10 จุดสังเกต Samsung Galaxy S6 แท้ และมือถือปลอม แตกต่างกันอย่างไรมาดูกัน

10 จุดสังเกต Samsung Galaxy S6 แท้ และมือถือปลอม แตกต่างกันอย่างไรมาดูกัน

10 จุดสังเกต Samsung Galaxy S6 แท้ และมือถือปลอม แตกต่างกันอย่างไรมาดูกัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

       ในบทความการเปรียบเทียบครั้งที่แล้ว เราได้ทำการเปรียบเทียบรูปลักษณ์ภายนอกของ Samsung Galaxy S6 แท้ กับ samsung galaxy S6 ปลอมกันไปแล้ว เพื่อให้ผู้ใช้สามารถแยกแยะได้ชัดเจนมากขึ้น วันนี้เราจะพามาดูจุดสังเกต 10 จุดที่แตกต่างกันที่นอกเหนือจากรูปลักษณ์ภายนอกว่ามีอะไรบ้าง

       โดยทำการทดสอบประสิทธิภาพของตัวเครื่องว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร รวมถึงเปรียบเทียบให้ท่านผู้อ่านได้เห็นว่าตัวประสิทธิภาพเครื่องปลอมเมื่อ เทียบกับโทรศัพท์มือถือรุ่นอื่นๆ ในระดับราคาที่เท่ากับเครื่องปลอมนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งทางทีมงาน Thaimobilecenter ได้ทำการสรุปข้อแตกต่างของทั้ง 2 เครื่อง เป็น 10 จุดสังเกตที่เห็นได้ชัดมาให้ทุกๆ ท่านได้รับทราบกันดังต่อไปนี้ครับ

 1.เครื่องปลอมมีการแสดงผลของหน้าจอที่ไม่ชัดเจนและมีความละเอียดต่ำ

         จากรูปจะเห็นได้ว่า Samsung Galaxy S6 จะมีหน้าจอแสดงผลที่คมชัด และสว่างสดใสมากกว่ามือถือปลอม สังเกตได้จากภาพ และตัวอักษรไอคอน Play Store จากเครื่องจริงมีความคมชัดกว่ามาก เนื่องจากหน้าจอแสดงผลของเครื่องจริงมีความละเอียดสูงถึงระดับ 2K Quad HD (1440x2560 พิกเซล) ในขณะที่มือถือปลอมมีความคมชัดในระดับ HD 720p (720x1280 พิกเซล) เท่านั้น

 2.เครื่องปลอมเลข IMEI จะไม่ตรงกับเลขบนตัวเครื่อง

 

       IMEI หรือ International Mobile Equipment Identity คือชุดตัวเลขประจำโทรศัพท์รุ่นนั้นๆ จำนวน 15 หลัก ที่สามารถบอกข้อมูลสำคัญได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น แหล่งผลิต และระยะเวลาการรับประกัน สามารถตรวจสอบได้โดยการกด *#06# ในแอปพลิเคชัน Phone ซึ่ง ชุดตัวเลขที่ได้มาจะต้องตรงกับเลข IMEI ที่อยู่บริเวณด้านหลังของตัวเครื่อง และข้างกล่องบรรจุ ซึ่งแน่นอนว่าหากเป็นมือถือปลอมชุดตัวเลขดังกล่าวจะไม่ตรงกันในทุกตำแหน่ง

 3.ไม่มีแอปพลิเคชัน Galaxy Gift และ Galaxy Rewards


 

       อีกหนึ่งจุดที่สังเกตเห็นได้ง่ายก็คือแอปพลิเคชันเฉพาะในสมาร์ทโฟนจากค่าย Samsung อย่าง Galaxy Gift และ Galaxy Rewards ซึ่ง แน่นอนว่าในมือถือปลอมจะไม่รองรับแอปพลิเคชันนี้ สามารถตรวจสอบได้โดยกดเมนู Apps ที่หน้าโฮม เพื่อเข้าสู่หน้าแอปพลิเคชันหลัก (บางเครื่องในตลาดอาจจะทำเป็นรูปแอพปลอมนะครับดังนั้นเพื่อให้แน่ใจให้ลองกด เข้าไปดูในตัวแอพด้วย)

 4.แอปพลิเคชัน S Health เครื่องปลอมไม่สามารถใช้งานได้จริง
 


 

       แอปพลิเคชัน S Health ในมือถือปลอมเมื่อเปิดเข้าไปก็จะพบหน้าจอ Interface ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และแอปพลิเคชันจาก Samsung Galaxy S6 จะรองรับการบันทึกกิจกรรมเกี่ยวกับสุขภาพในด้านต่างๆ เอาไว้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นจำนวนก้าวที่เดิน, การวิ่ง, อาหารที่รับประทานในแต่ละมื้อ, การดื่มน้ำ, คุณภาพในการนอนหลับ และการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ส่วนในแอปพลิเคชันจากมือถือปลอมจะรองรับเพียงแค่การวัดค่าความเข้มของรังสี UV ในแสงแดด, ระดับความเครียด และการวัดอัตราการเต้นของหัวใจเท่านั้น

       อย่างไรก็ดีหลังจากที่ทดสอบการใช้งานการวัดอัตราการเต้นของหัวใจในเครื่อง ปลอมพบว่าไม่สามารถใช้งานได้จริง และมีลักษณะของการสุ่มตัวเลขอัตราการเต้นของหัวใจขึ้นมาแสดงผลเท่านั้น สำหรับการเปิดโปรแกรม S Health สามารถตรวจสอบได้ด้วยการกดเมนู Apps > S Health (สำหรับแอปพลิเคชันในเครื่องจริงจะมีแถบเมนู More อยู่มุมบนขวา)

 5.เครื่องปลอมมีลูกเล่น และเมนูกล้องดิจิทัลน้อยกว่า
 


 

       เมื่อเปิดเมนูกล้องของทั้ง 2 เครื่องขึ้นมาก็จะพบกับหน้า Interface ที่มีความคล้ายคลึงกันไม่น้อย แต่มือถือปลอมนั้นจะมีแถบเมนูด้านบนให้เลือกน้อยกว่า และเมื่อกดเลือกเมนูตั้งค่ากล้อง หรือ Camera Setting (สัญลักษณ์รูปฟันเฟือง) ก็จะพบว่ามีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน สามารถตรวจสอบได้ด้วยการกดแอปพลิเคชันกล้อง หรือ Camera ในหน้าโฮม

       นอกจากนี้ Samsung Galaxy S6 มีโหมดในการถ่ายภาพให้เลือกใช้มากกว่ามือถือปลอม สามารถกดดูได้จากเมนู Mode ที่ด้านล่างซ้ายของหน้าจอ ก็จะพบกับโหมดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโหมด Auto, Pro, Seletive focus, Panorama, Live Broadcast, Slow motion, Fast motion, Virtual shot และอื่นๆ อีกมากมาย

       ซึ่งสามารถทำการดาวน์โหลดได้เพิ่มเติม อีกทั้งยังสามารถอ่านรายละเอียดของแต่ละโหมดได้จากการกดเมนู Info ที่อยู่ด้านขวาบนของหน้าจอ ส่วนมือถือปลอมนั้นจะมีเพียงโหมด Normal, Live Photo, Face Beauty และ Panorama รวมทั้งหมดเพียง 4 โหมดเท่านั้น และไม่มีเมนู Info 

 6. ตัวอย่างภายถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหลังของ Samsung Galaxy S6 และมือถือปลอม
 


 

       คุณภาพของรูปถ่ายค่อนข้างต่างกันอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากความละเอียดกล้องที่แตกต่างกันภาพที่ถ่ายจาก Samsung Galaxy S6 มีความคมชัด และมีสีสันสดใสมากกว่าภาพที่ได้จากมือถือปลอมอย่างเห็นได้ชัด

 7.เครื่องปลอมไม่รองรับการทำงานแบบ Multi-Windows
 


 

       Samsung Galaxy S6 จะมาพร้อมฟีเจอร์การทำงานแบบ Multi-Windows หรือการทำงานพร้อมกัน 2 หน้าจอ เฉพาะแอปพลิเคชันที่รองรับเท่านั้นอย่างเช่น Facebook, Youtube, Google Play และเว็บเบราว์เซอร์ ซึ่งสามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้โดยกดปุ่ม Recent Apps บนตัวเครื่อง (ด้านซ้ายของปุ่มโฮม) และกดสัญลักษณ์สี่เหลี่ยมเล็กๆ บนหน้าแอปพลิเคชันที่รองรับดังรูป ซึ่งแน่นอนว่ามือถือปลอมไม่รองรับการใช้งานฟีเจอร์นี้

 8.ไม่มี Themes Store
 


 

       Samsung Galaxy S6 จะมาพร้อมกับฟีเจอร์พิเศษอย่าง Themes Store ที่รวบรวมธีมแบบต่างๆ ไว้อย่างหลากหลาย และสามารถเลือกใช้ธีมที่ชอบได้ตามความต้องการ โดยจะมีทั้งธีมที่ให้ใช้บริการได้ฟรีๆ รวมถึงธีมที่ต้องทำการซื้อเพิ่มเติม ซึ่งในมือถือปลอมจะไม่รองรับฟีเจอร์นี้ โดยในหน้า Setting จะมีเมนู Wallpaper ขึ้นมาแทน สามารถตรวจสอบได้โดยการกดเมนู Apps > Setting > Themes (ในมือถือปลอมจะเป็นเมนู Wallpaper)

 9.เวอร์ชัน Android เก่ากว่า
 


 

       มือถือปลอมจะทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 5.0.2 ในขณะที่ Samsung Galaxy S6 ตัวจริงจะทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 5.1.1 Lollipop ซึ่งเป็นเวอร์ที่ใหม่กว่า สามารถตรวจสอบได้โดยกดที่เมนู Apps > Setting > About Device (ในมือถือปลอมจะเป็นเมนู About phone)

 10.ไม่มีเมนู Software update
 


 

       สำหรับจุดสังเกตสุดท้ายของ Samsung Galaxy S6 เครื่องจริงและปลอม ให้ผู้อ่านตรวจสอบจากเมนูอัปเดตเวอร์ชัน Android โดยมือถือเครื่องจริงนั้นจะมีเมนู Software update ส่วนมือถือปลอมนั้นจะไม่สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากไม่มีเมนู Software update แต่จะมีเมนู Wireless update ขึ้นมาแทน สามารถตรวจสอบได้โดยกดเมนู Apps > Setting > About Device (ในมือถือปลอมจะเป็นเมนู About phone)

 ทดสอบประสิทธิภาพในการทำงานของตัวเครื่อง samsung Galaxy S6 จริงและปลอม


 

       สุดท้ายนี้เราลองมาทดสอบประสิทธิภาพโดยใช้แอปพลิเคชันการทดสอบ ประสิทธิภาพด้านต่างๆ ของสมาร์ทโฟน โดยทางทีมงาน Thaimobilecenter ได้เลือกใช้แอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark และ Geekbench มาทำการทดสอบในครั้งนี้เพื่อให้เห็นความแตกต่างของประสิทธิภาพของเครื่อง จริงและ Samsung galaxy S6 เครื่องปลอมกันครับ 

 ทดสอบ Samsung Galaxy S6 กับมือถือปลอมด้วยแอปพลิเคชัน GeekBench 3
 


 

       เห็นได้ชัดว่า Samsung Galaxy S6 ทำคะแนนได้สูงถึง 4,884 คะแนน ขณะที่มือถือปลอมทำคะแนนไปได้เพียง 1,120 คะแนนเท่านั้น (ต่างกันเกือบ 3 เท่า)

 ทดสอบ Samsung Galaxy S6 กับมือถือปลอมด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark
 


 

       จากผลการทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของทั้ง 2 เครื่องผลปรากฏว่า Samsung Galaxy S6 เครื่องจริงได้รับผลคะแนนมากถึง 74,968 คะแนน ส่วนมือถือปลอมได้รับคะแนนเพียง 22,626 คะแนนเท่านั้น  

       สำหรับผลทดสอบประสิทธิภาพในด้านการแสดงผลแบบ 3 มิติ Samsung Galaxy S6 ทำคะแนนได้สูงถึง 20,142 คะแนน ส่วนมือถือปลอมได้คะแนนเพียง 806 คะแนน ซึ่งมีผลคะแนนเทียบเท่ากับสมาร์ทโฟนรุ่นเล็กเท่านั้น

       สำหรับการเปรียบเทียบประสิทธิภาพตัวเครื่องจริง และตัวเครื่องปลอมของสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดอย่าง Samsung Galaxy S6 เห็นได้ชัดว่ามือถือปลอมนั้นมีความใกล้เคียงในด้านรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น ส่วนการทำงานในด้านต่างๆ นั้นเรียกได้ว่าไม่สามารถเทียบ Galaxy S6 ได้เลยแม้แต่น้อย 

       บางท่านอาจจะบอกว่า Samsung galaxy S6 แพงกว่าจึงดีกว่าเป็นธรรมดา แต่ถ้าลอง พิจารณาดูคุณสมบัติโดยรวมนอกเหนือจากประสิทธิภาพแล้ว สำหรับ Samsung Galaxy S6 ปลอมที่มีราคาอยู่ที่ประมาณ 5,000 - 9,000 บาทนั้นเมื่อเทียบกับมือถือในท้องตลาดรุ่นอื่นในระดับราคาเดียวกันก็ยังด้อย กว่า โดยทีมงานลองเลือกมือถือ Android รุ่นเล็กมาเปรียบเทียบ อย่างเช่น Wiko Pulp FAB 4G ที่วางจำหน่ายในราคา 4,990 บาท ซึ่งผลการทดสอบก็แสดงให้เห็นว่าคุณภาพ ประสิทธิภาพของมือถือเครื่องปลอมนั้นสู้ไม่ได้เลย 
 


 

       ลองมาดูคะแนนทดสอบกันจะเห็นได้ว่า Wiko Pulp FAB 4G ทำคะแนนจากแอปพลิเคชัน Geekbench 3 ในแบบ Single-Core ได้ 474 คะแนน และทำคะแนนในแบบ Multi-Core ได้ 1,436 คะแนน และทำคะแนนจากแอปพลิเคชัน AnTuTu ได้ 28,094 คะแนน ซึ่งสูงกว่าคะแนนของมือถือปลอมในทุกๆ ด้าน

       อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้มีการวางจำหน่ายมือถือปลอมกันอย่างเปิดเผยมากขึ้นจากร้านค้า โทรศัพท์ทั่วไป เนื่องมาจากมีราคาที่ถูกกว่ามากจึงทำให้มีผู้ใช้บางส่วนตัดสินใจซื้อมือถือ ปลอม รวมถึงผู้ใช้บางส่วนที่นิยมซื้อโทรศัพท์มือสองก็มักจะถูกหลอกให้ซื้อมือถือ ปลอมแทน ซึ่งนอกจากจะเป็นการซื้อสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์แล้ว ยังเสี่ยงต่อการเกิดความเสียหายอย่างอื่นตามมาอีกด้วย อย่างเหตุการณ์เครื่องระเบิดเนื่องจากใช้แบตเตอรี่ที่ไม่ได้คุณภาพ 

       อย่างไรก็ดีผมเชื่อว่าร้านตู้ที่ดี และมีจรรยาบรรณยังมีอยู่มาก ไม่ได้หมายความว่าร้านตู้ทั่วไปจะเสี่ยงต่อการได้มือถือปลอมไปทั้งหมด เพียงแค่หาร้านที่สามารถเชื่อใจได้ก็ถือเป็นการป้องกันตัวเองได้ในระดับ หนึ่งแล้ว และอีกหนึ่งวิธีในการป้องกันการโดนหลอกขายมือถือปลอมก็คือการศึกษาข้อมูลให้ ถูกต้องเพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพ และควรระวัง หรือตั้งข้อสงสัยในกรณีที่มีคนขายมือถือต่อให้ หรือตั้งราคาขายไว้ต่ำจนเกินจริง สำหรับท่านที่อยากใช้ หรือมีความตั้งใจซื้อมือถือปลอมนั้น สิ่งที่ควรศึกษาข้อมูลนอกจากคุณจะได้สินค้าที่คุณภาพต่ำกว่าจำนวนเงินที่ เสียไปแล้ว ยังควรต้องระวังเรื่องความปลอดภัยจากชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่อาจจะไม่ได้มาตรฐาน อีก และการสนับสนุนมือถือที่ละเมิดลิขสิทธิ์ก็ส่งผลต่อผู้ผลิตที่ตั้งใจจะพัฒนา ผลิตภัณฑ์ด้วยเช่นกัน   

       สำหรับบทความเปรียบเทียบมือถือปลอมยังมีอีก 1 รุ่นที่เราจะนำมาทดสอบให้ได้อ่านกันนั่นก็คือรุ่น samsung Galaxy Note 5 อย่าลืมรอติดตามตอนต่อไปกันนะครับ 

 

นำเสนอข่าวโดย Thaimobilecenter.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook