เปิดตำนานบทใหม่กับ Nokia อดีตแบรนด์มือถือยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งของโลก

เปิดตำนานบทใหม่กับ Nokia อดีตแบรนด์มือถือยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งของโลก

เปิดตำนานบทใหม่กับ Nokia อดีตแบรนด์มือถือยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งของโลก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เปิดตำนานบทใหม่กับ Nokia อดีตแบรนด์มือถือยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งของโลก ย้อนดูความเป็นมาเบื้องต้นในยุครุ่งเรือง จนถึงช่วงเปลี่ยนผ่าน พร้อมรายละเอียดล่าสุดกับก้าวใหม่ในวงการมือถือ!

เชื่อว่าผู้ใช้สมาร์ทโฟนในยุคนี้หลายคนต้องเคยได้ยินชื่อของแบรนด์ยอดนิยมที่เรียกได้ว่าเป็นอดีตตำนานแห่งวงการมือถือในชื่อ Nokia อย่างแน่นอน เพราะในช่วงยุคต้นของการพัฒนาเทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือเรียกกันง่ายๆ ว่า มือถือ นั้น จะมีมือถือแบรนด์ดังอยู่เพียงไม่กี่แบรนด์ที่สามารถทำตลาดได้ค่อนข้างครอบคลุม และโด่งดัง อย่างเช่น Siemens, Motorola และอีกแบรนด์หนึ่งก็คือ Nokia ซึ่งการเติบโตทางธุรกิจของ Nokia ดูท่าจะไปได้สวย และเหมือนจะไร้คู่แข่ง แต่เหตุการณ์กลับตาลปัตรเพราะ Nokia ประสบปัญหาทางธุรกิจแทบจะในทุกๆ ด้าน หลังจากยึดมั่นในความคิด และเส้นทางของตนเองอย่างแน่วแน่จนเกินไป ซึ่งส่งผลให้แบรนด์คู่แข่งเติบโตมาบดบังรัศมียักษ์ใหญ่รายนี้จนหายไปจากวงการในที่สุด

แต่หลังจากห่างหายธุรกิจมือถือ และสมาร์ทโฟนไปอย่างยาวนาน ล่าสุดแบรนด์ Nokia ก็กำลังจะกลับมาอีกครั้ง ซึ่งการกลับมาในครั้งนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับบรรดาผู้ใช้สมาร์ทโฟนทั่วโลกอย่างมาก เพราะยังมีเหล่าผู้ใช้ที่ชื่นชอบ และผ่านประสบการณ์การใช้งานมือถือ Nokia มาบ้างแล้วว่ามีคุณภาพดีเพียงใด วันนี้เราจึงจะพาทุกท่านไปรับชมความเป็นมาคร่าวๆ ของ Nokia ในยุครุ่งเรือง จนถึงช่วงเวลาที่หายไปจากวงการ และการกลับมาอีกครั้งของยักษ์ใหญ่รายนี้ หากทุกท่านพร้อมแล้ว ติดตามชมไปพร้อมกันได้เลยครับ

 Nokia ในยุครุ่งเรือง กับการเป็นเบอร์หนึ่งของโลก

1

ภาพตัวเครื่อง Nokia 3310

2

ภาพตัวเครื่อง Nokia N-Gage


หากพูดถึงชื่อของ Nokia ใครหลายคนคงนึกถึงมือถือยอดนิยมรุ่นหนึ่งที่ถือเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของโนเกียไปเสียแล้ว นั่นคือ Nokia 3310 มือถือฟีเจอร์โฟนที่ใช้งานปุ่มกดแบบเก่า ซึ่งมือถือในรูปแบบนี้เองที่ทำให้ Nokia ค่อยๆ เติบโตในตลาด พร้อมไต่เต้าขึ้นเป็นยักษ์ใหญ่ระดับโลกได้ด้วยการผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ใช้งานเสาอากาศด้านใน และดีไซน์ตัวเครื่องที่มีรูปแบบไม่ซ้ำซากจำเจ รวมถึงการดีไซน์ให้มีขนาดกะทัดรัด เหมาะมือ และสะดวกในการพกพา, การใช้ริงโทนแบบเสียงเมโลดี้ที่ดูแปลกใหม่ หรือจะเป็นเกมในเครื่องที่ใครหลายคนคงเคยเล่นผ่านมือกันมาบ้าง (โดยเฉพาะเกมงูอันโด่งดัง) รวมไปถึงคุณภาพของงานประกอบตัวเครื่องที่เรียกได้ว่าคงทน แข็งแรงกว่าเจ้าอื่นๆ ทั้งหมด ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ล้วนทำให้ Nokia ก้าวขึ้นเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งได้อย่างไม่ยากเย็น
 

3

ภาพตัวเครื่อง iPhone 3GS

4

ภาพตัวเครื่อง Samsung Galaxy S1


แต่เมื่อเวลาดำเนินผ่านไปจนเข้าสู่ช่วงของการเปลี่ยนผ่านในโลกของเทคโนโลยีการสื่อสารในยุค EDGE/GPRS ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอินเทอร์เน็ตเริ่มเข้ามามีบทบาทกับอุปกรณ์มือถือบ้างแล้ว แต่ในช่วงต้นของยุค 2000 ผู้คนส่วนใหญ่ยังเน้นการสื่อสารด้วยเสียงเป็นหลัก ทำให้ Nokia ยังทำยอดขายได้ทะลุเป้าเช่นเคย แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงปี 2009 เป็นต้นไป Nokia ประสบปัญหาด้านการพัฒนาระบบ ทำให้มือถือเรือธงที่มีกำหนดจะเปิดตัวก็ต้องเลื่อนออกไปก่อน และในปี 2009 ก็เป็นปีที่ Apple เปิดตัว iPhone 3GS ซึ่งนับเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นสำคัญที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้อย่างล้นหลาม หรือจะเป็นในปี 2010 ที่ Samsung เปิดตัว Samsung Galaxy S1 สมาร์ทโฟนเรือธงที่พัฒนาได้สมบูรณ์ในระดับหนึ่งแล้ว ทำให้ Nokia มีคู่แข่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่บริษัทตนเองก็ประสบปัญหาอยู่เช่นกัน

 

ตำนานของ Nokia กับช่วงเวลาในการเปลี่ยนผ่าน

5

ภาพตัวเครื่อง Nokia N8 ที่ใช้งานระบบปฏิบัติการ Symbian

6

กราฟแสดงความนิยมของมือถือ Symbian กับมือถือ Android ที่สวนทางกันอย่างเห็นได้ชัด


หลังจากการเติบโตของ iOS ของ Apple และ Android OS ของ Google เริ่มกลายเป็นคู่แข่งสำคัญสำหรับ Nokia ซึ่งในขณะนั้นมือถือ Nokia ยังใช้งานระบบปฏิบัติการ Symbian ที่ยังพัฒนาได้ไม่สมบูรณ์เต็มร้อยทั้งในส่วนของฟีเจอร์การใช้งาน และแอปพลิเคชัน ทำให้ Nokia ต้องหันมาตัดสินใจเลือกว่าจะดำเนินธุรกิจต่อภายใต้การพัฒนาระบบปฏิบัติการใดในช่วงต้นปี 2011 ซึ่งคำตอบที่เราทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วก็คือ Nokia เลือกเส้นทางไปต่อกับ Windows OS ของ Microsoft
 

7


ปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วงเวลานั้น Windows OS ที่มี Microsoft เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการไอทีคอยหนุนหลังอยู่นั้นดูท่าทางน่าจะมีภาษีกว่า Android OS ของ Google ที่มีแบรนด์มือถือหลายแบรนด์เข้าร่วมใช้งานกันค่อนข้างมาก ด้วยการที่เป็น Open Source ให้ใครมาใช้ก็ได้ ดังนั้นรูปแบบการใช้งานของมือถือที่ใช้งาน Android OS จึงอาจจะไม่แตกต่างกันมากนัก ขณะที่ Nokia ได้เลือกใช้งาน Windows OS ก็น่าจะเป็นช่องทางที่สร้างความแตกต่างระหว่างผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ตนเองกับแบรนด์อื่นได้ชัดเจนมากที่สุด หากแต่ใครจะคาดคิดได้ว่าการเลือกทางเดินเส้นนี้ของ Nokia จะทำให้ชื่อที่โด่งดังกลายเป็นตำนานที่ใครหลายคนไม่อยากให้เกิดขึ้น

 

ปิดตำนาน Nokia อดีตยักษ์ใหญ่แห่งวงการมือถือโลก

8


หลังจากตัดสินใจเข้าร่วมกับ Microsoft ด้วยการใช้งาน Windows OS ในปี 2011 เป็นต้นมา ซึ่งในระหว่างนั้นเราก็น่าจะได้เห็นแบรนด์สมาร์ทโฟน Nokia ตระกูล Lumia ผ่านตากันมาบ้าง หรือจะเป็น Nokia ที่ใช้งานระบบ Android ในชื่อ Nokia X ก็มีเช่นกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สมาร์ทโฟนแทบทุกรุ่นที่ Nokia ผลิตหลังจากปี 2011 โดยหันมาใช้งาน Windows OS ไม่สามารถทำยอดขายได้ตามเป้าเลยแม้แต่รุ่นเดียว ทำให้บริษัทรับภาระหนักทั้งเรื่องค่าใช้จ่าย และปัญหาธุรกิจอีกรอบด้านจากต้นเหตุที่สมาร์ทโฟนในค่ายไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร

สาเหตุหนึ่งที่เป็นตัวแปรหลัก และเป็นปัจจัยสำคัญมากที่สุดในการล่มสลายของ Nokia ก็คือ Windows OS ระบบปฏิบัติการที่ Nokia เชื่อว่าจะพัฒนาได้ดีในอนาคต แต่กลับกลายเป็นว่า Microsoft ซึ่งเป็นเจ้าของกลับพัฒนาระบบได้ช้ากว่าที่คิดไว้มาก ทั้งในเรื่องของ UI, ฟีเจอร์การใช้งาน และแอปพลิเคชัน ซึ่งคลังแอปพลิเคชันอย่าง Windows Store นั้นก็แทบจะไม่ดึงดูดให้นักพัฒนารายใดมาพัฒนาแอปพลิเคชันบน Windows OS เลยแม้แต่น้อย (หากใครที่เคยลองเล่นจะพบว่าใน Store นั้นมีแอปพลิเคชันให้เลือกน้อยมากๆ) ทำให้ Windows Phone กลายเป็นมือถือที่ผู้ใช้ไม่เลือกซื้อเพราะตอบสนองต่อความต้องการในการใช้งานได้ไม่ครอบคลุมมากพอ

และหลังจากการดิ้นรนมาเป็นเวลากว่า 3 ปี นับจากช่วง ค.ศ. 2011-2013 แบรนด์มือถือชื่อดังอย่าง Nokia ก็ทนแบกรับภาระต่อไปไม่ไหว และในช่วงปลายปี 2013 Nokia ก็ตัดสินใจขายบริษัทในส่วนของกิจการมือถือให้กับ Microsoft เจ้าของระบบปฏิบัติการ Windows OS ที่ Nokia เคยเชื่อมั่น ซึ่งถือเป็นการปิดตำนานแบรนด์สมาร์ทโฟนชื่อดังไปอย่างน่าเสียดาย

 

เปิดตำนานบทใหม่ของ Nokia กับการกลับมาอีกครั้งในร่างของ HMD Global Oy

9


หลังจากที่ต้องขายกิจการให้กับ Microsoft ในช่วงปลายปี 2013 เป็นต้นมา แฟนๆ Nokia หลายคนต่างก็เฝ้ารอว่าอดีตมือถือแบรนด์ดังจะมีโอกาสกลับมาผลิตสินค้าคุณภาพดีให้ได้ใช้งานกันอีกหรือไม่ ซึ่งล่าสุดการเฝ้ารอนั้นจะสิ้นสุดลง เพราะ Nokia กำลังจะหมดสัญญากับ Microsoft ในช่วงปลายปี 2016 นี้แล้ว ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ถ้าใครที่ติดตามข่าวสารในวงการสมาร์ทโฟนจะเริ่มเห็นว่า Nokia กำลังเคลื่อนไหวอีกครั้งภายใต้การควบคุมของบริษัท HMD Global Oy ซึ่งมีทีมงานที่ไม่ใช่คนอื่นคนไกล เพราะกลุ่มผู้บริหารเกือบทั้งหมดเป็นอดีตผู้เชี่ยวชาญ และพนักงานของ Nokia ทั้งสิ้น
 

15

ผู้บริหารในตำแหน่งสำคัญของบริษัท HMD Global Oy ล้วนเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในการทำงานมาแล้วทั้งสิ้น อย่างเช่น Arto Nummela ดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของ HMD ในปัจจุบัน เข้าร่วมงานกับ Nokia ตั้งแต่ปี 1994 ซึ่งดูแลในส่วนการสร้างผลิตภัณฑ์, บริหารธุรกิจ และการตลาด, Juhi Sarvikas ผู้บริหารระดับสูงด้านผลิตภัณฑ์ มีประสบการณ์ด้าน Key Product Management, Product Creation และ Product Strategy และสุดท้าย Florian Seiche ผู้ดำรงตำแหน่งประธานบริษัท HMD Global เคยดำรงตำแหน่งรองประธานอาวุโสของ Nokia และ Microsoft จนถึงเมื่อไม่นานมานี้

เห็นได้ชัดว่า HMD Global Oy เตรียมพร้อมที่จะสานต่อธุรกิจมือถือ Nokia อีกครั้ง หลังจากที่เคยเดินทางผิดพลาดมาแล้วในอดีต โดยบริษัท HMD จะถือสิทธิ์ในการควบคุมดูแลผลิตภัณฑ์มือถือภายใต้แบรนด์ Nokia ตลอด 10 ปี ข้างหน้า ส่วนบริษัทผู้ผลิต และประกอบตัวเครื่องจะดำเนินการโดยบริษัท Foxconn

 

สมาร์ทโฟนโฉมใหม่จาก Nokia จะมาพร้อมฟีเจอร์อะไรบ้าง

11


เมื่อ Nokia เริ่มเคลื่อนไหวอย่างมีนัยสำคัญตลอดช่วงครึ่งหลังของปี 2016 เป็นต้นมา ข่าวลือเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดที่ Nokia เตรียมจะเปิดตัวในปีหน้าก็เริ่มแพร่กระจายเป็นวงกว้างมากขึ้น ซึ่งในขณะนี้มีชื่อรุ่นของสมาร์ทโฟน Nokia อยู่สองรุ่นที่มีความเป็นไปได้ว่าอาจมีการเปิดตัวจริงๆ นั่นก็คือ Nokia D1C และ Nokia P1


Nokia D1C

12


สำหรับ Nokia D1C คาดการณ์กันว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางของค่ายที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการที่พวกเขาเคยปฏิเสธไปในครั้งก่อนอย่าง Android OS เวอร์ชัน 7.0 Nougat ใหม่ล่าสุด โดยข้อมูลเท่าที่ทราบในขณะนี้คาดว่า Nokia D1C จะมาพร้อมกับคุณสมบัติตัวเครื่องเบื้องต้น ดังนี้

- หน้าจอแสดงผลแบบ Full HD 1080p
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 430
- ชิปเซ็ตประมวลผลกราฟิก Adreno 505
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3GB
- หน่วยความจำภายในขนาด 32GB
- กล้องด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
- กล้องด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Nokia D1C

 

Nokia P1

13


สำหรับ Nokia P1 รุ่นนี้เคยมีข่าวลือออกมาว่า Nokia จะวางสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ให้อยู่ในระดับเรือธงรุ่นแรกของค่าย และจะพัฒนาให้มีฟีเจอร์ระดับไฮเอนด์ไม่แพ้แบรนด์อื่นในตลาดด้วยเช่นกัน โดยคาดว่าคุณสมบัติตัวเครื่องเบื้องต้นของ Nokia P1 จะมีดังนี้

- ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุโลหะ (All-Metal Unibody)
- หน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED 2K Quad HD ขนาด 5.2 นิ้ว และ 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1440x2560 พิกเซล
- ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 820 หรือ 821
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขั้นต่ำขนาด 4GB
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Nokia P1

 

สรุป

14


หลังจาก Nokia ผ่านเรื่องราวต่างๆ มามากมาย ทั้งในยุคที่รุ่งเรืองถึงขีดสุดจนสามารถขึ้นไปยืนเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของโลกได้ แต่กลับต้องกลายเป็นผู้แพ้เพียงเพราะเดินเกมพลาด ทำให้ก้าวตามคู่แข่งไม่ทันจนต้องขายกิจการเพื่อความอยู่รอด แต่ Nokia ก็ยังยืนหยัดอดทน และเฝ้ารอวันเวลาที่จะกลับมาอีกครั้ง ซึ่ก็น่าจะเป็นที่ยืนยันแน่นอนแล้วว่า Nokia จะกลับมาโลดแล่นในวงการสมาร์ทโฟนในปี 2017 นี้หลังจากหมดสัญญากับ Microsoft อย่างเป็นทางการ ส่วนสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดที่คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2017 ภายในงาน Mobile World Congress 2017 จะมาพร้อมฟีเจอร์สุดเด็ด และคุณสมบัติตัวเครื่องอย่างไรบ้างก็คงต้องติดตามกันต่อไป

อย่างไรก็ตาม กรณีของ Nokia สามารถเป็นกรณีศึกษาชั้นดีให้กับเจ้าของธุรกิจหลายๆ คน หรือแม้กระทั่งมองเป็นตัวอย่างในการดำเนินชีวิตก็ได้ว่า บางครั้งการยืนอยู่บนจุดสูงสุดก็ไม่ได้เป็นตัวการันตีความสำเร็จเสมอไป แต่เราต้องรู้จักมองเกมให้ขาด มีวิสัยทัศน์มากพอที่จะจับกระแสได้ว่าในขณะนี้โลกกำลังต้องการอะไร และปรับตัวให้ไหลไปตามกระแสเทคโนโลยีในขณะนั้น อย่ายึดติดกับความเชื่อมั่นของตนเองมากจนเกินไป เพราะการดื้อดึงที่จะไม่ปรับตัว และเรียนรู้เพื่อพิสูจน์ตนเองในระยะยาว อาจทำให้คุณต้องตกที่นั่งลำบากก็เป็นได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ แม้ว่าคุณจะเผชิญกับอุปสรรคนานาประการ แต่คุณยอมอดทน และต่อสู้เพื่อความสำเร็จ หรือเพื่อแก้ตัวจากความผิดพลาดที่เคยเป็นมา สักวันจะต้องเป็นวันของคุณอย่างแน่นอน ดังเช่น Nokia ที่กำลังจะกลับมาหลังจากฟันฝ่าอุปสรรค และปัญหาทั้งหลายมายาวนานหลายปี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook