไม่มีฝาเปิดให้เข้าไปดูแลเครื่องได้ง่าย และจำกัดหน้าจอทัชสกรีนเฉพาะรุ่นท็อป แต่ก็ไม่ได้ทำให้เป็นรองกว่าใคร
ราคาของ Dell XPS 13 แบบ Ultrabook มีดังนี้
ซึ่งดูราคาแล้วแอบสูงไปบ้างแต่ถ้ามองถึงเรื่องของคุณภาพงานประกอบ ประสิทธิภาพที่ได้มาของตัวเครื่องและภาพรวมการใช้งานที่ผมให้ว่ามันน่าใช้อีกเครื่องหนึ่งในกลุ่มราคานี้ นี่ก็เป็นตัวเลือกที่น่ามองไม่เบา แต่ถ้าเทียบกับ Macbook หรือ Macbook Pro ต้องขึ้นกับความชอบของระบบปฏิบัติการเป็นหลักด้วย สุดท้าย Dell XPS 13 คือคอมพิวเตอร์พกพาสเปคดี และ หน้าตาหล่อกับราคาอาจจะสูงไป แลกกับครบเครื่องจริงๆ
สรุปจุดเด่นของ Dell XPS 13 (2018)
สรุปจุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมหากต้องการซื้อ Dell XPS 13 (2018)