สัมผัสแรก Nokia 2 สมาร์ทโฟนรุ่นถูกสุดของโนเกีย แต่แบตฯ อึดสุด

เรียกได้ว่ามาเร็วดั่งใจเลยก็ว่าได้สำหรับ Nokia 2 ซึ่งเป็นมือถือใหม่ล่าสุดที่โนเกียได้เปิดตัวไปไม่นานมานี้ และมีราคาไม่แพง และเชื่อว่าหลายคนที่เฝ้ารอคอยก็เยอะเหมือน วันนี้ Sanook! Hitech ได้ไปลองจับมือถือรุ่นนี้สั้นๆ มาให้คุณได้อ่านกันว่าจะคุ้มไหมกับราคาพูดไว้ก่อนว่า ถูกกว่าที่คิด

รูปร่างของ Nokia 2

ด้านหน้า แสดงให้เห็นว่าเป็น มือถือที่มีขนาดหน้าจอกลางๆ ไม่เล็กไปและใหญ่ไป โดยใช้แบบหน้าจอ LTPS LCD ที่ให้ความคมชัดระดับ HD ทำให้ดูไม่ด้อยกว่ารุ่นพี่

 

ด้านบนมีกล้องหน้าขนาด 8 ล้านพิกเซลพร้อมกับโลโก้ Nokia อยู่ขวามือที่ดูโดดเด่น

 

ด้านล่างมีการจัดระเบียบปุ่มกดให้ไปอยู่ภายในหน้าจอทั้งหมดทำให้ยืดขยายหน้าจอใหญ่ขึ้นได้

 

ด้านข้างทำจากอะลูมิเนียมและมีการเคลือบด้วยผิวด้านๆ ทำให้เวลาจับเครื่อง ถนัดมือมากขึ้น ปุ่มกดจะอยู่แค่ฝั่งขวาเท่านั้น

 

ด้านบนมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ด้านล่างมีช่องเสียบ Micro USB

 

ด้านหลังเป็นพลาสติกที่ดูดีและผิวด้าน มาพร้อมกับกล้องหลังขนาด 8 ล้านพิกเซลและมี LED Flash นอกจากนี้ยังมีลำโพงอยู่ด้านล่าง

 

และฝาหลังแกะออกมาได้สามารถใส่ซิมการ์ดได้ 2 ใบและ Micro SD อีก 1 ช่อง แต่ไม่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้

 

สเปคของ Nokia 2

 

ด้วยความที่เครื่องราคาไม่แพงทำให้สเปคของ Nokia 2 จึงได้ใช้แค่ Qualcomm Snapdragon 212, RAM 1GB ความจำในตัว 8GB พร้อมกับรองรับ Micro SD ความจุสูงสุด 128GB รองรับ 4G ด้วย ถ้ามองไปแล้ว สเปคถือว่าดี แต่น่าเสียดายที่ความจำน้อยไปหน่อย

แต่จุดเด่นของ Nokia 2 อยู่ที่แบตเตอรี่ภายในเครื่อง ที่ให้มากถึง 4000 mAh เคลมว่าใช้งานได้สบายๆ ถึง 2 วันด้วยกัน ทำให้เครื่องรุ่นนี้มีความโดดเด่นในเรื่องการใช้งานที่ยาวนาน

คุณสมบัติเด่นที่น่าสนใจ

 

สเปคที่เห็นไปนั้น Nokia 2 กลับใช้ระบบปฏิบัติการ Android Nougat (7.1.1) และยังสามารถอัปเกรดไปที่ Android 8.0 Oreo ได้เช่นกัน เพราะไม่มีการปรับแต่งอะไรจึงทำให้เครื่องเกิดความลื่นไหน

นอกนั้นกล้องยังคงใช้ Inter Face เดิมที่ยังต้องทำความเข้าใจเล็กน้อยก่อนที่จะใช้งาน เพราะยังดูยุ่งยากไปหน่อย แต่คุณภาพทั้งกล้องหน้าและหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ทั้งคู่ถือว่า ลงตัวอยู่แล้วครับ

คุ้มค่าหรือไม่

 

มาปิดท้ายด้วยราคาของ โนเกีย 2 ที่เปิดตัวอยู่ที่ 3,490 บาท ถือว่าเป็นเครื่องที่น่าใช้ราคาไม่แพง เหมาะสำหรับคนที่อยากได้มือถือเน้นเรื่องอายุการใช้งานแบตเตอรี่ และมีฟีเจอร์ที่พอดีๆ มากกว่าเน้นความหวือหวา แต่จ่ายถูกกว่า Nokia 3 เล็กน้อย เท่านั้นเอง

แต่จะว่าไปแล้วมันคือการนำ Nokia 3 เพิ่มขนาดหน้าจอ ลดความหรูหราและน้ำหนักเบา แต่ใส่แบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้นเท่านั้นเอง แต่ถ้าใครอยากได้ อดใจรอหน่อยเพราะจะเริ่มวางจำหน่าย 15 ธันวาคม นี้

สุดท้ายแล้วเมื่อใช้งานจริงจะดีไหม พอหรือเปล่ากับความจำแค่นี้ รอดูรีวิวจริงที่ Sanook! Hitech เร็วๆ นี้ครับ