[รีวิว] Samsung Galaxy S7 เติมเต็มความสมบูรณ์แบบด้วยดีไซน์แบบ 3D Glass บอดี้กันน้ำ กันฝุ่น

[รีวิว] Samsung Galaxy S7 เติมเต็มความสมบูรณ์แบบด้วยดีไซน์แบบ 3D Glass บอดี้กันน้ำ กันฝุ่น

[รีวิว] Samsung Galaxy S7 เติมเต็มความสมบูรณ์แบบด้วยดีไซน์แบบ 3D Glass บอดี้กันน้ำ กันฝุ่น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

[รีวิว] Samsung Galaxy S7 เติมเต็มความสมบูรณ์แบบด้วยดีไซน์แบบ 3D Glass บอดี้กันน้ำ กันฝุ่น และกล้องแบบ Dual Pixel สุดล้ำ พร้อมหน่วยความจำ RAM 4 GB แรงถึงใจ เคาะราคาแล้วที่ 23,900 บาท

เผยโฉมอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ Samsung Galaxy S7 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด ที่เรียกได้ว่า กลับมาเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปบน Samsung Galaxy S6 ให้สมบูรณ์แบบมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น คุณสมบัติในการรองรับหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด รวมไปถึงคุณสมบัติในการกันน้ำ กันฝุ่น ตามมาตรฐาน IP68

นอกจากนี้ ยังอัปเกรดคุณสมบัติต่างๆ ให้สมกับชื่อว่า รุ่นเรือธง ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลกว้าง 5.1 นิ้ว แบบ Super AMOLED ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล (577 ppi), ชิปเซ็ต Exynos 8 Octa 8890 แบบ 64-bit ความเร็ว 2.3 GHz รุ่นใหม่ล่าสุด, หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้าง F/1.7, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่ มาพร้อมกับขนาดของเม็ดพิกเซลที่ใหญ่ขึ้นเป็น 1.4 ไมครอน พ่วงด้วยระบบโฟกัสภาพความเร็วสูง และรูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.7, แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 (Marshmallow) บนดีไซน์ที่ผสมผสานระหว่างกระจกแบบ 3D Glass และตัวเครื่องโลหะ ทำให้ดูพรีเมียมมากกว่ารุ่นเดิมเท่าตัว

สำหรับราคาของ Samsung Galaxy S7 นั้น ล่าสุด ทางซัมซุง ประเทศไทย ประกาศราคาออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว โดย Samsung Galaxy S7 มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 23,900 บาท สำหรับรุ่นความจุ 32 GB ส่วน Samsung Galaxy S7 edge รุ่นหน้าจอขอบโค้ง มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 26,900 บาท สำหรับรุ่นความจุ 32 GB เช่นกัน

โดยในวันนี้ ถือเป็นฤกษ์งามยามดี ที่ทีมงาน techmoblog ได้สัมผัสตัวจริงเสียงจริงของ Samsung Galaxy S7 และพร้อมรีวิวให้ทุกท่านได้ชมกัน มาดูกันดีกว่าว่า สมาร์ทโฟนเรือธง รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ จะคุ้มค่าสมการรอคอยหรือไม่ ไปพิสูจน์พร้อมๆ กันกับ รีวิว Samsung Galaxy S7 โดยทีมงาน techmoblog ครับ

สเปค Samsung Galaxy S7

  • หน้าจอแสดงผลกว้าง 5.1 นิ้ว แบบ Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล (577 ppi)
  • ชิปเซ็ต 64-bit Exynos 8 Octa 8890 ความเร็ว 2.3 GHz (ประกอบด้วย ซีพียู Quad-Core Exynos M1 Mongoose 2.3 GHz และซีพียู Quad-Core Cortex-A53 1.6 GHz)
  • หน่วยประมวลผลภาพ Mali-T880 MP12 พร้อมรองรับ API กราฟิกแบบ Vulkan
  • หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB
  • หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 200 GB
  • กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
  • กล้องด้านหลัง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมระบบโฟกัสภาพแบบ Phase Detection Autofocus
  • แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh
  • รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
  • คุณสมบัติในการป้องกันน้ำ และป้องกันฝุ่น ตามมาตรฐาน IP68 ป้องกันน้ำได้ลึก 1 เมตร นานต่อเนื่อง 30 นาที และสามารถกันน้ำได้ โดยไม่ต้องอาศัยฝาปิดตามช่องเชื่อมต่อต่างๆ
  • ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 (Marshmallow)

>> สเปค Samsung Galaxy S7 ฉบับเต็ม
>> สเปค Samsung Galaxy S7 edge ฉบับเต็ม

รีวิว Samsung Galaxy S7 : ดีไซน์ และการออกแบบ

Samsung Galaxy S7 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาด 5.1 นิ้ว แบบ Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล (577 ppi) ซึ่งมีขนาดและความละเอียดหน้าจอเหมือนกับ Samsung Galaxy S6 ส่วนขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 142.4 x 69.6 x 7.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 152 กรัม ใหญ่กว่าและหนักกว่ารุ่นก่อนหน้าเล็กน้อย

ด้านบนของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย ไฟ LED สำหรับแสดงสถานะการทำงาน เช่น สายเรียกเข้า หรือขาร์จแบตเตอรี่, Proximity Sensor, Ambient Light Sensor, ลำโพงสำหรับสนทนา และกล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างถึง F/1.7 เลยทีเดียว

ด้านล่างของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย ปุ่มควบคุมการทำงาน ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่ม Home และปุ่มย้อนกลับ ซึ่งปุ่ม Home มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือในตัวอีกด้วย

ด้านขวาของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดตัวเครื่อง หรือล็อกหน้าจอแสดงผล ส่วนด้านซ้ายของตัวเครื่อง เป็นปุ่มปรับระดับเสียง

ด้านบนของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ลำโพงตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวนรอบข้าง และช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Hybrid Slot ซึ่งรองรับทั้งการใส่ซิมการ์ดแบบ nanoSIM และหน่วยความจำเสริมแบบ microSD Card โดย Samsung Galaxy S7 รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดภายในเครื่องเดียว แต่ไม่สามารถใส่ซิมการ์ดที่ 2 พร้อมหน่วยความจำเสริมแบบ microSD Card ได้ ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง

ส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร, พอร์ตเชื่อมต่อแบบ microUSB, ไมโครโฟนหลักสำหรับสนทนา และลำโพงเสียง

ด้านหลังตัวเครื่อง เป็นกระจกขอบโค้งสองด้านแบบ 3D Glass ประกอบด้วย กล้องด้านหลังแบบ Dual Pixel ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED และเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งรุ่นนี้ ไม่สามารถถอดฝาหลังเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ ภายในบรรจุแบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh

จุดขายสำคัญของ Samsung Galaxy S7 รุ่นนี้ก็คือ คุณสมบัติในการกันน้ำ กันฝุ่น ตามมาตรฐาน IP68 นั่นเอง โดยสามารถป้องกันน้ำได้ลึก 1 เมตร นานต่อเนื่อง 30 นาที และสามารถกันน้ำได้ โดยไม่ต้องอาศัยฝาปิดตามช่องเชื่อมต่อต่างๆ อีกด้วย

รีวิว Samsung Galaxy S7 : อินเทอร์เฟส และการใช้งานเบื้องต้น

Samsung Galaxy S7 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 (Marshmallow) ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ล่าสุด ณ ชั่วโมงนี้

สำหรับฟังก์ชันใหม่แกะกล่องที่มาพร้อมกับ Samsung Galaxy S7 นั่นก็คือ Always On Display ซึ่งเป็นการแสดงข้อมูลต่างๆ รวมไปถึงการแจ้งเตือนบนหน้าจอ Lock Screen โดยส่วนนี้ จะใช้พลังงานแบตเตอรี่น้อยมาก ไม่ต้องกลัวว่าจะสิ้นเปลืองแต่อย่างใด ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกส่วนที่จะให้แสดงบนหน้าจอได้ 3 แบบด้วยกัน ได้แก่ นาฬิกา, ปฏิทิน หรือรูปภาพ

รูปแบบปฏิทิน

และรูปภาพ

ตัวอย่างหน้าจอแบบ Always On Display

แถบ Notification Bar แสดงการแจ้งเตือน และทางลัดสำหรับการตั้งค่าต่างๆ

ผู้ใช้สามารถปรับแต่งหน้า Home Screen ได้ตามใจ ทั้ง Widget, เลือกวอลเปเปอร์, ธีม รวมไปถึงเลือกตารางหน้าจอบนหน้า Home Screen ได้ 3 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่ 4x4, 4x5 และ 5x5

App Drawer หน้ารวมแอปพลิเคชันทั้งหมดในตัวเครื่อง

การแตะปุ่ม Recent Apps 1 ครั้ง จะเป็นส่วนของ Multitasking เพื่อสลับไปใช้งานแอปพลิเคชันอื่น หรือปิดแอปพลิเคชันที่ไม่ใช้งาน

มาดูแอปพลิเคชันที่ติดตั้งมาให้แล้วในเครื่องกันบ้าง ซึ่งจะมีแอปพลิเคชันของทาง Samsung ไม่ว่าจะเป็น S Health, S Voice และ Galaxy Apps รวมไปถึงแอปพลิเคชันต่างๆ จากทาง Google ทั้ง Chrome, Gmail, Google Maps, YouTube และอื่นๆ

รวมไปถึงแอปพลิเคชันของ Microsoft ทั้ง Word, Excel, PowerPoint, OneDrive, OneNote และ Skype

Smart Manager แอปพลิเคชันสำหรับจัดการแบตเตอรี่, ที่จัดเก็บภายในตัวเครื่อง, หน่วยความจำ RAM และระบบป้องกันอุปกรณ์

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเกมภาพกราฟิกสวยเป็นพิเศษ แน่นอนว่า Samsung Galaxy S7 รุ่นนี้ ตอบสนองได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว เพราะมาพร้อมกับ ชิปเซ็ต 64-bit Exynos 8 Octa 8890 ความเร็ว 2.3 GHz, หน่วยประมวลผลภาพ Mali-T880 MP12 พร้อมรองรับ API กราฟิกแบบ Vulkan และหน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB

ปิดท้ายด้วยการทดสอบ Benchmark กันบ้าง โดยการทดสอบด้วยโปรแกรม Quadrant ได้ 54,026 คะแนน ส่วนการทดสอบ Geekbench 3 ได้ 2,123 คะแนนสำหรับการทดสอบแบบ Single-Core และ 6,187 คะแนนสำหรับการทดสอบแบบ Multi-Core

ส่วนมัลติทัช รองรับ 10 จุด

รีวิว Samsung Galaxy S7 : ทดสอบกล้องถ่ายรูป

สำหรับกล้องด้านหลังบน Samsung Galaxy S7 นั้น เป็นกล้องแบบ Dual Pixel ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ซึ่งถึงแม้ว่า ความละเอียดของกล้องด้านหลังจะน้อยกว่า Samsung Galaxy S6 แต่ในเรื่องของประสิทธิภาพนั้นดีกว่ามาก โดยมาพร้อมกับเซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1/2.5 นิ้ว, ขนาดของพิกเซล 1.4 ไมครอน และรูรับแสงที่กว้างขึ้นถึง F/1.7 พร้อมระบบการโฟกัสภาพแบบ Phase Detection Autofocus ซึ่งโฟกัสวัตถุได้ในเวลาเพียง 0.15 วินาที และระบบป้องกันภาพสั่นแบบ Smart OIS

กล้องด้านหน้าบน Samsung Galaxy S7 ความละเอียดอยู่ที่ 5 ล้านพิกเซล พร้อมโหมดมาตรฐานสำหรับการใช้งาน ซึ่งได้แก่ โหมดถ่ายภาพตนเอง, ถ่ายภาพตนเองแบบกว้าง, วีดีโอคอลลาจ, Live Broadcast และช็อตเสมือนจริง โดยโหมดถ่ายภาพตนเองนั้น มีลูกเล่นมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะเลือกปรับสีผิวได้ถึง 8 ระดับแล้ว ยังมีโหมดสปอตไลท์ สามารถเลือกได้ว่า จะให้ใบหน้าสว่างด้านซ้าย, ด้านขวา หรือสว่างเท่ากันทั้งหน้า อีกทั้ง ยังมีไฟแฟลชที่กล้องด้านหน้าอีกด้วย โดยจะใช้แสงสว่างของหน้าจอแบบ Super AMOLED เป็นไฟแฟลชนั่นเอง

ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยกล้องด้านหน้า

ส่วนกล้องด้านหลัง ประกอบไปด้วยโหมดการถ่ายภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็น อัตโนมัติ, โปร, โฟกัสที่เลือก, พาโนรามา, วีดีโอคอลลาจ, Live Broadcast, เคลื่อนไหวช้า, ช็อตเสมือนจริง, อาหาร, Hyperlapse และอื่นๆ โดยโหมดโปร สามารถตั้งค่าการถ่ายภาพได้ เช่น ปรับ ISO, WB หรือการโฟกัส เป็นต้น

ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยกล้องด้านหลัง

ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยกล้องด้านหลัง

ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยกล้องด้านหลัง

ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยกล้องด้านหลัง

บทสรุปการใช้งาน

หลังจากที่ทางทีมงาน techmoblog ได้ลองสัมผัสและทดสอบใช้งาน Samsung Galaxy S7 ถือว่า รุ่นนี้ ได้รับการปรับแต่งและพัฒนาให้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้าเป็นอย่างมาก เริ่มกันตั้งแต่ดีไซน์ภายนอกตัวเครื่องกันเลยทีเดียว ด้วยตัวเครื่องแบบโลหะและกระจกแบบ 3D Glass ที่ ให้ความหรูหราและดูพรีเมียมมากขึ้น รวมไปถึงดีไซน์ด้านหลัง ที่ดูโฉบเฉี่ยวมากกว่าเดิม นอกจากนี้ ยังเข้ามาเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปบน Samsung Galaxy S6 ได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งคุณสมบัติในการรองรับหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card ซึ่งรองรับสูงสุดถึง 200 GB, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด รวมไปถึงคุณสมบัติในการกันน้ำ กันฝุ่น ตามมาตรฐาน IP68 อีกทั้งไม่จำเป็นต้องอาศัยฝาปิดตามช่องเชื่อมต่อต่างๆ อีกด้วย

ส่วนคุณสมบัติในด้านอื่นๆ ก็ถูกอัปเกรดให้ดียิ่งขึ้นเช่นกัน เริ่มกันตั้งแต่ หน้าจอแสดงผลกว้าง 5.1 นิ้ว แบบ Super AMOLED ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล, ชิปเซ็ต 64-bit Exynos 8 Octa 8890 ความเร็ว 2.3 GHz, หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, กล้องด้านหลังแบบ Dual Pixel ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1/2.5 นิ้ว, ขนาดของพิกเซล 1.4 ไมครอน และรูรับแสงที่กว้างขึ้นถึง F/1.7 พร้อมระบบการโฟกัสภาพแบบ Phase Detection Autofocus ซึ่งโฟกัสวัตถุได้ในเวลาเพียง 0.15 วินาที และระบบป้องกันภาพสั่นแบบ Smart OIS, รองรับการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สายความเร็วสูง และรองรับการเชื่อมต่อเครือข่าย 4G LTE

สำหรับราคา และวันวางจำหน่าย Samsung Galaxy S7 กับ Samsung Galaxy S7 edge นั้น ทางซัมซุง (ประเทศไทย) ได้ประกาศราคาออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว โดย Samsung Galaxy S7 มีราคาอยู่ที่ 23,900 บาท ส่วน Samsung Galaxy S7 edge มีราคาอยู่ที่ 26,900 บาท วางจำหน่ายในวันที่ 18 มีนาคม 2559 นี้

 

จุดเด่นของ Samsung Galaxy S7

  • คุณสมบัติในการป้องกันน้ำ และป้องกันฝุ่น ตามมาตรฐาน IP68 ป้องกันน้ำได้ลึก 1 เมตร นานต่อเนื่อง 30 นาที และสามารถกันน้ำได้ โดยไม่ต้องอาศัยฝาปิดตามช่องเชื่อมต่อต่างๆ
  • หน้าจอแสดงผลกว้าง 5.1 นิ้ว แบบ Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล (577 ppi)
  • ชิปเซ็ต 64-bit Exynos 8 Octa 8890 ความเร็ว 2.3 GHz (ประกอบด้วย ซีพียู Quad-Core Exynos M1 Mongoose 2.3 GHz และซีพียู Quad-Core Cortex-A53 1.6 GHz)
  • หน่วยประมวลผลภาพ Mali-T880 MP12 พร้อมรองรับ API กราฟิกแบบ Vulkan
  • หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB
  • หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 200 GB
  • กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
  • กล้องด้านหลังแบบ Dual Pixel ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, เซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1/2.5 นิ้ว, ขนาดของพิกเซล 1.4 ไมครอน และรูรับแสงที่กว้างขึ้นถึง F/1.7 พร้อมระบบการโฟกัสภาพแบบ Phase Detection Autofocus ซึ่งโฟกัสวัตถุได้ในเวลาเพียง 0.15 วินาที และระบบป้องกันภาพสั่นแบบ Smart OIS
  • แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง
  • รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด พร้อมช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Hybrid Slot
  • เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Home
  • เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจที่ด้านหลังตัวเครื่อง
  • ฟังก์ชัน Always On Display ซึ่งเป็นการแสดงข้อมูลต่างๆ รวมไปถึงการแจ้งเตือนบนหน้าจอ Lock Screen
  • ระบบ GPS ในตัว พร้อมฟังก์ชัน A-GPS และรองรับการใช้งานร่วมกับระบบ GLONASS ของรัสเซีย และ Beidou ของจีน
  • ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 (Marshmallow) ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ล่าสุด ณ ชั่วโมงนี้

จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม

  • ไม่มีวิทยุ FM ในตัว
  • ไม่สามารถใส่ซิมการ์ดที่ 2 และหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card พร้อมกันได้
  • ไม่สามารถถอดแกะฝาหลังเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้
  • พื้นผิวที่เป็นกระจก เกิดรอยนิ้วมือได้ง่าย
  • ตัวเครื่องมีน้ำหนักมากกว่า และหนากว่า Samsung Galaxy S6

 ข้อควรทราบ: “เครื่อง Samsung Galaxy S7 ที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้ เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทาง ซัมซุง เท่านั้น ยังไม่ใช่เครื่องที่วางจำหน่ายจริงแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นตัวเครื่อง หรือฟังก์ชันการทำงานบางอย่างอาจจะยังไม่สมบูรณ์ 100% เหมือนกับเครื่องที่วางจำหน่ายจริง”

 

เมื่อจะซื้อสมาร์ทโฟนตัว Top อย่าง Samsung Galaxy S7 แล้วก็ต้องใช้คู่กับเน็ตแรงอย่างเช่นโปรโมชั่นจาก dtac เมื่อ ซื้อสมาร์ทโฟน 4G รุ่นใหม่คู่กับซิมแฮปปี้ เล่นเน็ต Super 4G รับสิทธิ์ซื้อแพ็กเน็ตเต็มสปีด 4 GB เพียง 99 บาท ใช้อินเทอร์เน็ตนาน 7 วัน ต่อเนื่องนาน 4 เดือน (นับตั้งแต่วันสมัคร) โดยสามารถกดเพื่อรับสิทธิ์ได้ที่ *399*208# แล้วกดโทรออก

รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.dtac.co.th/prepaid/camp/think-device-think-happy.html


สนับสนุนเนื้อหา: www.techmoblog.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook