รีวิวหูฟัง "Sony WF-SP700N" และ "Sony WI-SP500" หูฟังรุ่นสปอร์ดที่ตอบโจทย์ทั้งไร้สายและมีสาย
กลับมาพบกับรีวิว Gadget จาก Sanook! Hitech กันอีกครั้ง คราวนี้ มาพูดกันถึงเรื่องของหูฟังกันหน่อยดีกว่า เนื่องจากมีหูฟังรุ่นหนึ่งที่เปิดตัวภายในงาน CES 2018 และวางจำหน่ายได้ไม่นาน มันก็คือ Sony WF-SP Series ที่มีคุณสมบัติสามารถกันน้ำ และใช้ออกกำลังกายได้นั่นเอง ครั้งนี้ เราได้หูฟังจาก Sony มาทั้งหมด 2 รุ่นคือ WI-SP500 ที่ถูกสุด และ WF-SP700N รุ่นที่เป็นแบบไร้สายและราคาท็อปสุด มาดูกันว่าจะเป็นอย่าง และน่าใช้หรือไม่
ภายในกล่องของ Sony WI-SP500 และ WF-SP700N มีอุปกรณ์อะไรบ้าง มาดูกัน
สำหรับ Sony WI-SP500 จะมีอุปกรณ์ดังนี้
- หูฟัง Sony WI-SP500
- คู่มือการใช้งาน + ใบรับกระกัน
- จุกปรับเปลี่ยนขนาดหูฟัง
- สายชาร์จไฟ Micro USB
กล้องของ Sony WF-SP700N จะมีอุปกรณ์มาให้ดังนี้
- กล่องชาร์จไฟหูฟัง
- หูฟัง Sony WF-SP700N
- คู่มือการใช้งาน + ใบรับประกัน
- จุกปรับเปลี่ยนขนาด
- สายชาร์จไฟ Micro USB
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่องและการออกแบบดีไซน์ของ Sony WI-SP500 และ WF-SP700N
เรามาเริ่มต้นที่หูฟังแบบมีสาย WI-SP500 กันก่อน จุดแรกที่เป็นเอกลักษณ์คือ หูฟังรุ่นนี้ออกแบบให้มีความยาว แต่มี Driver ขนาดใหญ่ 13.5 มิลลิเมตร เป็นแบบ In Ear พร้อมกับสายที่มีขนาดไม่ได้ใหญ่มาก
ฝั่งขวาจะมีปุ่มกดเปิดเครื่องอยู่หน้าสุด สามารถควบคุมให้เล่นเพลง, หยุดเพลงชั่วคราวได้ ภายในจะมีปุ่มระดับเสียงเพิ่มลด และสามรถกดค้างเพื่อ เลื่อนเพลงไปข้างหน้า หรือ ถอยหลังได้ และชาร์จไฟที่อยู่บนสุดแบบ Micro USB พร้อมฝาปิด และมี NFC เท่ากับฝั่งนี้เป็นการควบคุมทั้งหมด
ฝั่งซ้ายปล่อยว่างไว้ไม่มีปุ่มกดอะไร เหลือแต่รูปทรงเหมือนกับฝั่งขวา และมีให้เลือกทั้งหมด ภ สีคือ ดำ, ขาว, เหลือง และ ชมพูอ่อน
มาทางด้านของ WF-SP700N กันบ้าง เริ่มจากฐานตัวเครื่องที่มีลักษณะเหมือนกับไข่ที่เป็นสี่เหลี่ยมผิวเนียนด้านบนมีฝาที่หมุนเปิดปิดได้ 360 องศา
ภายในฝาจะเป็นที่อยู่ของหูฟัง Sony WF-SP700N ทั้งด้านซ้ายและขวา และสามารถชาร์จไฟหูฟังได้
ด้านหลังของหูฟังรุ่นนี้มี NFC สำหรัแตะเพื่อเชื่อมต่อ และชาร์จไฟด้วย Micro USB
ตัวหูฟังของ Sony WF-SP700N จะเรียวเหมือนเมล็ดข้างใน ภายนอกทั้ง 2 ข้างจะมีไมโครโฟนสำหรับรับเสียงรบวน ต่างกันที่ ข้างนอกฝั่งซ้ายจะเป็นปุ่มเปิดเครื่อง ฝั่งขวาจะเป็นปุ่มฟังก์ชั่นสั่งงานด้วยเสียง
ข้างในของทั้งคู่จะเป็นหูฟังแบบ In Ear Driver เล็กกว่า และมีขั้วเสียบสำหรับชาร์จไฟกับฐานของเครื่อง
ทั้งคู่กันน้ำได้ในระดับ IP4X เท่ากัน โดยสามารถกันเหงื่อในการกำลังออกกำลังกายได้ และมีให้เลือก 4 สีคือ ดำ,ขาว , เหลือง และ ชมพูอ่อน
เปิดเครื่องใช้งาน Sony WI-SP500 และ WF-SP700N พร้อมการทดสอบฟังก์ชันต่างๆ
การเปิดหูฟังของ Sony WI-SP500 จะต้องใช้ส่วนควบคุมจากฝั่งซ้ายทั้งหมดเริ่มจากกดเปิดเครื่อง เมื่อกดค้างจะเข้าสู่การ Pairing หูฟังจะกระพริบไฟน้ำเงินค้างไว้ แล้วเปิด Bluetooth เชื่อมต่อได้ทันที แต่สำหรับมือถือที่มี NFC ให้แตะแล้วเชื่อมต่อได้ทันที
ส่วน Sony WF-SP700N วิธีการเชื่อมต่อก็ทำเหมือนกัน แต่ปุ่มควบคุมจะอยู่ทางหูด้านซ้าย กดค้างไว้แล้วให้ไฟกระพริบเป็นสีแดง น้ำเงินสลับกันแล้วถึงจะ Pair ได้ แต่ถ้าแนะนำ แตะ NFC ที่ฐานด้านหลังแล้วค่อยเชื่อมต่อจะง่ายกว่า
ลักษณะเสียงที่ออกมาจากหูฟังจะคล้ายกัน คือเน้นเรื่องของเสียงกลาง และมีเน้นไปทางเบสมากขึ้น เพราะมี Extra Bass และมีเทคโนโลยี SBC ทำให้คุณภาพเสียงเพลงเสถียร แถมทั้งคู่ ฟังเพลงได้ดี ไม่หลุดง่ายๆ เหมาะกับการใช้วิ่งได้
ความแตกต่างของ WI-SP500 จะมี Driver ของหูฟังขนาด 13.5 มิลลิเมตร ทำให้หูฟังใหญ่และกระชับ และให้เสียงคุณภาพดี แถมยังรสามารถให้เสียงข้างนอกเข้ามาได้นิดหน่อย มันไม่มี Noise Canceling มาให้ จึงไม่สามารถต่อเชื่อมกับ Apps ได้ แต่อย่างน้อยก็ใช้รับสาย วางสาย ฟังเพลงได้
แต่สำหรับ Sony WF-SP700N จะมีระบบ Digital Noise Canceling การทำงานเมื่อเปิดระบบตัดเสียงรบกวน จะใช้ไมโครโฟนทั้ง 2 ตัวทั้งข้างนอกและข้างใน ช่วยให้เสียงรบกวนหายไปเกือบ 100% แต่คุณสามารถเปิด Ambient Sound ให้เข้ามาได้ทั้ง เสียงของคน หรือ เสียงสภาพแวดล้อมก็ได้ รวมถึงปรับรุงเรื่องคุณภาพเสียงผ่าน Apps Headset Connect ได้
นอกจากนี้ในรุ่นWI-SP500 และ WF-SP700N ยังสามารถใช้งานสั่งานงานผ่าน Google Assistant ได้เพียงกดปุ่มที่หูด้านขวาค้างไว้ สำหรับ SP700N แต่ SP500 กด เปิดหูฟัง 2 ครั้งก็พูดสั่งได้เลย
ส่วนอายุแบตเตอรี่ที่ลองมานั้น WI-SP500 เคลมว่าใช้ได้ 8 ชั่วโมง จากที่ลองนั้น ได้นานสุด 7 ชั่วโมง โดย หูฟังจะมีการแจ้งเตือนไฟฟ้าเหลือน้อยเอง
ขณะที่ WF-SP700N เคลมว่าได้ 9 ชั่วโมง เอาเข้าจริง ตัวหูฟังเปล่า ๆ ฟังได้ 3 – 4 ชั่วโมง ก็ใกล้หมด จนปิดเอง แต่ชาร์จไฟจากฐานทำได้ 3 รอบ ทำให้ใช้งานได้นานสุด 9 ชั่วโมงตามที่เคลม และเป็น Truly Wireless ที่แบตเตอรี่อึดอีกตัวหนึ่ง
สรุปผลหลังทางทีมงาน Sanook! Hitech ได้ทดสอบและลองเล่น Sony WI-SP500 และ WF-SP700N มาสักระยะ
ถือว่าเป็นหูฟังรุ่นสปอร์ดเพื่อคนรักการออกกำลังกาย เพราะเสียงออกแบบเพื่อคนที่ชอบออกกำลังกายที่จะใข้เพลงจังหวะสนุกสนาน และมีคุณภาพเสียงที่พอจะฟังเพลงสยละเอียดได้ดีเหมือนกัน โดยถ้าชอบความเงียบและสงบ SP700N เป็นคำตอบที่ดี ส่วนถ้าไม่ได้คิดมากเรื่องตัดเสียงรบกวน แต่ต้องการความคุ้มค่า SP500 จะได้คำตอบที่ใช่ครับ
ส่วนราคานั้นมีดังนี้
- Sony WI-SP500 ราคา 2,990 บาท
- Sony WF-SP700N ราคา 7,490 บาท
คู่แข่งนั้นคงเป็นหูฟังแนว Sport เหมือนๆ กัน แต่ถ้ามองแล้ว SP500 เป็นหูฟังที่ราคาถูกและน่าคบหาจริงๆ และมีให้เลือก 3 สี ส่วน SP700N มีราคาที่ถูกกว่า Jabra Elite Sport แต่ก็แพงกว่า AirPods เล็กน้อย เท่านั้น แต่เลือกตัวไหนดี ลองดูข้อดี และ จุดสังเกตด้านล่างก็เป็นคำตอบที่ดีเหมือนกันครับ
สรุปจุดเด่นของ Sony WI-SP500 และ WF-SP700N
- WF-SP700N มีระบบ Noise Canceling ที่ตัดเสียงดีพอๆ กับรุ่นที่แพงกว่า
- กันน้ำทั้งคู่
- แน่นหนาไม่หลุดง่าย
- ระบบเสียงชัดเจน เน้นไปทางเบสมาก
- รองรับ Software ในการปรับแต่งเสียงได้
- ใช้สั่งงานกับ Google Assistant ได้
- WI-SP500 แบตเตอรี่อึดและใช้ได้นาน
สรุปจุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมหากต้องการซื้อ Sony WI-SP500 และ WF-SP700N
- การปรับรูปแบบเสียง ผ่าน Apps ยังมีอาการหน่วง
- ระเบบเสียงเน้นเบส เพื่อกระตุ้นการออกกำลังกายมากกว่า
- ไม่มี Software เกี่ยวกับการออกกำลังกาย