รีวิว Star Wars Jedi: Fallen Order มาตรฐานใหม่ให้เกมที่มีเจไดเป็นตัวเอก

รีวิว Star Wars Jedi: Fallen Order มาตรฐานใหม่ให้เกมที่มีเจไดเป็นตัวเอก

รีวิว Star Wars Jedi: Fallen Order มาตรฐานใหม่ให้เกมที่มีเจไดเป็นตัวเอก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ขอขอบคุณ : SiamGameShop สำหรับแผ่นเกม Star Wars Jedi: Fallen Order ที่ใช้รีวิวในครั้งนี้ครับ

เป็นสัปดาห์ที่มีเกมดังระดับ AAA เรียงแถวออกมาพร้อมกันอย่างดุเดือดมากจริงๆ กว่าผู้เขียนจะได้มีโอกาสรีวิวเกม Star Wars Jedi: Fallen Order เกมในจักรวาล Star Wars ยุคใหม่ที่เป็น Canon กับหนังเกมล่าสุด ก็ใช้เวลาหลายวันอยู่ ต้องขออภัยเพื่อนๆ ผู้อ่านทุกท่านจริงๆครับ โดยเกม Star War เกมนี้กลับมาใช้ตัวเอกที่ดำเนินเรื่องราวเป็นเจได แบบเต็มๆตัวอีกครั้ง แถมทำออกมาในรูปแบบ Action Adventure ที่ผู้เล่นทุกคนจะคาดหวังกับการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วฉับไวสไตล์เจได และการกวัดแกว่งดาบไลท์เซเบอร์ ไล่ฟันศัตรูทุกคนที่ขวางหน้า แต่จะได้อย่างที่คาดหวังไว้มั้ย? ก็ครึ่งๆ อะนะ...

เกมส์ Star Wars Jedi: Fallen Order พัฒนาโดย Respawn Entertainment เป็นเกมส์แนว Action Adventure ที่ใช้มุมมองแบบ 3rd Person โดยมีผสมกันทั้งการบู๊ฉะดะฟันไม่เลือก กับการแก้ปริศนาตามรายทางไปตลอดเกมส์ โดยรูปแบบการต่อสู้ในเกมส์จะใช้การฟาดฟันไลท์เซเบอร์โจมตีศัตรู ปัดป้องการโจมตี รวมถึงใช้พลังฟอร์ซในการสนับสนุนการต่อสู้ด้วย ซึ่งรูปแบบการเล่นรวมๆแล้ว จะออกมาคล้ายกับเกมส์ที่พึ่งออกไปเมื่อต้นปีอีกเกมส์หนึ่งนั่นคือ Sekiro: Shadow Died Twice ที่ต้องอาศัยความแม่นยำและประสาทสัมผัสในการเล่นที่สูงมาก และเกมส์ก็พร้อมจะฆ่าคุณตลอดเวลา

ตัวเกมส์นำเสนอเรื่องราวในช่วงหลังจากเหตุการณ์ในหนังภาค 3 ที่เหล่าเจไดโดนกวาดล้างจากคำสั่ง Order 66 ทำให้ถ้าไม่ตายก็ต้องหลบหนีซ่อนตัวกันไป โดยตัวเอกของเกม Cal Keltis ก็เป็นหนึ่งในเจไดหลบหนีเช่นกัน แต่เขาก็หลบซ่อนตัวได้ไม่นาน ก็มีเหตุให้ต้องกลับมาต่อสู้กับจักรวรรดิ พร้อมด้วยเพื่อนร่วมทางอีกสองคน Cere และ Greeze ที่จะเดินทางทำภารกิจสำคัญที่จะกอบกู้ภาคีของเหล่าเจไดให้กลับมาอีกครั้ง

ภาพกราฟฟิคของเกมส์มีความสวยงามสมราคาการพัฒนา และชื่อ EA โดยมีบรรยากาศ สิ่งแวดล้อม พื้นหลังของแต่ละดาวที่สวยงาม ยิ่งใหญ่อลังการในระดับจักรวาล Star Wars เรียกว่าเดินทางไปแต่ละที่ ก็ต้องมีแอบยืนนิ่งดูวิวทิวทัศน์กันบ้าง ผสมกับเกมเพลย์ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับโลกของ Star Wars จริงๆ เป็นความรู้สึกที่เยี่ยมมากๆ สำหรับแฟนจักรวาล Star Wars เลยละ

ในด้านเกมเพลย์ ตัวเกมส์มีแบ่งระดับความยากให้เลือกถึง 4 ระดับตั้งแต่ง่ายจนแค่เล่นเพราะอยากรู้เนื้อเรื่องเฉยๆ ไปจนถึงยากระดับที่โดนศัตรูโจมตีสองสามทีก็ตายได้ ซึ่งจากที่ผู้เขียนได้เล่นในระดับความยากรองสุดท้าย Jedi Master นั้น ถือว่าตัวเกมส์ก็ค่อนข้างโหดใช้ได้ เกมส์ต้องการความแม่นยำในการควบคุมที่สูง ต้องใจเย็น และวิเคราะห์สถานการณ์ตลอดเวลา เพราะการต่อสู้กับศัตรูแต่ละตัวนั้น ต้องการแผนการเล่นที่แตกต่างกัน ทำให้ทุกครั้งที่เจอศัตรูตัวใหม่ ถ้าเผลอเรอเข้าไปไล่ฟันไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมก็มีโอกาสตายกลับจุดเกิดได้ง่ายมาก คุณต้องจดจำรูปแบบการโจมตีของอีกฝ่ายตลอด

นอกจากการใช้ดาบไลท์เซเบอร์แล้ว เจไดก็ต้องใช้พลังฟอร์ซได้ด้วย โดยในเกมส์นี้พลังฟอร์ซของเรามีความหลากหลายในระดับเท่าที่เจไดจะใช้ได้ในหนังนั่นแหละ เช่นการผลัก ดึง หรือหยุดศัตรู ซึ่งก็มีประโยชน์ในการต่อสู้อย่างมาก บางครั้งใช้ฟอร์ซดีๆ ก็สามารถจัดการศัตรูระดับมินิบอสได้โดยไม่ต้องเอาดาบไปฟันมันเลย แลกกับการใช้งานที่จำกัดจำนวนครั้ง แต่จะสามารถเติมหลอดพลังฟอร์ซได้โดยใช้ดาบไลท์เซเบอร์สู้ไปสักพัก

นั่นเป็นในส่วนของ Action ของเกมส์ไปเท่านั้น ในเกมส์ยังมีส่วนของ Adventure ผสมอยู่ด้วย โดยบางครั้งเราจะต้องแก้ปริศนาโดยใช้พลังฟอร์ซช่วยด้วย รวมถึงการปีนป่าย ห้อยโหนโจนทะยานสไตล์ The Uncharted ที่ผสมผสานความเป็นเจไดเข้าไป ก็ทำได้ทั้งน่าสนุก และน่าปวดหัวไปพร้อมกัน ถือว่าพยายามทำในส่วนนี้ออกมาได้ดี และตามด่านก็จะมีจุดให้เราไปใช้พลัง Force Echo ที่สามารถรับรู้ถึงอดีตของคน หรือสิ่งของได้ ทำให้ Lore ในเกมส์มีความลึกน่าค้นหามากขึ้น

เจ้าหุ่นน้อย BD-1 ที่คอยเกาะตัวละคร Cal ไปไหนมาไหนด้วยนั้น ถือเป็นสิ่งดีงามมากของเกมส์เลยทีเดียว นอกจากความน่ารักของเจ้าดรอยด์ที่สื่อสารกับ Cal และมีปฏิสัมพันธ์ต่างๆ กับผู้เล่นแล้วมันยังทำประโยชน์ได้หลากหลาย จุดสำคัญคือการที่เราต้องพึ่งพามันในการแก้ปริศนา เดินทางไปมาในฉากค่อนข้างมาก บางจุดเจ้า BD-1 ก็สามารถ Scan เพื่อรับรู้ข้อมูลบางอย่างที่ซ่อนอยู่ได้ด้วย โดยมันจะกระโดดลงจากหลังของ Cal แล้วเดินไปหาจุดที่ Scan ได้เอง ซึ่งก็ต้องคอยสังเกตมันหน่อยนะ

ตัวผู้เล่นก็มีพัฒนาการได้เช่นกัน โดยนอกจากเก็บ EXP ผ่านการต่อสู้แล้วการ Scan ของ BD-1 หรือใช้ Force Echo ก็ยังให้ค่าประสบการณ์กับเราด้วย ทำให้เกมส์มีคุณค่าในการสำรวจฉากรอบๆ เพิ่มขึ้น โดยเจ้า EXP นี้เมื่อเก็บจนถึงจุดหนึ่งก็จะได้รับ Skill Point มาอัพเกรดตัวละครของเราอีกที ซึ่งในเกมส์จะมีจุดเซฟตามทางอยู่ ใช้ชื่อว่าจุด Meditate หรือจุดที่ Cal นั่งสมาธิได้ ที่เมื่อนั่งสมาธิแล้วเขาจะสามารถเลือกได้ว่าจะพักผ่อน เพื่อฟื้นฟูพลังชีวิตและจำนวน Healing Stim ที่ใช้เติมพลังยามฉุกเฉินแต่แลกมาด้วยการที่ศัตรูในฉากจะเกิดใหม่ทั้งหมด หรือจะเข้าสู่ Section ในการใช้แต้ม Skill Point พัฒนาตัวละครเรา โดยจะพัฒนาไปได้ทั้งการใช้ Force การใช้ Light Saber และการเอาตัวรอดเช่นเพิ่มปริมาณ Max Health

เกมส์ยังให้ทางเลือกในการ Customize ตัวละครของเรา, ดรอยด์ BD-1, ยานที่เราใช้เดินทาง รวมไปถึงรูปแบบ Light Saber ของเราด้วย โดยเฉพาะการปรับปรุง Light Saber นี่เป็นจุดเด่นของเกมส์เลยทีเดียว เพราะเราสามารถปรับปรุงด้ามจับได้ตามใจ เปลี่ยนสี Light Saber ก็ทำได้ โดยต้องตามหาของตามด่านเพื่อปลดล็อคการ Customize ต่างๆ กันไป

มาถึงข้อเสียกันบ้าง ในด้านโมเดลตัวละคร รวมถึงการเคลื่อนไหวแล้ว ถือว่าทำได้ไม่ดีเท่าไร นอกจากโมเดลของตัวละครหลัก Cal แล้วคนอื่นถือว่าไม่ผ่าน บางคนให้ความรู้น่ากลัวจนไม่กล้ามองเลยก็มี บางจุดการเคลื่อนไหวของตัวละครของเรา รวมถึงศัตรูรอบๆก็ดูตะกุกตะกัก สะดุดไม่ลื่นไหลเท่าไร ยิ่งเทียบกับเกมส์ที่ออกแบบมาคล้ายกัน แต่ออกไปเมื่อต้นปีอย่าง Sekiro ก็ยิ่งเห็นความต่าง ทั้งที่ในคัตซีนนั้นทำได้ลื่นไหลดีแท้ๆ

ระบบการเดินทางในเกมส์ที่ซับซ้อนโดยไม่จำเป็น เช่นการ Back-Tracking ย้อนกลับไปกลับมา ในด่านเดิมที่ยาวขึ้นเรื่อยๆ บางครั้งเสียเวลากับการเดินวนไปวนมาหลงทางมากกว่าสู้กับศัตรูอีก และพอพูดถึงการสู้กับศัตรู เกมส์นี้อย่างที่บอกไปว่าพยายามฆ่าเราตลอดเวลา ด้วยความยากในระดับไม่ธรรมดา ซึ่งก็ไม่แปลกที่เราจะตายบ่อยๆ แต่ทุกครั้งที่ตายเกมส์จะ Loading นานมาก เป็นการเพิ่มระดับความหัวร้อนให้กับผู้เล่นโดยไม่จำเป็นเลยจริงๆ (ผู้เขียนเล่นบน Playstation 4 Pro)

มุมกล้องรวมถึงระบบการล็อคเป้าศัตรูทำได้ไม่ดีเท่าไร ยิ่งถ้าเป็นศัตรูที่มีหลายพาร์ทหลายส่วนให้ล็อคเป้า การที่เอาปุ่มหมุนหน้าจอ มารวมกับปุ่มสลับเป้าหมาย ทำให้บางครั้งเสียจังหวะการต่อสู้ได้ง่ายๆเลย ยิ่งกับเกมส์ที่มีระดับความยากที่สูงแล้ว ยิ่งทำให้เราพลาดง่ายขึ้น หัวร้อนง่ายขึ้นไปอีก และมุมกล้องของเกมส์บางครั้งก็ทำให้เรามองไม่เห็นศัตรูหรือศัตรูบางตัวอย่างหนูนรก(ผู้เขียนตั้งเอง) กับแมงมุมพ่นกรด ก็มักจะดำดินโผล่ขึ้นมาโจมตีเราแบบไม่ทันตั้งตัวแบบน่าเกลียดมากๆ

ประกอบกับอนิเมชั่นของศัตรูบางครั้งจะกระตุกเหมือนติดอะไรสักอย่าง ทำให้การกะจังหวะบลอคหรือ Parry ทำได้ยากขึ้นไปอีก บางครั้งศัตรูก็มักจะติดบั๊กหรือ Glitch แปลกๆ ทำให้ตัวค้างไปเลยก็มี ซึ่งในเกมที่ต้องการความแม่นยำสูงมากๆนี้ ขอบอกเลยว่าไม่แฟร์สุดๆ

Review Score: 8/10

น่ายินดีที่ EA ทำเกมส์ Star Wars ที่ดีจริงๆ ได้สักทีกับ Star Wars Jedi: Fallen Order สอบผ่านในแง่เกมส์ Action Adventure ที่เน้นความยากเป็นหลัก โดยเฉพาะการต่อสู้กับพวกจักรวรรดิอย่างเหล่า Inquisitor ซึ่งมีทั้งความตึงเครียดและกดดันในระดับที่ดีเลยทีเดียว การต่อสู้ก็ดุดันและให้ความรู้สึกที่ดีมากเมื่อเราใช้ Light Saber ฟาดฟันศัตรูหรือใช้ Force พลิกแพลงในการต่อสู้ได้ ถือว่าช่วยตั้งมาตรฐานใหม่ให้เกมส์ Star Wars ที่มีเจไดเป็นตัวเอกเลย

ความยากของเกมถ้าคนเป็นแฟนเกม Soul ก็จะชอบแน่นอน เพราะหยิบเอาเอกลักษณ์มาใช้ต่อเยอะ ทั้งในด้านระบบและเกมเพลย์ จุดอ่อนในด้านที่ไม่น่าให้อภัยอย่างการออกแบบด่านก็มีอยู่ รวมถึงระบบ Check Point ที่ทำร้ายจิตใจผู้เล่น Casual ได้ง่ายๆ ถือว่าคนจะเล่นเกมส์นี้ต้องทำใจให้เข้มแข็งพร้อมตายบ่อยๆ ก่อนเล่นนะครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook