รู้ก่อนเรียนหมอ.... 5 เช็คลิสต์สำหรับว่าที่นักศึกษาแพทย์

รู้ก่อนเรียนหมอ.... 5 เช็คลิสต์สำหรับว่าที่นักศึกษาแพทย์

รู้ก่อนเรียนหมอ....  5 เช็คลิสต์สำหรับว่าที่นักศึกษาแพทย์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อถามถึงคณะในฝันแล้ว “คณะแพทยศาสตร์” ต้องติดหนึ่งในสามที่ใครหลายคนอยากเรียนแน่ ๆ แต่เส้นทางการเป็นหมอไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย  ทั้งด่านการเรียนสุดหินและการทำงานที่หนักหน่วงไม่แพ้กัน วันนี้ Sanook Campus ได้มีโอกาสพูดคุยกับนิสิตนักศึกษาแพทย์ตัวจริงจากงาน “Med In-depth เอ็นคอนเส็ปท์เปิดบ้านหมอ”  ที่รวบรวมนิสิต-นักศึกษาแพทย์ทั้งจุฬาฯ ธรรมศาสตร์ รามา และ ศิริราช มาถ่ายทอดประสบการณ์ตรง โดย 5 เช็คสิสต์ที่ต้องคิดก่อนเรียนหมอก็คือ

1.เรียนหนักแบบสาหัส

การเรียนแพทย์ต้องโฟกัสเรื่องการเรียน และต้องตั้งใจอ่านหนังสือมากเป็นพิเศษ เพราะนอกจากเนื้อหาเยอะมาก ๆ แล้ว ยังต้องแม่นยำในเนื้อหาเพราะแพทย์เป็นวิชาชีพที่เกี่ยวกับการดูแลชีวิตของผู้คน ดังนั้นถ้าเผลอหรือพลาดเรื่องไหนไปอาจส่งผลกระทบต่อการรักษาคนไข้ในอนาคต นอกจากการเรียนแลคเชอร์เนื้อหาจากอาจารย์แล้วยังต้องอ่านข้อมูลจากแหล่งความรู้อื่นๆ ทั้งจากเว็บไซต์ต่างประเทศ จาก Textbook หรือจากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ อีกสารพัด

2.พักผ่อนน้อย กิน-นอนไม่เป็นเวลา

นอกจากเรียนหนักแล้ว ช่วงสอบก็หนักไม่แพ้กันเพราะต้องเรียนหลายวิชาทำให้ต้องอ่านหนังสือสอบติดกันหลาย ๆ วัน แต่เท่านั้นยังไม่พอเพราะเวลาที่ต้องออกตรวจคนไข้ ต้องอยู่เวรเวลา 16.00 - 07.00  น. และทำงานในวันต่อไปในทันที นอกจากนี้หากมีคนไข้ฉุกเฉินหรือคนไข้ที่ดูแลอยู่ในภาวะวิกฤติ หมอก็จะต้องรับผิดชอบดูแล แม้จะอยู่ในเวลาพักกลางวัน หรือกลางดึกก็ตาม

3.ต้องผ่านด่านอาจารย์ใหญ่

เรื่องที่เลี่ยงไม่ได้สำหรับบรรดานักศึกษาแพทย์ คือ การเรียนเกี่ยวกับการทำงานของร่างกายและระบบการทำงานของอวัยวะภายใน โดยวิธีที่จะศึกษาได้ดีที่สุดคือการเรียนจากอวัยวะภายในของจริง หรือที่เรียกว่า  “อาจารย์ใหญ่”  คุณครูผู้ไร้วิญญาณผู้ที่มอบร่างกายหลังจากเสียชีวิตให้ศึกษา ดังนั้นใครที่อยากเรียนหมอให้เตรียมใจไว้เลยว่าจะต้องตั้งใจเรียนให้คุ้มกับทุกรอยที่กรีดลงบนร่างของอาจารย์ใหญ่เลยทีเดียว

 

4.ความเสี่ยงกับโรคต่างๆ

เราจะเห็นได้จากข่าวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคไข้หวัดนก โรคซาร์ส หรือไวรัสโคโรน่าที่กำลังระบาดในปัจจุบัน แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ต้องทำหน้าที่รักษาคนไข้ให้หายเป็นปกติ จึงทำให้มีความเสี่ยงต่อการติดโรคต่าง ๆ ได้ เพราะเป็นความรับผิดชอบโดยตรง และต้องดูแลคนไข้อย่างใกล้ชิดนั่นเอง

5.ใช้พลังใจสูง

ไม่ใช่แค่เรียนเก่งอย่างเดียวก็เรียนได้ เพราะหมอต้องการความพร้อมทั้งกายและใจ ดังนั้นข้อสำคัญที่บรรดานักศึกษาแพทย์แนะนำคือ ถ้าใจไม่พร้อม ไม่อยากเรียน หรือเรียนเพราะพ่อแม่บังคับ ไม่ควรเข้าเรียน เพราะมีหลาย ๆ คนที่ต้องหยุดเรียนและลาออกก่อนจะเรียนจบ เพราะทนไม่ไหวไม่ใช่เพราะเรียนไม่ไหว

 

ถ้าใครได้อ่านแล้ว อาจจะตัดสินใจได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ซึ่งบอกได้เลยว่าอาชีพเป็นอาชีพที่หนักมากจริงๆ ต้องสละทั้งเวลาส่วนตัว และเวลากับครอบครัวให้กับการรักษา การช่วยชีวิตคนอื่น แต่ก็นับว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่ทรงเกียรติมากเหมือนกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook