หลังจากที่การประมูลคลื่นความถี่ 4G ในบ้านเราได้เสร็จสิ้นลงไปก่อนหน้านี้ ก็เรียกได้ว่าผู้ให้บริการเครือข่ายรายใหญ่ในประเทศไทยอย่าง AIS, dtac และ TrueMove H ต่างก็ออกแพ็กเกจ หรือโปรโมชั่นในการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบ 4G เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าหันไปใช้บริการจากค่ายตนเป็นการใหญ่
ซึ่งแพ็กเกจต่างๆ นั้นมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไปเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่มี ไลฟ์สไตล์ต่างกัน สำหรับท่านที่กำลังมองหาแพ็กเกจเล่นอินเทอร์เน็ต 4G แบบเต็มสปีด พร้อมรับค่าโทรฟรีสูงสุดในราคาเบาๆ ทางทีมงานจะขอนำเสนอการ เปรียบเทียบแพ็กเกจรายเดือนในราคาไม่เกิน 500 บาทจากทั้ง 3 ค่ายยักษ์ใหญ่ให้ได้เห็นภาพกันอย่างชัดเจนว่าค่ายใดคุ้มค่าต่อการใช้งานมากที่สุด
แพ็กเกจ Super Non-Stop จากเครือข่าย dtac
แพ็กเกจ Super Non-Stop ค่าบริการรายเดือน 499 บาทจาก dtac จะมาพร้อมกับค่าโทรฟรีทุกเครือข่าย 200 นาที และสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบ 4G รวมกับ 3G จำนวน 5 GB และรับเพิ่มอีก 5 GB ฟรีตลอด 12 เดือนตามระยะเวลาโปรโมชั่นรวมเป็น 10 GB พร้อมใช้งาน dtac Wi-Fi ฟรีไม่จำกัด และรับพื้นที่เก็บข้อมูลใน Capture App ฟรี 50 GB รวมถึงสิทธิพิเศษในการรับชมภาพยนตร์สูงสุด 20 เรื่องต่อเดือนจากบริการ PrimeTime
จุดเด่นของแพ็กเกจ Super Non-Stop ค่าบริการรายเดือน 499 บาทจาก dtac
- สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบ 4G และ 3G ได้รวมถึง 10 GB ต่อเดือน และหากใช้ไม่ครบตามจำนวนสามารถทบไปใช้ในเดือนต่อไปได้
- ฟรี dtac Life Care ประกันอุบัติเหตุวงเงินสูงสุดถึง 500,000 บาท
- ได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติมอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น dtacwifi, Capture App และ PrimeTime
- ได้รับสิทธิ์การใช้งานยาวนานต่อเนื่องถึง 12 เดือนเต็ม
จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมของแพ็กเกจ Super Non-Stop ค่าบริการรายเดือน 499 บาทจาก dtac
- เมื่อใช้อินเทอร์เน็ตเกินจากปริมาณที่กำหนด จะถูกลดความเร็วอินเทอร์เน็ตเหลือเพียง 384 Kbps
- ยังไม่มีการระบุแน่ชัดว่าหากพ้นจากช่วงโปรโมชั่นแล้วจะยังได้รับอินเทอร์เน็ตเพิ่มอีก 5 GB หรือไม่
ข้อมูลเพิ่มเติม : คลิก
แพ็จเกจ 4G MAX Speed จากเครือข่าย AIS
สำหรับแพ็กเกจ 4G MAX Speed ค่าบริการรายเดือน 488 บาทจากทาง AIS จะมาพร้อมกับค่าโทรทุกเครือข่ายจำนวน 200 นาที และสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบ 4G และ 3G รวม 10 GB พร้อมใช้งาน AIS Super Wi-Fi และรับสิทธิพิเศษจาก AIS Cloud+ จำนวน 100 GB ฟรี รวมถึงรับสิทธิ์ชมภาพยนตร์จาก AIS PLAY ฟรี 4 เรื่องต่อสัปดาห์
จุดเด่นของแพ็กเกจ 4G MAX Speed ค่าบริการรายเดือน 488 บาทจาก AIS
- สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบ 4G และ 3G ได้รวมถึง 10 GB ต่อเดือน
- สามารถเล่นอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงตลอดเวลาจนกว่าจะครบจำนวน และจะไม่มีการติด FUP
- ได้รับสิทธิพิเศษจากบริการอื่นๆ ของ AIS เพิ่มเติมอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น AIS Super Wi-Fi, AIS Cloud+ และ AIS PLAY
- ได้รับสิทธิ์การใช้งานยาวนานต่อเนื่องถึง 12 เดือนเต็ม
จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมของแพ็กเกจ 4G MAX Speed ค่าบริการรายเดือน 488 บาทจาก AIS
- เนื่องจากไม่มีการติด FUP หากใช้อินเทอร์เน็ตเกินจากแพ็กเกจจะต้องเสียเงินเพิ่มตามปริมาณการใช้งานจริงในอัตรา 99 บาทต่อ 1 GB
ข้อมูลเพิ่มเติม : คลิก
แพ็กเกจ 4G iSmart EXTRA จากเครือข่าย TrueMove H
ในส่วนแพ็กเกจ 4G iSmart EXTRA ค่าบริการรายเดือน 499 บาทจากทาง TrueMove H จะมาพร้อมกับค่าโทรทุกเครือข่าย 100 นาที และโทรฟรีในเครือข่ายเดียวกันช่วงเวลาตี 5 จนถึง 5 โมงเย็นตลอดระยะเวลาโปรโมชั่น 12 เดือน พร้อมใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบ 4G รวมกับ 3G จำนวน 2 GB และรับเพิ่มอีก 1.5 GB เป็นเวลานาน 6 เดือน พร้อมใช้งาน Wi-Fi ได้ไม่จำกัด
จุดเด่นของแพ็กเกจ 4G iSmart EXTRA ค่าบริการรายเดือน 499 บาทจาก TrueMove H
- สามารถโทรฟรีในเครือข่ายได้ตามช่วงเวลาที่กำหนด
- รับสิทธิ์ในการใช้ Wi-Fi ฟรีได้อย่างไม่จำกัด
- ได้รับสิทธิ์ในการโปรโมชั่นยาวนาน 12 เดือน
จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมของแพ็กเกจ 4G iSmart EXTRA ค่าบริการรายเดือน 499 บาทจาก TrueMove H
- เมื่อใช้อินเทอร์เน็ตครบตามจำนวนที่กำหนด จะถูกลดความเร็วอินเทอร์เน็ตเหลือเพียง 128 Kbps
- ระยะเวลาในการแถมปริมาณอินเทอร์เน็ต (6 เดือน) สั้นกว่าระยะเวลาเต็มของโปรโมชั่น (12 เดือน) จึงทำให้ในช่วงเวลาที่เหลือสามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้เพียงเดือนละ 2 GB เท่านั้น
- ปริมาณอินเทอร์เน็ตที่รองรับมีค่อนข้างจำกัด
- ไม่มีสิทธิพิเศษในด้านอื่นๆ เพิ่มเติม
ข้อมูลเพิ่มเติม : คลิก
เปรียบเทียบแพ็กเกจราคาไม่เกิน 500 บาทจาก AIS, dtac และ TrueMove H
จากการเปรียบเทียบจะเห็นว่าทั้ง 3 ค่ายให้ใช้งานโทรศัพท์จำนวน 200 นาทีเท่ากัน แต่โดยรวมแล้วโปรโมชั่นจากทาง dtac ดูจะมีข้อได้เปรียบกว่าอีกสองค่ายในบางจุด โดยในราคา 499 บาทสามารถใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ทั้ง 4G และ 3G ได้รวมสูงสุดถึง 10 GB และเมื่อใช้ครบจำนวนก็ยังสามารถ ใช้งานอินเทอร์เน็ตต่อได้ เพียงแต่จะถูกปรับความเร็วให้ลดลงเหลือ 384 Kbps
ซึ่งก็ยังถือว่าเป็นความเร็วที่สามารถใช้งานทั่วๆ ไปได้ดี ส่วนในด้านของ AIS นั้นมีจุดเด่นที่มีค่าบริการรายเดือนถูกกว่าที่ 488 บาท และให้ปริมาณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเท่ากันที่ 10 GB แต่หากว่าใช้ครบจำนวนเมื่อใด และต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตต่อ ก็จะต้องทำการซื้อแพ็กเกจเสริมเพิ่มเติม ในส่วนของ TrueMove H นั้นให้ใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ตที่น้อยกว่าอีก 2 ค่ายอยู่มากพอสมควร
อย่างไรก็ตาม ความเร็วในการใช้งานอินเทอร์เน็ตของแต่ละเครือข่ายในแต่ละพื้นที่นั้นมีความ แตกต่างกันออกไป ผู้ใช้ควรทำการพิจารณาในด้านนี้เป็นอันดับแรกก่อนการสมัครแพ็กเกจใดๆ ก็ตาม เพราะหากว่าทำการสมัครแพ็กเกจในพื้นที่ ที่มีสัญญาณอ่อน หรือมีความเร็วอินเทอร์เน็ตค่อนข้างช้า ก็อาจจะส่งผลต่อการใช้งาน และอาจไม่ได้รับคุ้มค่าตามที่คาดหวังไว้ก็เป็นได้
นำเสนอข่าวโดย : Thaimobilecenter.com