[Tips & Trick] รวมวิธีตรวจสอบการใช้ดาต้าบนมือถือว่า ทำไมเน็ตถึงหมดเร็วกว่าที่คิดไว้
ทุกวันนี้อินเทอร์เน็ตบนมือถือ ถือว่าเป็นสิ่งที่หลายคนนั้นต้องการใช้งานอยู่เป็นประจำ เพราะโลกตอนนี้อินเทอร์เน็ตมีบทบาทสูง แน่นอนว่าเมื่อเข้าสู่ยุค 4G บางคนก็บอกว่าทำไมการเข้าอินเทอร์เน็ตเร็วแค่ระยะเวลาหนึ่งแล้วก็ช้าลงไปทันที วันนี้ Sanook! Hitech จะมาไขปัญหานี้ให้ได้รู้กันว่าเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้างครับ
4G ทำให้เน็ตหมดไวจริงไหม
ปกติแล้ว 4G บนเทคโนโลยีที่ชื่อว่า Long Term Evolution ซึ่งให้ความเร็วในการรับส่งสูงถึง 300 Mbps (เมกะบิต ต่อ วินาที) ถือว่าเร็วมาก จนสามารถที่จะดูวีดีโอแล้วไร้อาการสะดุด หรือเข้าเว็บต่าง ๆ ได้รวดเร็วเหมือนอินเทอร์เน็ตที่บ้าน ทำให้หลายคนนั้นนำไปใช้งานนอกสถานะที่ได้อย่างง่ายดาย
แต่เชื่อหรือไม่ว่าปกติแล้วการใช้งานบางประเภทก็ทำให้อินเทอร์เน็ตบนมือถือหมด จนทำให้ความเร็วลดลงไป ซึ่งเป็นตามกฏเกณฑ์ที่ผู้ให้บริการกำหนด หรือเรียกว่า FUP นั่นเอง
เมื่อเรารู้ว่าทำไมเน็ตถึงช้าลงเมื่อใช้ไปนาน ๆ แล้วเรามาดูวิธีตรวจสอบและควบคุมการใช้งานกันดีกว่า
วิธีตรวจสอบจาก แพ็กเกจ เพียงพอหรือไม่
สิ่งแรกที่ต้องตรวจสอบคือ แพ็กเกจ อินเทอร์เน็ตบนมือถือ โดยส่วนใหญ่ตอนนี้ราคาจะเริ่มต้นแบบดี ๆ หน่อย ประมาณ 299 บาท ต่อเดือน หรือแพ็กเสริม อยู่ที่ 49 - 99 บาท ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการกำหนด โดยปริมาณจะเริ่มตั้งแต่ เมกะไบต์ และ กิ๊กกะไบต์ แล้วแต่ราคา
โดยทั่วไป ถ้าใช้งานอินเทอร์เน็ต เน้นแค่คุยผ่านโปรแกรมสนทนา เช่น We Chat, Line หรือ Skype จะใช้ข้อมูลไม่มาก รวมถึงการเข้าเว็บ ใช้งาน Social Network ถ้าใช้งานระดับนี้เท่านั้น 1GB ก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าคุณต้องการดูความบันเทิงเพิ่มเช่นฟังเพลงออนไลน์ หรือ จะเป็นการดูวีดีโอด้วย 1GB ก็ไม่อาจจะพอ ควรดูแพ๊กที่ใช้งานได้มากกว่า แต่ก็จะมีค่าบริการที่สูงขึ้นตามมา ฉะนั้นแล้วควรเลือกตามความเหมาะสมชองการใช้งานจะดีที่สุด
วิธีตรวจสอบในเครื่อง
การตรวจจากเครื่องนั้น ปกติ Android และ iPhone จะมีการตรวจดูปริมาณการใช้งานข้อมูลได้ผ่านทางการตั้งค่า ไม่ว่าจะเป็น iOS หรือ Android ก็ตาม โดยวิธีเข้าไปดูนั้นทำได้ดังนี้
สำหรับ Android เข้าไปที่ Setting (ตั้งค่า)> Data Usage(การใช้งานข้อมูล) จะปรากฏเป็นกราฟออกมา ซึ่งคุณสามารถใช้งานกำหนดข้อจำกัดว่าจะให้ใช้เท่าไหร่ก็ได้ หรือ ระบุให้มีการแจ้งเตือนได้ว่าใช้ไปแล้วเท่าไหร่ก็ได้
ในหน้านี้จะบอกว่าแต่ละแอป ว่าตัวไหนใช้งาน Data เยอะที่สุดอีกด้วย
ส่วน iOS นั้นสามารถเข้าไปดูได้ที่ Setting (ตั้งค่า) > Cellular (เครือข่ายมือถือ) > สังเกตแถวด้านล่างจะมีการบอกข้อมูล แต่ไม่สามารถตั้งจำกัดการใช้ข้อมูลได้
แต่ทั้งหมดนี้ถ้าใช้งานเกิด ผู้ให้บริการมักจะส่งข้อความแจ้งเตือนจากผู้ให้บริการอยู่แล้ว ฉะนั้น ถ้ามีข้อความเข้าก็แสดงว่าการใช้งาข้อมูลของคุณจะเกินแล้วนั่นเอง
วิธีควบคุมการใช้งานดาต้าของ Apps ที่ไม่จำเป็น
หลังจากที่เราคุมผ่านเครื่องและตรวจสอบการใช้งานไปแล้ว คราวนี้มาดูที่ต้นตอที่แท้จริง ส่วนมากจะเกิดในแอปส่วนมาก แล้วจะเปิดกันอย่างไร มาดูกันกับ แอป หลัก ๆ ดังนี้
แน่นอนว่า Social Network ยอดนิยมอย่าง Facebook จะมีเรื่องของการเล่นวีดีโอ ซึ่งสามารถสั่งให้ปิดไม่ใด้วีดีโอเล่นเองได้ โดยมีวิธีการตั้งค่าดังนี้
เข้าแอป Facebook > การตั้งค่าแอป (Apps Setting) > Auto play (เล่นอัตโนมัติ) > เลือกเฉพาะ WiFi หรือ ไม่ให้เล่นวีดีโออัตโนมัติ
YouTube
ถือว่าเป็นปกติที่โปรแกรมดูวีดีโอยอดนิยมจะใช้ปริมาณข้อมูลมหาศาล แต่เราสามารถที่จะลดการใช้งานได้ด้วยการปรับให้แสดงความละเอียดสูงผ่าน WiFi เท่านั้น วิธีตั้งค่านั้นสามารถทำได้ดังนี้
เข้า YouTube เลือก การตั้งค่า(Setting)> ทั่วไป (General) > จำกัดการใช้งานข้อมูล (Limit mobile data Usage) เท่านี้เวลาการเข้าดู YouTube จะสามารถปรับความละเอียด 480P แต่ถ้าต่อ WiFi จะทำให้เลือกอินเทอร์เน็ตบนมือถือได้อย่างสบาย
หมายเหตุ : การตั้งค่าของ iOS สำหรับ 2 แอป จะคล้ายคลึงกันครับ
นอกจากนี้ถ้าคุณใช้โปรแกรมฟังเพลงออนไลน์ผ่าน Apps ไม่ว่าจะเป็น JOOX, Deezer, KKBOX และอื่น ๆ หากสามารถตั้งค่าฟังเพลงแบบออฟไลน์ได้ก็จะช่วยให้การใช้ Data ลดลง แต่ถ้าแนะนำจริง ๆ แล้ว การฟังเพลงแบบนี้ควรจะใช้งานผ่าน WiFi จะดีที่สุด
แค่นี้ก็สามารถประหยัดการใช้งานได้แล้ว แต่ทั้งนี้ การประหยัดมันเป็นเรื่องดี แต่อย่าถึงขึ้นเหนียวจนไม่สามารถใช้งานอะไรได้ จะได้ไม่เป็นการเบียดเบียนความต้องการของคุณเองจนเกินไป