เมื่อสัปดาห์ก่อนทีมงาน Sanook! Hitech ได้มีโอกาสทดลองมือถือที่เรียกว่าหลายคนตั้งตารอคอยว่าจะมาหรือไม่ กับ Samsung Galaxy A9 Pro ที่มาแบบเกินความคาดหมายพอสมควร เน้นจุดเด่นเรื่องแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ โดยการลองครั้งนี้ไปถึงปากช่องกันเลยทีเดียว แล้วตัวเครื่องที่จับมาเป็นอย่างไร มาดูกัน
รายละเอียดของ Samsung Galaxy A9 Pro
เริ่มจากรูปร่างของ Samsung Galaxy A9 Pro
ด้านหน้าของ Samsung Galaxy A9 Pro ออกแบบใน Theme ของ Metal Design เน้นความสวยงามและดูดีพอสมควร ความแตกต่างของรุ่นนี้อยู่ที่หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6 นิ้วความละเอียด 1920x1080 เรียกว่าละเอียดดีใช้ได้ และมีขอบหน้าจอที่ชัดมากอีกด้วย ทำให้การแสดงผลเต็มอารมณ์และเครื่องไม่ใหญ่เกินไป
ด้านบนมีกล้องหน้าขนาด 8 ล้านพิกเซล พร้อมกับเซนเซอร์และหูฟัง แน่นอนโลโก้ Samsung อยู่ตรงนี้เชนกัน
ด้านล่าง มีปุ่ม Recent สำหรับกลับหน้า Home พร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือ และ Back เพื่อย้อนกลับ
ด้านข้าง ทำจากอะลูมิเนียมเกรดดีพอสมควร ตัดลายแตกต่างจากมือถือราคาแพงหลายรุ่นของ Samsung เลือกใช้กัน โดยฝั่งซ้ายมีปุ่มปรับระดับเสียง
ฝั่งขวามีปุ่ม Power พร้อมกับช่องใส่ซิมแบบ Nano SIM
ด้านบนมีช่องใส่การ์ด Micro SD
ด้านล่าง มีช่องเสียบหูฟัง, Micro USB ไมโครโฟน และลำโพงเครื่อง
ด้านหลัง มีกล้องขนาด 16 ล้านพิกเซล พร้อมกับ LED Flash บนกระจก Gorilla Glass 4 ดูแข็งแรงพอสมควร
ภาพรวมจากที่ได้สัมผัส เรียกได้ว่าไม่แตกต่างจาก Samsung Galaxy A 2016 ที่เปิดตัว แต่เนื่องจากหน้าจอของเครื่องที่ใหญ่ถึง 6 นิ้วและขอบจอชิดทำให้การดูหนังหรือพื้นที่ใช้จอมากขึ้นเรียกได้ว่าตอบโจทย์สำหรับคนที่ไม่อยากซื้อ Tablet เลยก็ว่าได้ แต่ที่อาจจะไม่ชอบใจคือยังความลื่นเพราะกระจกทั้ง 2 ด้านแม้ดูดีขึ้น แต่ทำให้จับเครื่องไม่ค่อยอยู่
ส่วนสีที่จำหน่ายในประเทศไทยมีทั้งหมด 3 สีคือ ทอง, ขาว และ ดำ
ประสิทธิภาพ ของ Samsung Galaxy A9 Pro
สำหรับสเปคของ Samsung Galaxy A9 Pro ที่นำมาจำหน่ายในประเทศไทย ใช้ Qualcomm Snapdragon 652 Octa Core 1.8GHz RAM 4GB ความจำในตัว 32GB เพิ่มความจำได้ผ่าน Micro SD และรองรับ 4G LTE พร้อมกับ Bluetooth V4.1 และ WiFi 802.11 b/g/n เรียกว่าสเปคแรงและเหมาะกับการเล่นเกมได้ ซึ่งได้ลองทั้งหมดหลายเกมถือว่าลืนไหล และสามารถสลับไปยังเกมอื่น ๆ ได้แบบไม่ติดขัด เรียกว่าเพียงพอเลย
ส่วนแบตเตอรี่ให้มาขนาด 5,000 mAh ซึ่งเท่ากับ Powerbank บางตัว เมื่อรวมกับสเปคที่ได้บอกไป คุณสามารถเล่นเกมต่อเนื่อง หรือใช้งานด้านอื่น ๆ โดยผลจากการทดลองจากทริปนี้ เริ่มใช้งานตอน 10 โมง และถึงเวลาประมาณ 6 โมงครึ่ง เหลือแบตเตอรี่ขนาด 19% ซึ่งถือว่าอืด เพราะระหว่างที่ลองไม่ได้ปิดหน้าจอ ทำทั้งการเล่นเกม ดูซีรีย์และฟังเพลง ต้องมาชาร์จอีกครั้งช่วง 6 โมงครึ่งพอดี เพราะแบตเตอรี่เหลือน้อยเดินกว่าที่จะใช้ต่อ
อัลบั้มภาพ 28 ภาพ