อาหารปีใหม่!! กับความเชื่อที่มีแต่โบราณ

อาหารปีใหม่!! กับความเชื่อที่มีแต่โบราณ

อาหารปีใหม่!! กับความเชื่อที่มีแต่โบราณ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แต่ละประเทศนั้นก็มีวัฒนธรรมและความเชื่อที่แตกต่างกันออกไป โดยความเชื่อเรื่องการ "ทานอาหารมงคล" ในปีใหม่นั้น แต่ละประเทศก็แตกต่างออกไปเช่นกัน ซึ่งเราจะมาสำรวจกันว่าแต่ละประเทศทานอะไรในปีใหม่และมีความเชื่อกันอย่างไรกันบ้าง

สเปน จะทานองุ่น 12 ผลไปพร้อมกับเสียงนาฬิกาตีบอกเวลาเที่ยงคืนในวันสิ้นปี เพื่อต้อนรับความโชคดีตลอด 12 เดือนข้างหน้า

เนเธอร์แลนด์ นิยมทานโดนัท เพราะเชื่อว่าวงกลมแบบวงแหวนนั้น จะทำให้ชีวิตครบถ้วนบริบูรณ์เหมือนรูปร่างของอาหาร

กรีซ จะทำเค้กสอดไส้เหรียญเงินชิ้นใหญ่หรือที่เรียกว่า St. Basil's cake เพื่อรำลึกถึง "นักบุญบาซิล" ผู้มีความเมตตาต่อคนยากจน ซึ่งเสียชีวิตในวันที่ 1 มกราคม และเชื่อกันว่าคนใดพบเหรียญเงินในเค้กนั้นจะโชคดีไปตลอดปี

จีน นิยมทานปลาและไก่ทั้งตัวในปีใหม่ เพราะคำว่า "ปลา" พ้องเสียงตรงกับคำว่า "เหลือเฟือ" ในภาษาจีน และทานไก่ทั้งตัวโดยไม่ตัดส่วนใดออก โดยเชื่อว่าจะทำให้ชีวิตครบถ้วนสมบูรณ์และมั่งคั่ง

ญี่ปุ่น จะทานบะหมี่ไม่ตัดเส้นที่เรียกว่า "โทชิโคชิ โซบะ" เพราะเชื่อว่าจะทำให้อายุยาวเหมือนเส้นบะหมี่

อิตาลี จะทานถั่วเลนทิล เพราะถั่วนี้มีรูปร่างคล้ายเหรียญเงิน จึงเชื่อว่าจะนำความร่ำรวยมาให้

อเมริกา นิยมทานถั่วตาดำ Black-Eyed pea (ไม่ใช่นักร้องวง Hip-Hop นะครับ) เพราะถั่วนี้เมื่อปรุงสุกแล้วจะมีสีและรูปร่างเหมือนเหรียญเงิน และแน่นอน เขาเชื่อว่านำความร่ำรวยมาให้

ส่วนประเทศไทยนั้นถือว่าวันปีใหม่คือวันสงกรานต์ จะนิยมทานพวกทองหยิบ, ทองหยอด, ฝอยทอง เพราะเชื่อเรื่องโชคลาภและความมั่งมี แต่น่าเสียใจที่ปัจจุบันนี้เรากลับไปทานอาหารที่รับวัฒนธรรมมาจากต่างชาติแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเค้ก, พิซซ่า หรือไอศกรีม และที่หนักว่านั้นคือจำพวกเครื่องดื่มแอลกอฮอทั้งหลาย เฉพาะฉะนั้นเพื่อเป็นการรักษาวัฒนธรรมของไทย ปีใหม่นี้เราควรหันมาทานของอนุรักษ์ความเป็นไทยเราบ้างก็ดีนะครับ เช่น ขนมถ้วย, ถ้วยฟู หรือพวกน้ำลำใยเป็นต้น

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : MK Restaurant

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook