ยืดอายุการใช้งานให้ มือถือ Android กับวิธีประหยัดแบตเตอรี่แบบง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้!
ทุกวันนี้ มีผู้ใช้สมาร์ทโฟนจำนวนไม่น้อย ประสบปัญหากับแบตเตอรี่ไม่เพียงพอต่อการใช้งานตลอดทั้งวัน เนื่องจากสมาร์ทโฟนในยุคปัจจุบันนี้ มักจะมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ต้องใช้พลังงานแบตเตอรี่มากเป็นพิเศษ ทำให้ต้องพกพาแบตเตอรี่สำรอง หรือ Power Bank ติดตัวไปด้วยตลอดเวลา ซึ่งในวันนี้ ทีมงาน techmoblog มีบทความดีๆ เกี่ยวกับ วิธีประหยัดแบตเตอรี่เพื่อยืดอายุการใช้งานให้กับ มือถือ Android จะมีวิธีใดบ้างนั้น ไปชมกันเลยดีกว่า
ปิดฟังก์ชันต่างๆ ที่ไม่ได้ใช้งาน
เมื่อใดก็ตามที่จะออกจากบ้าน ก็ต้องปิดไฟ ปิดพัดลมก่อน เพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน และไม่เสียค่าไฟโดยใช่เหตุ สมาร์ทโฟนก็เช่นเดียวกันครับ การปิดฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ ที่ไม่ใช้งาน ก็ช่วยทำให้ประหยัดแบตเตอรี่ได้ เช่น ปิดการใช้งาน Bluetooth หรือ GPS เป็นต้น และค่อยเปิดเมื่อจำเป็นต้องใช้งานจริงๆ
ปิดระบบสั่น
เชื่อหรือไม่ว่า ระบบสั่นเวลามีสายเรียกเข้า หรือสั่นขณะพิมพ์ เป็นตัวการทำให้สิ้นเปลืองแบตเตอรี่แบบสุดๆ เนื่องจากใช้พลังงานมากกว่าการใช้เสียงเรียกเข้าแบบปกติเสียอีก
ไม่จำเป็นต้องตั้งการแจ้งเตือนทุกสิ่งทุกอย่างก็ได้
จริงอยู่ที่ การแจ้งเตือนจะช่วยให้เราไม่พลาดข่าวสารต่างๆ แต่ยิ่งมีการแจ้งเตือนมากเท่าไหร่ แบตเตอรี่ก็เสี่ยงต่อการหมดเร็วเท่านั้น เนื่องจากหน้าจอติดตลอดเวลานั่นเอง ฉะนั้น ควรจะตั้งการแจ้งเตือน เฉพาะแอปพลิเคชันที่จำเป็นก็พอ
ตั้งค่าความสว่างของหน้าจอเอง
จริงอยู่ที่การตั้งค่าหน้าจอแบบ Auto จะทำให้ได้แสงสว่างบนหน้าจอที่พอดี แต่ก็สิ้นเปลืองแบตเตอรี่เช่นกัน ฉะนั้น ผู้ใช้ควรจะตั้งค่าความสว่างของหน้าจอในระดับที่ใช้งานแล้วรู้สึกสบายตา และปรับให้สว่างขึ้นในช่วงเวลาที่จำเป็นเท่านั้นจะดีกว่า เนื่องจากหน้าจอสมาร์ทโฟน คือตัวการสูบแบตเตอรี่ชั้นดีเลยนั่นเอง
ตั้งเวลาล็อกหน้าจอแบบอัตโนมัติให้เร็วขึ้น
ผู้ใช้สามารถตั้งค่าเวลาล็อกหน้าจอเองได้ตามการใช้งาน แต่ยิ่งเราปิดหน้าจอเร็วแค่ไหน ก็จะยิ่งช่วยประหยัดพลังงานมากขึ้นเท่านั้น โดยให้เข้าไปที่ Settings > Display ซึ่งตรงเมนู Sleep ให้เลือกไปที่ 15 วินาที ถือว่า เป็นช่วงเวลาที่พอเหมาะพอดี
ตรวจสอบดูว่า แอปฯ ไหนกินแบตเยอะสุด
มีผู้ใช้งานหลายๆ ท่านไม่เคยทราบว่า แอปพลิเคชันที่เปิดใช้งานนั้น กินพลังงานแบตเตอรี่ไปมากแค่ไหน แม้ว่าจะไม่ได้ใช้งานอยู่ ณ เวลานั้น แต่มีหลายแอปฯ ที่มีการทำงานแบบเบื้องหลัง (Backgroud mode) ซึ่งกินพลังงานแบตเตอรี่ไปพอสมควร โดยสามารถตรวจสอบได้ว่า แต่ละแอปฯ ใช้พลังงานแบตเตอรี่เท่าไหร่ ด้วยการเข้าไปที่ Settings > Power > Battery Use แล้วปิดแอปพลิเคชันที่กินแบตมากที่สุด เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน
งดการใช้วอลเปเปอร์แบบภาพเคลื่อนไหว
จริงอยู่ที่ภาพวอลเปเปอร์แบบเคลื่อนไหว ทำให้สมาร์ทโฟนดูมีลูกเล่นและน่าใช้ แต่เมื่อมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา ก็จำเป็นต้องกินพลังงานแบตเตอรี่เช่นกัน นอกจากนี้ ถ้าหากสมาร์ทโฟนที่ใช้เป็นหน้าจอแบบ AMOLED การใช้ภาพพื้นหลังสีดำ จะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้มากกว่า เนื่องจากจอภาพแบบ AMOLED จะแสดงผลเป็นสีต่างๆ ยกเว้นสีดำที่จอภาพแบบนี้จะไม่ผลิตแสงออกมา ทำให้การใช้พลังงานน้อยลงไปด้วย
เปิดใช้งาน Battery Saver
ฟีเจอร์ Battery Saver จะเป็นตัวจำกัดการทำงานบางอย่างบนสมาร์ทโฟน เช่น ปิดระบบสั่นอัตโนมัติ, ปิด Location Services หรือปิดการรันแบบเบื้องหลัง โดยสามารถเข้าไปเปิดการใช้งานได้ที่ Settings > Battery
ใช้แบตเตอรี่ที่ได้มาตรฐาน
ปกติแล้ว การใช้แบตเตอรี่ให้เหมาะสมกับสมาร์ทโฟน ควรจะเลือกใช้แบตเตอรี่ของแท้จากผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแบรนด์นั้นๆ แต่ถ้าหากจำเป็นต้องใช้ยี่ห้ออื่น ก็ควรเลือกผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน และเชื่อถือได้ เพราะนอกจากจะเป็นการยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่แล้ว ยังเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อตัวสมาร์ทโฟนอีกด้วย
ที่มา : androidauthority.com
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com