Review Two Point Hospital โรงพยาบาลเพี้ยน กับการจัดการเหล่าคนไข้เจ้าปัญหา

Review Two Point Hospital โรงพยาบาลเพี้ยน กับการจัดการเหล่าคนไข้เจ้าปัญหา

Review Two Point Hospital โรงพยาบาลเพี้ยน กับการจัดการเหล่าคนไข้เจ้าปัญหา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หากคุณเป็นเกมเมอร์รุ่นเก่า ที่คุ้นเคยกับเกมแนวบริหารจัดการ น่าจะคุ้นกับชื่อ Theme Hospital มาบ้างแน่นอน ด้วยความสนุกแสนเฮฮา ลูกเล่นการบริหารที่ลุ่มลึกจัดเต็ม และเวลาผ่านไปร่วมยี่สิบปี ตอนนี้พวกเขาก็กลับมาอีกครั้งกับเกมที่ชื่อว่า Two Point Hospital เกมนี้นั่นเอง

Story

 

เรื่องราวของ Two Point Hospital ฯนก้ไม่มีอะไรมาก ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลคนใหม่ ในโลกที่มนุษย์ของเราพบเจอกับโรคแปลกๆ มากมาย เช่นโรค 8-bit ที่ผู้ป่วยจะรูปร่างเปลี่ยนไปเป็นสี่เหลี่ยมเหมือนกับตัวละครในเกมยุคโบราณ โรคตัวตลก หรือเสพติด Meme จนกลายร่าง หน้าที่ของเราคือว่าจ้างคุณหมอและบุคลากรที่จะเข้ามาดูแลรักษาเหล่าคนป่วยเหล่านี้ให้หายดีเป็นปกติเหมือนเดิมให้ได้

ซึ่งเรื่องราวของเกมนั้นก็ไม่ได้เป็นสาระสำคัญอะไรมากนัก เพราะเหตุการณ์ส่วนใหญ่ในเกมจะเกิดขึ้นแบบสุ่มไม่เรียงลำดับ แต่บางครั้งการติดตามเรื่องราวเบื้องหลังของบุคลากรในโรงพยาบาลก็เป็นอะไรที่น่าสนใจอยู่บ้างเหมือนกัน แต่โดยรวมแล้วก็ไม่ได้ดีถึงขนาดต้องติดตามใกล้ชิด เหมือนเป็นตัวผลักดันให้ทุกยิ่งในเกมมันดำเนินไปได้มากกว่า ไม่ได้ดีแต่ก็ไม่ได้แย่นั่นเอง

Presentation

ด้วยความที่ตัวเกมดำเนินเรื่องในโรงพยาบาลใหญ่ที่มีผู้คนมากหน้าหลายตา ดังนั้นสิ่งที่อยู่ในเกมจึงเน้นไปที่การสร้างบรรยากาศของความสะอาด ดูปลอดภัยเหมือนในโรงพยาบาลที่มีอยู่จริง แต่อาจจะมีผิดเพี้ยนไปตรงที่อุปกรณ์รักษาโรคต่างๆ นั้นจะออกแนวเหนือจริงมากไปหน่อย เพราะอย่างที่บอกไปว่าโรคแต่ละอย่างในเกมนั้นก็เป็นโรคที่ไม่มีจริง การรักษาด้วยวิธีธรรมดาจึงดูเบสิกไปหน่อย และนั่นก็เป็นความสนุกของเกมที่เราจะได้เห็นว่าเหล่าคุณหมอนั้นจะจัดการเรื่องดังกล่าวนี้อย่างไร

และการที่ตัวเกมยืนพื้นที่ความตลกขำขัน เราจึงได้เห็นการหยอดใส่มุกตลกที่น่าสนใจลงไปในเกมมากมาย ทั้งจากประวัติของคุณหมอ คนไข้ และอีกมากมายแอบซ่อนอยู่ เป็นสิ่งที่ทำให้เราติดหนึบกับการเล่นเกมนี้อย่างยาวนาน จนบางครั้งก็แอบลืมว่าต้องทำภารกิจที่เกมมอบหมายมาให้ไปเลย

แต่นอกจากปัญหาที่มาจากตัวของคนไข้แล้ว สิ่งที่ทำให้เกมนี้แตกต่างจาก Theme Hospital เกมดังในอดีตคือปัจจัยภายนอกที่ถาโถมเข้ามาสร้างปัญหาปวดหัวให้กับเรา เช่นผีออกอาละวาดหลอกหลอนคนไข้ แผ่นดินไหว พายุสายฟ้า หรือไฟไหม้ ซึ่งเราก็ต้องป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นและกระทบต่อผู้ป่วยและบุคลากรในโรงพยาบาล ยิ่งถ้าลง DLC เสริมด้วยก็จะมีหายนะกับโรคใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาให้รับมือกันอีก การหาทางแก้ปัญหาดังกล่าวนี้นี่แหละที่ทำให้เกมสนุกขึ้นไปอีกขั้น

เมื่อทำภารกิจของโรงพยาบาลต่างๆ ได้ครบก็จะเป้นการเปิดสาขาใหม่ หรือก็คือการเปิดฉากใหม่ให้ได้เล่นกันนี่เอง ซึ่งนอกจากจะมีรายละเอียดในการเล่นเพิ่มขึ้นแล้ว ยังเป็นการปลดล็อกของใหม่ให้ใช้เพิ่มอีกด้วย ซึ่งตรงจุดนี้น่าจะทำให้เราเล่นเกมนี้แบบติดหนึบได้ยาวนานทีเดียว

Gameplay

ระบบการเล่นของเกมนี้แม้จะมีรายละเอียดปลีกย่อยอยู่มากมาย แต่ตัวเกมก็มีการช่วยสอนเล่นให้เป็นได้อย่างรวดเร็ว นอกจากการสร้างห้องตรวจโรค จ้างบุคลากร และขยายโรงพยาบาลให้ใหญ่ขึ้นแล้ว เราก็ต้องทำตามภารกิจที่เกมกำหนดมาด้วย เช่นรักษาคนไข้โรคนั้นโรคนี้ให้ครบกี่คน จ้างหมอในตำแหน่งนี้กี่คน และอีกมากมาย เพื่อรับรางวัลเป็นเงิน Kudosh เอาไว้จ้างคนและซื้ออุปกรณ์เพิ่มต่อไป

สำหรับการรักษาผู้ป่วย บางครั้งโรคบางอย่างที่มีในเกมนั้นเราจะยังรักษาให้หายขาดไม่ได้ในทันที ซึ่งจำเป็นต้องมีการทำวิจัยเพื่อหาทางรักษาโรคที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมไปถึงคอยดูข่าวสารว่าโรคอะไรที่จะระบาดในช่วงนั้นบ้าง เพื่อการวางแผนวิจัยและรักษาโรคเหล่านั้นให้ทันการณ์ เป้นความท้าทายที่คอเกมสายวางแผนน่าจะชื่นชอบกันไม่น้อย

นอกจากการดูแลผู้ป่วยและ สุขภาพและจิตใจของบุคลากรในโรงพยาบาลเองก็สำคัญไม่แพ้กัน ผู้เล่นต้องคอยดูแลให้พวกเขามีความสุขพร้อมที่จะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ หากไม่มีห้องพักหรือของหย่อนใจให้ พวกเขาก็จะไม่มีความสุข ประสิทธิภาพการทำงานลดลง และอาจถึงขั้นที่ลาออกไปเลยก็ได้ การดูแลให้เกิดประสิทธิภาพทั้งการรักษาคนไข้และดูแลผู้ป่วยจึงสำคัญมากในเกมนี้

โดยรวมแล้วระบบ Gameplay ของ Two Point Hospital นั้นออกแบบมาได้ดีเยี่ยม มือใหม่เล่นได้ มือเก่าเล่นสนุก มีการสอนเล่นในลำดับที่ถูกที่ควร ภารกิจบางอย่างก็ท้าทายแต่ไม่ยากเกินความสามารถ ยกเว้นอาจจะซวยไปเจออะไรแรงๆ ติดกัน อันนี้ก็ต้องทำใจกันไป

Performance

นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้เขียนได้เล่นเกมแนว Sims บนเครื่องคอนโซล ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าทีมงานนั้นทำการพอร์ตมาได้ดีทีเดียว แม้เฟรมเรทบนเครื่อง PlayStation 4 ธรรมดาจะจำกัดอยู่ที่ 30 เฟรมเท่านั้น แต่ในภาพรวมแล้วมันก็ไม่ได้หน่วงขนาดเล่นไม่ได้เลย แต่อาจจะมีปัญหาสักหน่อยถ้าหากเล่นในฉากที่ใหญ่และมีรายละเอียดมาก เฟรมเรทก็จะร่วงลงมาเป็นเรื่องปกติ แต่การควบคุมกดปุ่มบนจอยคอนโทรลเลอร์นั้นไม่มีปัญหาแต่อย่างใด แม้จะไม่ละเอียดเท่าเมาส์และคีย์บอร์ดก็ตาม ซึ่งถือว่าสอบผ่านในจุดนี้

Conclusion

โดยรวมแล้ว Two Point Hospital เป็นเกมวางแผนจัดการและบริหารที่ดีมากอีกเกมหนึ่ง และยังไร้พิษภัยเล่นได้ทุกวัย แม้การพอร์ตมาลงในเครื่องคอนโซลจะมีข้อจำกัดอยู่บ้าง แต่ก็สามารถเล่นได้สนุกไม่มีปัญหากวนใจ ใครที่กำลังมองหาเกมบริหารกิจการดีๆ มาคลายเครียด นี่คืออีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดในเวลานี้เลยทีเดียว

คะแนน 8/10

สนุก เรียบง่าย ไร้พิษภัย แถมยังได้ประโยชน์มหาศาล แม้จะติดในเรื่องของข้อจำกัดบลนเครื่องคอนโซลบ้าง แต่ก็เป็นเกมที่เล่นได้สนุกคุ้มเงิน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook