Nikon เปิดตัว D5300 พร้อมเลนส์ใหม่หนึ่งตัวใหม่ล่าสุด

Nikon เปิดตัว D5300 พร้อมเลนส์ใหม่หนึ่งตัวใหม่ล่าสุด

Nikon เปิดตัว D5300 พร้อมเลนส์ใหม่หนึ่งตัวใหม่ล่าสุด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Nikon เปิดตัว D5300 พร้อมเลนส์ใหม่หนึ่งตัวใหม่ล่าสุด

กล้องนิคอน D5300 ใหม่ ที่มาพร้อม Wi-Fi และ GPS ในตัว เปี่ยมด้วยนวัตกรรมล้ำสมัยมากมาย ซึ่งรวมถึงระบบประมวลผลภาพ EXPEED 4 ใหม่ ผนวกกับความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซลที่ไม่มี optical low-pass filter ช่วยให้การถ่ายภาพ จัดเก็บ และแบ่งปันภาพถ่ายที่มีคุณภาพสูงๆ เป็นเรื่องง่ายและสนุกอย่างไม่น่าเชื่อ

กล้อง D5300 ใหม่ มาพร้อมความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์รับภาพ Nikon DX-format CMOS ชนิดที่ไม่มี optical low-pass filter และระบบประมวลผลภาพประสิทธิภาพสูง EXPEED 4 ใหม่ นอกจากนี้ยังเป็นกล้องดิจิตอลเอสแอลอาร์รุ่นแรกของนิคอนที่มีฟังก์ชั่น Wi-Fi และ GPS ในตัว ผู้ใช้จึงสามารถแบ่งปันภาพถ่ายคุณภาพสูงที่บันทึกด้วยกล้อง D5300 และเลนส์ NIKKOR ผ่านอุปกรณ์ประเภทสมาร์ทดีไวซ์ รวมทั้งฟังก์ชั่นที่ช่วยให้ผู้ใช้รำลึกความทรงจำต่างๆ หรือย้อนรอยการเดินทางท่องเที่ยวในวันหยุดหรือกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ ได้โดยใช้ระบบจัดเก็บข้อมูล (log) ที่เป็นส่วนหนึ่งของฟังก์ชั่น GPS ในตัวกล้อง


กล้อง D5300 ถูกออกแบบด้วยโครงสร้างที่ผลิตจากวัสดุใหม่ที่ช่วยให้ตัวกล้องมีขนาดเล็กและเบาขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงความแข็งแรงและความทนทาน นอกจากนี้ยังอัดแน่นด้วยคุณสมบัติอื่นๆ อีกมากมายที่รองรับการถ่ายภาพในหลากหลายสถานการณ์ ซึ่งรวมถึงหน้าจอขนาด 3.2 นิ้ว แบบปรับองศาได้ (vari-angle) แสดงผลด้วยความละเอียดประมาณ 1037k-dot ด้วยมุมมองที่กว้างสำหรับการถ่ายภาพจากหลายมุมมอง รวมทั้งฟังก์ชั่นการบันทึกภาพเคลื่อนไหวแบบ full-HD ที่รองรับการบันทึกภาพเคลื่อนไหวขนาด 1920×1080/60p ได้โดยไม่สะดุด พร้อมโหมด Special Effects ที่สามารถปรับใช้กับทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวเมื่อต้องการพันทึกภาพไปพร้อมกับการแต่งเติมลูกเล่นเชิงสร้างสรรค์ที่หลากหลายขึ้น

พร้อมกันนี้ นิคอนยังได้เปิดตัวก้านช่วยปรับการซูม/โฟกัส (Zoom/Focus Assist Lever) NAL-1 สำหรับการใช้งานเฉพาะกับเลนส์ NIKKOR ออกมาพร้อมกล้อง D5300 อีกด้วย โดย NAL -1 เป็นก้านที่ช่วยให้การซูมและโฟกัสสะดวกยิ่งขึ้น เมื่อนำไปติดเข้ากับวงแหวนซูม (zoom ring) หรือวงแหวนโฟกัส (focus ring) บนเลนส์ NIKKOR ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับการบันทึกภาพยนตร์

คุณสมบัติหลักของกล้อง D5300

1. ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล และเซ็นเซอร์รับภาพ Nikon DX-format CMOS แบบไม่มี low-pass filter และระบบประมวลผลภาพใหม่ล่าสุด EXPEED 4 ให้คุณภาพของภาพและความคมชัดในรายละเอียดที่เหนือชั้นกว่า
กล้องนิคอน D5300 มาพร้อมความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล และเซ็นเซอร์รับภาพ DX-format CMOS ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของนิคอน รองรับค่าความไวแสงมาตรฐานได้หลากหลาย ตั้งแต่ ISO 100 ไปจนถึง 12800 และขยายเพิ่มได้ถึง ISO 25600 เทียบเท่า (Hi 1) สำหรับภาพความละเอียดสูง โดยแทบไม่มีสัญญาณรบกวนเมื่อถ่ายภาพที่ความไวแสงหลากหลายระดับ นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบประมวลผลภาพรุ่นล่าสุด คือ EXPEED 4 ที่ให้ประสิทธิภาพในการทำงานด้วยความเร็วสูง ซึ่งได้รับการพัฒนาปรับปรุงเพื่อใช้กับกล้องดิจิตอลเอสแอลอาร์นิคอนในรุ่นระดับมืออาชีพ จึงให้ผลลัพธ์ที่เหนือกว่าด้วยระบบลดสัญญาณรบกวน (NR) การปรับสมดุลแสงขาวอัตโนมัติ การถ่ายทอดสี (color reproduction) ที่ยอดเยี่ยม การไล่โทนแสง และคุณภาพของภาพที่ความไวแสงสูงๆ ส่วนการที่ไม่มี low-pass filter จะช่วยให้เพิ่มประสิทธิภาพของพิกเซลจำนวนมากให้เกิดความคมชัดสูงสุดโดยเฉพาะเมื่อใช้งานร่วมกับเลนส์ NIKKOR

2. Wi-Fi ในตัวเพื่อการถ่ายโอนภาพที่มีคุณภาพสูงไปยังอุปกรณ์ประเภทสมาร์ทดีไวซ์ ช่วยให้การแบ่งปันภาพง่ายขึ้น ช่วยให้การถ่ายโอนภาพถ่ายคุณภาพสูงที่ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซลที่บันทึกจากหลากหลายมุมมองด้วยหน้าจอแบบปรับองศาได้ (vari-angle) ไปยังอุปกรณ์ประเภทสมาร์ทดีไวซ์เพื่อแบ่งปัน*1 ได้สะดวก ทั้งการส่งไปยังครอบครัวและเพื่อนๆ ได้มีส่วนร่วมในช่วงเวลาประทับใจได้ทันที หรือผ่านทั้งทางบล็อกหรือเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ ได้สะดวกทุกที่ทุกเวลา

- ฟังก์ชั่นการถ่ายโอน: ภาพที่ถ่ายโดยใช้กล้อง D5300 หรือบันทึกไว้แล้วในเมมโมรี่การ์ดที่อยู่ในกล้อง D5300 สามารถถ่ายโอนไปยังอุปกรณ์ประเภทสมาร์ทดีไวซ์ผ่านการเชื่อมต่อไร้สาย ภาพเหล่านี้สามารถเปิดดูได้ทางหน้าจอของอุปกรณ์ประเภทสมาร์ทดีไวซ์นั้นๆ หรืออัพโหลดไปยังบล็อกหรือเว็บไซต์เครือข่ายสังคม นอกจากนี้ยังสามารถเลือกขนาดของภาพที่จะถ่ายโอนไปยังอุปกรณ์ประเภทสมาร์ทดีไวซ์ได้ 2 ขนาด เพื่อให้เหมาะสมกับความจุในการจัดเก็บข้อมูลของอุปกรณ์นั้นๆ

- ฟังก์ชั่นรีโมทสั่งถ่ายภาพจากระยะไกล: การแสดงผลแบบ live view ของกล้องถ่ายภาพสามารถแสดงผลบนหน้าจอของอุปกรณ์ประเภทสมาร์ทดีไวซ์นั้นๆขณะใช้งาน ช่วยให้ผู้ใช้วางกรอบภาพและคาดการณ์ผลลัพธ์ได้อย่างถูกต้องแม่นยำด้วยระบบควบคุมระยะไกลขณะทำการถ่ายภาพ*2

- ฟังก์ชันอัพโหลดแบบเลือกภาพเอง : ผู้ใช้สามารถเลือกภาพที่จะอัพโหลดไปยังอุปกรณ์ประเภทสมาร์ทดีไวซ์นั้นๆ โดยใช้การแสดงผลของหน้าจอ D5300 ในสถานการณ์หรือสภาพแวดล้อมแบบต่างๆ ที่ไม่สามารถรองรับการอัพโหลดภาพทันทีได้อย่างเพียงพอ หรือเมื่ออุปกรณ์ประเภทสมาร์ทดีไวซ์นั้นไม่พร้อมใช้งาน กล้องรุ่นนี้สามารถใช้ในการระบุภาพและขนาดไฟล์ภาพที่จะ อัพโหลดไปยังอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ในภายหลัง

*1 จะต้องติดตั้งแอพ Wireless Mobile Utility บนอุปกรณ์นั้นๆ ก่อน (สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีจาก App Store ของอุปกรณ์นั้นๆ)
*2 ใช้ได้เฉพาะเมื่อตั้งโหมด AF-area เป็น "Normal-area AF" หรือ "Wide-area AF"

3. ฟังก์ชั่น GPS ในตัว เพื่อบันทึกข้อมูลสถานที่และติดตามการเคลื่อนไหว D5300 เป็นกล้องดิจิตอลเอสแอลอาร์รุ่นแรกของนิคอนที่มีฟังก์ชั่น GPS ในตัว ช่วยในการบันทึกข้อมูลสถานที่ (ลองจิจูด ละติจูด และระดับความสูง) ไปพร้อมกับการบันทึกภาพ นอกจากนี้ยังทำงานร่วมกับ ViewNX 2 และ NIKON IMAGE SPACE รวมทั้งซอฟต์แวร์แผนที่เชิงพาณิชย์ ช่วยในการแสดงภาพในจุดที่ภาพเหล่านั้นถูกถ่ายบนแผนที่ ตลอดจนการแบ่งปันภาพถ่ายพร้อมข้อมูลสถานที่ นอกจากนี้ ฟังก์ชั่น A-GPS ยังช่วยให้การค้นหาข้อมูลสถานที่เป็นไปอย่างคล่องตัวมากขึ้น คุณสมบัตินี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเรียกคืนความทรงจำต่างๆ หรือย้อนรอยการเดินทาง ในช่วงวันหยุดพักผ่อนหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยการถ่ายภาพพร้อมบันทึกข้อมูลสถานที่ วันที่ และเวลาไว้

4. ออกแบบโดยใช้วัสดุใหม่เพื่อให้ตัวกล้องมีขนาดเล็กลงและเบาขึ้นโดยยังคงความแข็งแรงและทนทานD5300 ถูกออกแบบขึ้นโดยใช้วัสดุชนิดใหม่ ฝาครอบกล้องและตัวกล้องประกอบขึ้นด้วยโครงสร้างที่แข็งแรงและเชื่อมประสานกันอย่างชาญฉลาด จึงมีรอยต่อน้อย ซึ่งช่วยให้กล้องมีขนาดเล็ก และน้ำหนักเบาด้วยความกว้างเพียง 125 มม. ความสูง 98 มม. และความลึก 76 มม. และน้ำหนักเพียง 530 กรัม* แต่โดยรวมยังคงความแข็งแรงและความทนทานครบถ้วน
*รวมแบตเตอรี่และ SD memory card ไม่รวมฝาปิดบอดี้กล้อง

5. หน้าจอ LCD แบบปรับองศาได้ (vari-angle) ขนาด 3.2 นิ้ว ความละเอียด 1037k-dot ให้มุมมองกว้างเพื่อความสะดวกในการถ่ายภาพจากทุกมุม D5300 มาพร้อมหน้าจอ LCD ขนาดใหญ่ 3.2 นิ้ว (ความละเอียดประมาณ 1037k-dot) ให้มุมมองกว้างและการแสดงผลที่คมชัดและสว่างใส หน้าจอปรับองศาได้ vari-angle แบบเปิดออกด้านข้างสามารถกางออกด้านข้างได้ตั้งแต่ 0-180 ° และหมุนได้ถึง 90° ตามเข็มนาฬิกา และ 180° ทวนเข็มนาฬิกา ช่วยให้สะดวกในการถ่ายภาพจากหลากหลายมุมมอง ทั้งจากต่ำไปสูง และสะดวกแม้จะถ่ายภาพตัวเอง

6. ฟังก์ชั่น D-Movie เพื่อการบันทึกภาพเคลื่อนไหว full-HD ขนาด 1920 × 1080/60p D5300 มาพร้อมฟังก์ชั่น D-Movie ที่รองรับการบันทึกภาพเคลื่อนไหว full-HD ขนาด 1920 × 1080/60p การผสานขีดความสามารถของเลนส์ NIKKOR กับเซ็นเซอร์รับภาพ CMOS ความละเอียดพิกเซลสูง 24.2 ล้านพิกเซลแบบไม่มี optical low-pass filter ช่วยให้การบันทึกภาพเคลื่อนไหวความละเอียดสูงมีคุณภาพที่เหนือชั้นกว่า นอกจากนี้ยังสามารถใช้ระบบโฟกัสอัตโนมัติได้ระหว่างการบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้โดยใช้ฟังก์ชั่น contrast-detect AF และเมื่อตั้งโหมดโฟกัสเป็น full-time-servo AF (AF-F) และตั้งโหมด AF-area เป็น Subject-tracking AF กล้องยังคงสามารถโฟกัสวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวได้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกสำหรับการตั้งค่าถ่ายภาพเคลื่อนไหวแบบ manual หลากหลายให้เลือก โดยผู้ใช้สามารถเลือกความเร็วชัตเตอร์และความไวแสงที่ต้องการในโหมด live view และพร้อมกับการบันทึกภาพเคลื่อนไหว ทั้งยังสามารถเลือกอัตราการแสดงภาพเคลื่อนไหว (frame rate) สำหรับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวแบบ full-HD ได้ตั้งแต่ 24p, 25p, 30p, 50p และ 60p นอกเหนือจากการบันทึกเสียงคุณภาพสูงผ่านทางไมโครโฟนระบบสเตอริโอในตัวแล้ว ยังสามารถเลือกใช้ Stereo Microphone ME-1 เป็นอุปกรณ์เสริมในการบันทึกเสียงสเตอริโอได้อีกด้วย

7. Toy Camera Effect และ HDR Painting ในโหมด Special Effects (รวมเป็น 9 รูปแบบ) เพื่อการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ผ่านทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวได้มากขึ้นกล้อง D5300 มีโหมด Special Effects ซึ่งสามารถเลือกใช้เอฟเฟคนั้นๆ ได้ทั้งในการบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ทั้งยังสามารถดูตัวอย่างของเอฟเฟคนั้นๆ ได้จากหน้าจอของกล้องแบบเรียลไทม์ก่อนตัดสินใจจะถ่ายภาพหรือบันทึกภาพเคลื่อนไหวที่ต้องการ โหมดนี้มีให้เลือกทั้งหมด 9 เอฟเฟค ประกอบด้วย 7 เอฟเฟคที่มีอยู่แล้วในกล้องรุ่น D5200 (Selective Color, Color Sketch, Miniature Effect, Night Vision, Silhouette, High Key, Low Key) บวกกับอีก 2 เอฟเฟคใหม่ ได้แก่ Toy Camera Effect และ HDR Painting* ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ประโยชน์จากเอฟเฟคพิเศษอย่างที่พบเห็นในงานศิลปะและภาพยนตร์ได้อย่างง่ายดาย ตอบสนองจินตนาการสร้างสรรค์งานศิลป์ของผู้ใช้ที่ต้องการรังสรรภาพถ่ายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

- Toy Camera Effect: สร้างสรรค์ภาพถ่ายและภาพเคลื่อนไหวที่สีมีการเปลี่ยนแปลงและขอบมีแสงเงา เพื่อให้ดูเสมือนว่าภาพเหล่านั้นถูกบันทึกด้วยกล้องของเล่น ผู้ใช้สามารถปรับความสดของสีภาพและระดับความมืดของภาพ (peripheral shading) ได้ 3 ระดับตามต้องการ

- HDR Painting*: กล้องรุ่นนี้สามารถถ่ายภาพ 2 เฟรมที่ค่าความสว่างของแสง (exposure) ที่แตกต่างกัน และรวมสองภาพนั้นเข้าด้วยกัน พร้อมเปลี่ยนโทนสีสำหรับภาพ HDR ให้มีลักษณะคล้ายภาพวาด
*ไม่สามารถใช้ HDR Painting กับภาพเคลื่อนไหว และไม่สามารถเรียกดูตัวอย่าง HDR Painting บนหน้าจอแสดงผลของกล้องได้

8. ออกแบบให้ยึดจับได้อย่างมั่นคงและถนัดมือแม้ใช้เพียงมือข้างเดียว และมีให้เลือก 3 สี (รวมสีใหม่ คือ สีเทา)พื้นที่สำหรับยึดจับของ D5300 ได้รับการออกแบบเพื่อให้หยิบจับถนัดมือและไม่ร่วงหล่นง่าย แม้ใช้มือเพียงข้างเดียว ทั้งยังช่วยให้การจัดวางกรอบภาพผ่านทางช่องมองภาพแบบและการแสดงผลแบบ live view ของกล้องง่ายขึ้น นอกจากสีดำและสีแดงที่ได้รับความนิยมแล้ว D5300 ยังมีสีใหม่ คือ สีเทา ให้เลือกอีกด้วย ชิ้นส่วนโลหะของกล้อง D5300 เช่น ฝาครอบไมโครโฟนและ เพลทเหนือปุ่มหมุนเลือกโหมด ยังได้รับการออกแบบให้มีผิวสัมผัสที่สวยงามโดดเด่นอีกด้วย

กล้อง Nikon 5300 มีให้เลือก 3 สี (ดำ แดง และเทา) โดยมีเลนส์คิทให้เลือก 2 ชุด คือเลนส์ AF-S DX NIKKOR 18-55mm f/3.5-5.6G VR หรือเลนส์ AF-S DX NIKKOR 18-140mm f/3.5-5.6 G ED VR สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกล้อง Nikon D5300 ใหม่ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของนิคอน กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.nikon.co.th

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook