ส่อง 35 วิธีง่ายๆ ที่คุณคิดไม่ถึงในการช่วยประหยัดแบตเตอรี่ให้กับ iPhone และ iPad เครื่องโปรด
ผู้ใช้ iPhone และ iPad จำนวนไม่น้อย บอกว่า แบตเตอรี่ของเครื่องนั้น ใช้งานได้นานไม่เพียงพอในแต่ละวัน และหากคุณเป็นผู้ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 7 จนถึง iOS 10 ลากยาวไปถึง iOS ตัวใหม่ล่าสุดอย่าง iOS 11 ก็สามารถนำเทคนิคกว่า 30 อย่างต่อไปนี้ จะช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้คุณได้
- ไม่ควรเปิด ๆ ปิด ๆ แอปพลิเคชัน เพราะการปิดแล้วเปิดขึ้นมาใหม่ จะกินพลังงาน
- เปิดใช้งานโหมด Low Power
- อัพเดท iOS เพราะ เวอร์ชั่นใหม่ ๆ จะแก้ไขข้อผิดพลาดของ เวอร์ชั่นเก่า
- ตรวจเช็คสภาพของแบตเตอรี่บ้าง ว่าต้องซ่อม หรือต้องเปลี่ยนบ้างหรือไม่
- ตรวจสอบการใช้งานแบตเตอรี่ว่าเหลือพอกับการใช้งานแค่ไหน
- ตรวจสอบแอปที่กินพลังงานแบตเตอรี่ว่าแอปพลิเคชัน ไหนกินพลังงานมาก ซึ่งมักจะพบว่าเป็น Facebook
- ลดความสว่างของหน้าจอลง
- ใช้งานฟังก์ชั่น Auto –Lock เพื่อไม่ให้การเปิดหน้าจอทิ้งไว้กินพลังงาน
- ใช้ Ariplane Mode เพราะสิ่งที่กินพลังงานแบตเตอรี่มากที่สุดก็คือการเปิดเสาอากาศ เพื่อรับข้อมูลจากเครือข่ายทั้งเครือข่ายโทรศัพท์ และ WiFi
- ปิด WiFi บ้าง เพื่อไม่ให้อุปกรณ์ค้นหาแหล่งเชื่อมต่อ WiFi
- ปิด Bluetooth เมื่อไม่ได้ใช้งาน
- ปิด AirDrop ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่ทำให้เราสามารถส่งรูปภาพหรือไฟล์ไปยัง iPhone ใกล้เคียงได้
- ปิดการทำงานของ 3G และ 4G บ้าง ในกรณีที่ไม่มีความจำเป็น
- ลดเสียงลง บางคนอาจจะไม่ได้ตะหนักถึงข้อนี้ แต่การลดเสียงก็ช่วยประหยัดพลังงานได้จริง
- ปิดการสั่น เพราะเป็นอีกฟังก์ชั่นหนึ่งที่เปลืองพลังงาน
- ลด Visual effect ต่าง ๆ โดยเฉพาะพวก Effect สามมิติ
- หลีกเลี่ยงการเล่นเกม และแอปพลิเคชัน ที่ใช้พลังงานสูง
- ใช้กล้องน้อย ๆ และหลีกเลี่ยงการใช้แฟลชเมื่อไม่จำเป็น
- ปิดการทำงานของ Spotlight
- เลือกการแจ้งเตือนเฉพาะรายการที่สำคัญ
- ไม่จำเป็นต้องเปิดรับอีเมล์ตลอดเวลา
- ลบอีเมล์ออกบ้าง
- ปิด iCloud โดยเลือกปิดในสิ่งที่ไมได้ใช้งาน
- เช็ค iCloud drive ว่ามีแอปพลิเคชัน ที่เก็บข้อมูลที่ไม่มีความจะเป็นไว้บ้างหรือไม่
- ปิด Auto time zone เพราะ iPhone มีการอัพเดทอัตโนมัติ ตามเวลาของแต่ละประเทศ
- ปิดการทำงาน Location Service เพราะมีแอปพลิเคชัน จำนวนมากที่ใช้ Location Service ทำให้กินพลังงานมาก
- ปิด Hay Siri เพราะเป็นหนึ่งในฟังก์ชั่นที่ใช้พลังงานมาก
- หยุดการรีเฟช Background app
- เลือกอัพเดท app ด้วยระบบ Manual
- เลือกให้แสดง เปอร์เซ็นต์ของแบตเตอรี่
- ให้ Calibrate เป็นประจำสักเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อให้อุปกรณ์ประมาณค่าแบตเตอรี่ได้อย่างแม่นยำ
- ตรวจเช็คบ่อย ๆ ว่า เหลือแบตเตอรี่เพียงพอต่อการใช้งานอีกนานแค่ไหน
- ระวังเรื่องการใช้งานอุปกรณ์ในขณะที่เสียบชาร์จ เพราะอาจจะทำความเสียหายให้กับแบตเตอรี่ได้
- ปิดเครื่องบ้างเมื่อไม่มีการใช้งาน
- ในกรณีที่ได้ลองใช้เทคนิคข้างต้นแล้ว แต่แบตเตอรี่ก็ไม่เพียงพอต่อการใช้งานอยู่ดี ก็ให้เลือกการใช้แบตเตอรี่สำรอง