รีวิว Samsung Galaxy J7 Prime อัปเกรดรุ่นเดิมสู่บอดี้โลหะเต็มทั้งแท่ง

รีวิว Samsung Galaxy J7 Prime อัปเกรดรุ่นเดิมสู่บอดี้โลหะเต็มทั้งแท่ง

รีวิว Samsung Galaxy J7 Prime อัปเกรดรุ่นเดิมสู่บอดี้โลหะเต็มทั้งแท่ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถ้าพูดถึงมือถือบอดี้โลหะแบบทั้งแท่งแล้ว Samsung ยังไม่มีมือถือประเภทนี้ออกมาชัดเจนสักเท่าไหร่ แต่สำหรับรีวิวครั้งนี้คงตอบได้ว่าถ้า Samsung จะทำมือถือประเภทนี้ออกมาจะเป็นอย่างไร ขอเชิญพบกว่า รีวิว Samsung Galaxy J7 Prime กันเลยดีกว่า

รายละเอียดของ Samsung Galaxy J7 Prime

- ขนาดตัวเครื่อง 151.7 x 75 x 8 มิลลิเมตร

- สีตัวเครื่อง ดำ, ทอง, ขาว

- น้ำหนัก 167 กรัม

- CPU Exynos 7870 Octa-core 1.6 GHz Cortex-A53

- GPU Mali T830

- RAM 3GB

- ความจุในตัว 32GB

- เพิ่มความจำได้ด้วย Micro SD 128GB  (มีแถม 32GB)

- การเชื่อมต่อเครือข่ายมือถือ : 2G/3G/4G Cat 4 150/50 Mbps

- WiFi 802.11 b/g/n, Bluetooth V4.1

- หน้าจอ 5.5 นิ้ว IPS LCD ความละเอียด 1920x1080

- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล

- กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล F1.9 พร้อมกับระบบ Auto Focus + LED Flash

- แบตเตอรี่ 3300 mAh

- ระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow

 

รูปร่างของ Samsung Galaxy J7 Prime

ด้านหน้าของ Samsung Galaxy J7 Prime มาพร้อมกับกระจก Gorilla Glass ที่มีขนาดใหญ่กำลังดีพร้อมกับกระจกโค้งมนที่ 2.5D ทำให้ดูหรูหราขึ้นกว่าเดิมค่อนข้างมาอก พร้อมกับหน้าจอขนาด 5.5 นิ้วแบบ IPS LCD พร้อมกับความละเอียด 1920x1080 (Full HD) และรองรับมัลติทัช 10 จุด

ส่วนบน เซนเซอร์, หูฟัง โลโก้ Samsung พร้อมกับ กล้องหน้าขนาด 8 ล้านพิกเซล

 

ส่วนล่างมีปุ่ม Recent สำหรับสลับ Apps, ปุ่ม Home รองรับระบบสแกนลายนิ้วมือ และปุ่ม Back

ด้านข้าง แตกต่างกับ Samsung ทุกรุ่นที่ผ่านเพราะมีการนำขอบโลหะที่เป็นส่วนหนึ่งกับด้านหลังมารวมกันทำให้เครื่องดูดีขึ้นอย่างมาก ฝั่งซ้ายมีปุ่มปรับระดับเสียงพร้อมกับช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM และอีกช่องเป็นช่องใส่ซิมการ์ดใบที่ 2 และ Micro SD Card แยกถาดกันไปเลย

 

ข้างขวามีปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดเครื่อง และลำโพงตัวเครื่องอยู่ด้านนี้เช่นกัน

 

ด้านบนไม่มีช่องเสียบใด ๆ  

ด้านล่างมีช่องเสียบ Micro USB, หูฟัง 3.5 มิลลิเมตร และไมโครโฟน

ด้านหลัง มีกล้องหลังขนาด 13 ล้านพิกเซลพร้อมกับ Auto Focus และ LED Flash ซึ่งมีดีที่เลนส์ไม่ยื่น แต่ก็ขนาดเ,กไปสักหน่อย และใช้โลหะในการทำด้านหลังทั้งหมด จนทำให้ไม่สามารถติดตั้ง NFC ได้เหมือนกับ Galaxy J7 Version 2 และไม่สามารถเปิดฝาหลังได้อีกต่อไป

ภาพรวมของเครื่อง มีความแตกต่างจาก Galaxy J7 Version 2 อยู่พอสมควร ทั้งน้ำหนักที่เบากว่า ตัวเครื่องออกแบบได้เรียบร้อยกว่า แต่บางสิ่งที่รู้สึกว่าต้องทำใจว่าหายไปเช่น NFC แต่ได้ระบบสแกนลายนิ้วมือมาแทน อันนี้ก็เลยมองว่า ได้ประโยชน์จากรุ่นไหน ให้ซื้อรุ่นนั้นจะดีกว่าครับ

ประสิทธิภาพของ Samsung Galaxy J7 Prime

 

จากภาพการทดสอบ Benchmark ที่เห็นคะแนนของ Antutu นั้นทำได้อยู่ที่ 46304 คะแนน(ในรูปเป็นการทดสอบครั้งแรกได้คะแนน 42750 คะแนน) จัดว่าใกล้เคียงกับ Samsung Galaxy J7 Version 2 เรียกได้ว่ามันเพียงพอต่อการใช้งานในด้านต่างๆ อยู่ไม่น้อย อาจจะเล่นเกมหนัก ๆ ไม่ได้ก็เท่านั้นเอง

ส่วนแบตเตอรี่นั้นยังคงขนาดเท่าเดิมคือ 3300 mAh ถือว่าไม่ได้เล็กหรือใหญ่เกินไป เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่องและรุ่นนี้เบากว่าและการทดสอบแบตเตอรี่ออกมาอยู่ได้ที่ 7 ชั่วโมง 24 นาที

นอกจากนี้ Samsung ยังมีการเปลี่ยนระบบประหยัดพลังงานใหม่ที่เรียกว่าการวางแผนพลังงาน หรือ S Power Planning เมื่อกดเปิดแล้วคุณสามารถเลือกรูปแบบของจัดการพลังงานได้ทั้งหมด 3 ระดับคือ ประหยัดเพื่อไว้สำหรับโทร, ยืดอายุแบตเตอรี่ และ ถ้าพลังงานต่ำจะมีการส่งหมายเลขโทรฉุกเฉินให้คนที่เราเลือกไว้ให้ระบบส่งข้อความออกไปเมื่อแบตฯใกล้หมด

 

คุณสมบัติลูกเล่นที่น่าสนใจ

 

Samsung Galaxy J7 Prime มีการใช้งาน Android 6.0.1 Marshmallow เรียกว่าใหม่ล่าสุดแล้ว แต่ UI ของเครื่องก็ยังคงเป็น Touch WIZ ที่มาธีมเดียวกับ Samsung Galaxy S7/S7 edge

นอกจากนี้ยังมีระบบสแกนลายนิ้วมือเหมือนกับ Samsung Galaxy A และ Samsung Galaxy S7 ความรวดเร็วถือว่าเท่ากัน แต่ไม่สามารถใช้งาน Samsung Pay หรือ NFC ได้เพราะบอดี้ข้างหลังเป็นโลหะนั่นเอง

ส่วนลูกเล่นอื่น ๆ นั้นยังคงมีครบไม่ว่าจะเป็นระบบการปรับเสียง Sound Alive, วิทยุ FM, เครื่องคิดเลข, เครื่องอัดเสียง, S Planner ตารางจัดการนัดหมาย, Memo ไว้จดบันทึก รวมไปถึง Galaxy Apps ไว้โหลด Apps สำหรับ Samsung และ S Health ไว้ดูแลสุขภาพคุณได้อีกด้วย

สำหรับกล้องของ Samsung Galaxy J7 Prime ใช้กล้องความละเอียดกล้อง 13 ล้านพิกเซล พร้อมกับรูรับแสง F1.9 รองรับระบบ Auto Focus และมี LED Flash ให้ในตัว พร้อมกับ UI กล้องที่ปรับใช้ได้ง่ายมาก ภาพรวมของการลองถ่ายภาพ ทุกสภาพแสงทำได้ดีหมด แต่ถ้ากลางคืน อาการช้ายังมีปรากฏ และภาพกลางคืนยังไม่ประทับใจสักเท่าไหร่ การถ่ายวีดีโอรองรับที่ F1.9

 

และกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลรูรับแสงเป็น F1.9 เท่ากัน แต่ไม่มี LED Flash มาให้ ทำให้การถ่ายภาพกลางคืนอาจจะมืดกว่าเล็กน้อย ส่วน Beauty Mode ปรับได้นิดหน่อย

 

(ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Samsung Galaxy J7 Prime)

 

สรุปจากการลองใช้ Samsung Galaxy J7 Prime

เรียกได้ว่าอัปเกรดตัวเครื่องให้ดูดีและหรูขึ้นเล็กน้อยแต่ยังคงได้รับประโยชน์จากตัวเครื่องเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหน้าจอที่ละเอียดขึ้นกว่าเดิม บอดี้โหละที่สวยหรู พร้อมกับฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่อัดใส่มาเยอะขึ้น แต่บางอย่างต้องทำใจเพราะอาจจะต้องเสียไปบางเรื่องเช่น NFC ไม่มี

 

ส่วนราคาของ Samsung Galaxy J7 Prime ตั้งไว้ที่ 9,900 บาท ถ้ามองเทียบกับรุ่นเดิมอย่าง Galaxy J7 Version 2 ก็จะพบว่าสิ่งที่เพิ่มเติมนั้นมากกว่าสิ่งที่ลดลง และยังได้เครื่องสวยก็ถือว่าน่าสนใจ แต่ถ้าอยากได้เทคโนโลยีล้ำ ๆ อย่าง NFC คงต้องอุดหนุน Version 2 ต่อไป และเทียบกับคู่แข่งก็ถือว่าเยอะพอสมควรแต่ชื่อชั้นของ Samsung คนก็ให้ความไว้วางใจมากกว่าครับ

 

ข้อดี

  • น้ำหนักเครื่องเบากว่าเดิม
  • แบตเตอรี่ทนมาก
  • สเปคเครื่องแรงดีจนพร้อมทุกการใช้งาน
  • กล้องหน้าความละเอียดมากขึ้น
  • มีสแกนลายนิ้วมือ

ข้อควรปรับปรุง

  • ไม่มี NFC
  • ลำโพงเบามาก
  • ไม่สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้เองอีกต่อไป

ขอบคุณ Samsung Galaxy J7 Prime โดย Thai Samsung Electronic  

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ ของ รีวิว Samsung Galaxy J7 Prime อัปเกรดรุ่นเดิมสู่บอดี้โลหะเต็มทั้งแท่ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook