รีวิวเกม Dissidia Final Fantasy NT PS4 ตำนานไฟนอลฉบับเกมต่อสู้

รีวิวเกม Dissidia Final Fantasy NT PS4 ตำนานไฟนอลฉบับเกมต่อสู้

รีวิวเกม Dissidia Final Fantasy NT PS4 ตำนานไฟนอลฉบับเกมต่อสู้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สำหรับแฟนๆซีรีส์ Final Fantasy ถือว่าการได้สัมผัสตัวละครในตำนานในเกมรูปแบบอื่นที่ไม่ใช่ RPG ถือว่าเป็นความสนุกในฝันเพราะเป็นที่รู้กันว่าจุดเด่นของซีรีส์ ไฟนอลคือตัวละครที่โดดเด่น ที่สามารถครองใจผู้เล่นได้ ทำให้การมาของ Dissidia Final Fantasy NT บน PS4 น่าสนใจเกินหน้าเกินตารูปแบบการเล่นในทันที เพราะมันคือการรวมดาวตัวละครไฟนอลมาครบทุกภาคในรูปแบบเกมต่อสู้

เกริ่นนำ

เกม Dissidia Final Fantasy NT บน PS4 ต้นฉบับออกบนเกมตู้มาเป็นปีแล้ว แต่การที่มันเปิดให้เล่นในญี่ปุ่นก่อน ทำให้แฟนๆชาวไทยอาจจะไม่เคยเล่น ซึ่งหากย้อนไปไกลอีกหน่อยมันเคยออกบน PSP มาแล้วโดยเป็นการนำตัวละครไฟนอลมามัดรวมกันแล้วปรับเปลี่ยนแนวเป็นแอ็คชั่นต่อสู้แบบ 3 มิติที่มีความเป็น Final Fantasy ครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นกราฟิกและท่าไม้ตายที่อลังการงานสร้างรวมทั้งฉากและตัวละคร โดยในภาคใหม่จะได้ “ทีมนินจา” มาสร้างยิ่งน่าสนใจเพราะทีมนี้ถือว่าถนัดสร้างเกมแอ็คชั่นอยู่แล้ว

กราฟิก

กราฟิกในเกมอยู่ในระดับดี แม้มันไม่ได้สร้างจากค่าย Square Enix โดยตรงแต่ก็ถ่ายทอดความเป็น Final Fantasy ได้อย่างครบถ้วน แถมยังออกแบบตัวละครในตำนานที่มีมาตั้งแต่สมัยแฟมิคอม 8Bit มาเป็นตัวละครในเกมยุคใหม่ได้น่าสนใจโดยเฉพาะตัวละครคลาสสิกจากภาคสามที่มาในรูปแบบหลากหลายอาชีพ ส่วนเฟรมเรตของเกมก็ลื่นไหลดีแม้จะเล่นหลายคนในโหมดออนไลน์ก็ไร้อาการกระตุกต่างจากสมัยตัวเดโม

เพลงประกอบ

เพลงในเกมถือเป็นจุดเด่นอย่างมากเพราะมันเป็นการรวมฮิตเอาเพลงจากซีรีส์ Final Fantasy มารวมกันทุกภาค โดยมีเพลงในตำนานของหลายภาคที่ใส่มาแบบแทบไม่ได้ปรับเปลี่ยนเหมือนเป็นการเอาใจแฟนเกมไฟนอลทั้งรุ่นใหม่และรุ่นใหญ่ ส่วนเสียงพากย์ในเกมก็จัดเต็มมากันทุกตัว โดยตัวละครดังๆในตำนานก็มีเสียงพากย์ที่เหมือนกับต้นฉบับด้วย นอกจากนี้ผู้เล่นยังสามารถเปลี่ยนเพลงประกอบได้เองตามใจชอบด้วย

เกมเพลย์

รูปแบบการเล่นเป็นเกมแนวต่อสู้แบบ 3 ต่อ 3 ที่มีมุมกล้อง 3D แบบมองจากด้านหลังของตัวละคร ที่ผู้เล่นสามารถปรับเปลี่ยนได้เอง โดยแต่ละตัวละครจะมีความคล่องตัวสูงผู้เล่นสามารถใช้ท่าพุ่งตัวเข้าหาเป้าหมายอย่างรวดเร็วได้ ทำให้เกมเพลย์รวดเร็วเหมือนกับการต่อสู้แบบฉบับที่ซีรีส์ ไฟนอลใช้มาตลอด และเกมมีระบบโจมตีที่เป็นเอกลักษณ์ โดยมีทั้งแบบ Brave Attack ที่เป็นท่าไม้ตายที่รุนแรง และทำให้ทีมศัตรูเสียค่า Break Bonus และยังมีท่า HP Attack ที่เมื่อโจมตีทีมคู่แข่งจะส่งผลให้ค่า Break Bonus เพิ่ม

นอกจากนี้ยังมีท่าไม้ตายพิเศษที่แตกต่างของตัวละครที่เรียกว่า EX Skills ที่รับประกันความรุนแรง ที่นอกจากจะใช้เพื่อโจมตีคู่แข่งแล้วยังส่งผลกับสถานะของตัวละครเช่นเพิ่มพลังโจมตี , ป้องกัน หรือเติมพลัง และยังมีท่าที่ส่งผลกับทีมศัตรูเช่นพิษ หรือให้ตาบอดชั่วคราว และแน่นอนว่าซีรีส์ไฟนอล ต้องมีมนต์อสูร มาให้ใช้ที่เราต้องค่อยๆเก็บสะสมพลังแล้วเรียกมันมาใช้งาน ซึ่งแต่ละตัวมีท่าไม้ตายที่แตกต่างกันแถมยังมีมากันแทบจะครบทุกตัว(ตัวที่ดังๆ) เช่น Bahamut,Ifrit,Leviathan,Odin,Shiva และอีกมากมายหลายตัว ในตอนแรกจะมีมาให้ใช้เพียง 1 ตัวแต่จะค่อยๆปลดล็อคออกมาให้ได้ใช้งานกัน โดยรวมท่าไม้ตายในเกมเน้นความรวดเร็วและต้อง ชิงไหวชิงพริบกันตลอด และการเล่นเป็นทีมสำคัญมาก

ส่วนตัวละครในเกมก็มีการยัดใส่มาตั้งแต่ภาคแรกๆอย่างนักรบแห่งแสง จนถึง เจ้าชาย Noctis Lucis Caelum จากภาค 15 และยังมีภาคพิเศษอย่าง Final Fantasy Tactics และตัวละครจาก Final Fantasy Type-0 มาให้เลือกเล่นด้วย รวมแล้ว(ตอนนี้) มีทั้งหมด 28 ตัว โดยโหมดหลักๆในเกมจะมีโหมดเล่นออฟไลน์ ที่ผู้เล่นสามารถจัดทีมออกไปต่อสู้กับตัวละครฝ่าย Com เพื่อสะสมค่าพลัง , เงิน และยังได้ Memoria มาปลดล็อคสิ่งใหม่ๆในโหมดเนื้อเรื่องเช่นคัทซีนงามๆ ส่วนโหมดออนไลน์ที่น่าประทับใจเพราะมีความลื่นไหลอย่างมาก แม้ว่าการรอเพื่อนร่วมกันเล่นอาจจะใช้เวลานานไปนิด แต่เราสามารถสนุกแบบไม่กระตุกแบบเดียวกับโหมดออฟไลน์ และยังปรับแต่งการแข่งได้ตามต้องการได้ด้วย ซึ่งเมื่อชนะจะได้ค่าพลัง และคะแนนมาปลดล็อคสิ่งใหม่ๆเช่นกัน

ความคุ้มค่า

เกม Dissidia Final Fantasy NT อาจจะไม่ได้มีโหมดมากมาย แต่ก็มีตัวละครระดับตำนานให้เลือกเล่นจำนวนมาก และยังมีการปลดล็อคสิ่งใหม่ๆเช่นความสามารถของตัวละคร หรือชุดใหม่ รวมทั้งไอเทมเสริมหรืออสูรเพิ่มเติม ทำให้ผู้เล่นอยู่กับเกมได้ยาวนานเพราะมีอะไรซ่อนอยู่เพียบ แถมในอนาคตทีมงานยังจะมีการอัพเกรดสิ่งใหม่ๆเพิ่มเข้ามาให้เล่นเพิ่มอีกแน่(แต่ต้องเสียเงิน)

และความดีงามตามที่บอกมาทั้งหมดทำให้การกลับมาอีกครั้งของเกมต่อสู้ของซีรีส์ไฟนอล อย่าง Dissidia Final Fantasy NT มีดีมากพอที่จะหามาเล่น ต่อให้ไม่ใช่แฟนซีรีส์ไฟนอล วัดกันที่เกมเพลย์ล้วนๆก็ยังถือว่าสนุกพอตัวแม้จะไม่ได้มากมายเท่ากับเกมต่อสู้ขั้นเทพหลายเกมแต่ก็มีสิ่งให้ผู้เล่นค้นหามากกว่าที่คิด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook