ประกาศยุทธศาสตร์ปี 2018 เผยก้าวต่อไปของ Huawei

ประกาศยุทธศาสตร์ปี 2018 เผยก้าวต่อไปของ Huawei

ประกาศยุทธศาสตร์ปี 2018 เผยก้าวต่อไปของ Huawei
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หัวเว่ย (Huawei) เปิดเผยกลยุทธทางธุรกิจใหม่ที่เกิดขึ้น เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำอันดับ 1 ของการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานสมาร์ทโฟน ให้แก่ผู้บริโภค ชู 4 ประเด็นสำคัญคือ การเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม การรักษาคุณภาพที่ได้มาตรฐานระดับโลก การร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำของโลก และการดำเนินธุรกิจภายใต้หลักความรับผิดชอบต่อสังคม

ข้อมูลการตลาดของ Huawei ในปี 2017

โดย Huawei ได้เผยข้อมูลการเติบโตของประเทศไทยและระดับ Global ว่า ทาง Huawei มีการเติบโตที่สูงมาก โดยเฉพาะในประเทศไทยที่เติบโตจากเพียง 1.2% ก้าวสู่เลข 2 digit แล้วในเดือนพฤษภาคมปีที่ผ่านมา ซึ่งทาง Huawei เปิดเผยว่าตลาดการแข่งขันของโลกมือถือนั้นเป็นการแข่งขันที่ดุเดือดมาก เพราะดูจากภาพคือผู้บริโภคไม่ได้มีจำนวนผู้ใช้งานเติบโตขึ้น แต่เป็นการเปลี่ยนเครื่องตามยุคสมัยแทน ซึ่งหัวเว่ยก็ได้มีการวางแผนการตลาดเพื่อผลักดันให้ตัวเองก้าวสู่อันดับ 1 ในตลาดของมือถือ

และ Huawei นั้นเป็นบริษัทที่มี Opportunity ที่มากกว่าบริษัทอื่น ๆ ตั้งแต่การลงทุนที่ทาง Huawei ได้เน้นการพัฒนาด้านมือถือได้โดยตรง ด้วยงบการลงทุนด้านวิจัยสูงมากถึง 45,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งคิดเป็นอันดับ 5 ของโลก

นอกจากปัจจัยข้างต้นแล้ว ทาง Huawei ยังมีสิ่งที่แตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ คือการใช้โมเดลธุรกิจที่เรียกว่า Global Innovation Hive ประกอบด้วย

การดำเนินธุรกิจในรูปแบบของบริษัทเอกชน (Privately Held) ซึ่งช่วยให้หัวเว่ยขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว ใช้องค์ความรู้โดยรวม ให้พนักงานมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของธุรกิจ เปิดรับองค์ความรู้ใหม่ทั่วโลก โดยให้พนักงานทุก ๆ คนที่อยู่แต่ละประเทศที่เขามีความถนัดด้านนั้น ๆ สร้างโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากความชำนาญและประสบการณ์ของพนักงานทั่วโลก พร้อมร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำทางด้านอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากมายในการดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ “ไทย” คือ 1 ในประเทศยุทธศาสตร์ของ Huawei

โดยประเทศไทยเป็น 1 ในประเทศที่ Huawei มองเป็นยุทธศาสตร์หลักหนึ่งของเขา โดยมีการลงทุน Innovation ต่าง ๆ มากมายในประเทศไทยไม่ว่าจะเป็น Huawei CSIC ในปี 2016 และ Huawei Openlab Bangkok ที่ลงทุนไปมากกว่า 10 ล้านบาท

ปัจจุบัน Huawei มีแบรนด์ช้อปแล้ว 60 ร้าน เติบโตจากปีก่อนถึง 6 เท่า และร้านค้าดีลเลอร์ต่าง ๆ ก็เติบโตขึ้นเป็น 10,000 ร้านค้า รวมไปถึงการขยาย Huawei Customer Service Center เป็น 14 สาขา มากกว่าเดิม 3 เท่าเพื่อรองรับจุดรับสินค้ากว่า 1,000 จุดทั่วประเทศ

และ Huawei ก็ได้มีกิจกรรมต่าง ๆ มากมายที่ทำให้ทั่วโลกรู้จักเรามากขึ้นเช่น การโฆษณาบน BTS หรือกิจกรรมแชร์ภาพถ่ายกว่า 100,000 รูปขึ้นไปบน Cloud

เป้าหมายของ Huawei

ในแง่ของเป้าหมายหรือ Objective ที่ Huawei ต้องการทำคือหัวเว่ยต้องการทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด โดยแบ่งเป็น 4 สิ่งคือ

Innovation สินค้ามีความใหม่ล้ำสมัยกว่าใคร Quality สินค้าจะต้องมีคุณภาพกว่าใคร สินค้าจะต้องมีการทดสอบทุกอย่าง ผ่านขั้นตอนที่ทำให้มั่นใจว่า สินค้าทุกตัวออกมานั้น มีคุณภาพที่เหมาะกับคุณจริง ๆ Openness รับฟังความคิดเห็นของทุกคนและนำไปปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าเดิม ทาง Huawei เริ่มเรียนรู้และรับฟังว่า ต้องมาทำอะไรบ้างหากเกิดปัญหา (ในเคสของ Memory ที่เรา) Social Responsibility เรื่องการทำการตลาด การตอบรับโลกโซเชียลได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเรื่องของ Ecosystem ที่ทาง Huawei ได้เล็งเห็นว่าการสร้างผลิตภัณฑ์จะต้องมาพร้อมความรับผิดชอบในธรรมชาติ โดยการลดการใช้พลังงานไฟฟ้าด้านอื่นนอกเหนือจากโซล่าเซลล์ หรือการพัฒนาการสร้างโทรศัพท์ที่เป็น Eco-friendly สร้างสรรค์ให้โลกของเราน่าอยู่ยิ่งขึ้นกว่าเดิม Huawei กับ CPU Kirin

ถัดมาทางหัวเว่ยได้ออกมาพูดถึงการพัฒนาของ Chipset Kirin ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่ทาง Huawei พัฒนาขึ้นมาด้วยตัวเอง โดยมีการพัฒนาที่รวดเร็วขึ้นเรื่อย ๆ จนมาถึงปัจจุบันที่สามารถลดขนาดตัวทรานซิสเตอร์ลงไปได้เหลือเพียง 10 นาโนเมตร และมีจำนวนถึง 5.5 พันล้านตัว

Huawei ยังมีการพัฒนาทั้งด้านเทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่ปัจจุบันเป็นเทคโนโลยี 4.5 G ที่มีความรวดเร็วและความเสถียรสูงยิ่งขึ้นกว่าเดิม รวมไปถึงเรื่องของกล้องที่มีความฉลาดมากขึ้น ถ่ายภาพสวยขึ้น และมีการจัดการนำเอารูปหลาย ๆ รูปมารวมกันกลายเป็นรูปเดียวที่สมบูรณ์ที่สุด มีเทคโนโลยี 4 อย่างคืือ Fast Response ถ่ายรูปได้ไว Motion Detection สามารถจับวัตถุได้เป็นอย่างดี ไม่มีภาพเบลอเพราะมี Fast Focus ปิดท้ายด้วยการถ่ายภาพ Low Light ที่ให้ความละเอียดของภาพที่ดี มีระบบ Noise Reduction ที่มีประสิทธิภาพกว่ามือถืออื่น ๆ

รวมไปถึงระบบ AI Vision ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยให้มือถือสามารถตรวจสอบวัตถุต่าง ๆ ได้ว่า สิ่งนั้นคืออะไร มีรูปร่างเป็นอย่างไร (สามารถวัดขนาด น้ำหนัก และ Calories ได้อีกด้วย ว้าวมาก!) และ AI จะรู้ว่า จังหวะไหนของภาพเป็นสิ่งที่ทางผู้ถ่ายต้องการมากที่สุดเมื่อกด จึงทำให้การถ่ายภาพทุกครั้งกลายเป็นภาพที่มีความหมายสำหรับคุณอย่างแน่นอน

และในเรื่อง Image Recognition AI หรือระบบการตรวจจับวัตถุภายในภาพ ทาง Huawei ก็ได้มีการทดสอบให้ดูถึงความเจ๋งของ CPU Kirin 920 ที่พัฒนาขึ้นมาทางด้านนี้โดยตรงว่า ดีกว่าคู่แข่งขนาดไหนตามคลิปนี้เลย

ความร่วมมือกับ Leica

ไม่เพียงเท่านี้ ทาง Huawei ยังได้มีบริษัทที่ได้รับความร่วมมือในการผลิตกล้องอย่าง Leica ซึ่งเป็นบริษัทที่มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่ปี 1914 เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานด้านการถ่ายภาพของมือถือที่ทำให้คุณหลงไหลแบบสุด ๆ

โดยทั้งหมดที่กล่าวมานั้น Huawei เพียงคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดที่ผู้บริโภคจะได้รับจากผลิตภัณฑ์และการดำเนินงานของหัวเว่ย ซึ่งความคาดหวังสูงสุดของ Huawei คือ การเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งที่ครองใจผู้บริโภคชาวไทยได้อย่างเต็มภาคภูมิ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook