6 เรื่องที่ต้องรู้ ก่อนไปเป็น "นักศึกษาฝึกงาน"
นักศึกษาฝึกงานส่วนใหญ่ อาจจะคิดว่าการฝึกงานนั้นจำเป็นต้องฝึกเพราะเป็นส่วนนึงของหลักสูตรที่ทางมหาวิทยาลัยได้กำหนดเอาไว้แล้ว แต่บางส่วนก็คิดว่าอยากจะมาฝึกงานเพราะอยากได้รับประสบการณ์ก่อนที่จะเริ่มทำงานจริงๆ บางก็อยากเจอกับสภาพแวดล้อมการทำงานจริงๆ ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง
นักศึกษาฝึกงาน กับ 6 สิ่งที่ควรรู้
1. เป็นแก้วที่สามารถเติมน้ำได้อยู่เสมอ
ที่จริงแล้วคำว่า เป็นแก้วที่สามารถเติมน้ำได้อยู่เสมอ นั้น สามารถใช้ได้ในทุกๆ เรื่อง การที่เราได้เริ่มทำสิ่งใหม่ๆ เราควรเปิดใจ และเปิดรับสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสื่งที่คนอื่นสอน หรือความคิดเห็นที่แตกต่างจากเรา การฝึกงานนั้นเราจะมีพี่เลี้ยงที่คอยดูแลงานเรา ดังนั้นเวลาพี่เขาสอนอะไร เราก็ควรเปิดรับ เพื่อที่จะได้รับความรู้ใหม่ๆ
2. จะมีงานให้ทำไหมนะ?
ตอนฝึกงานเราจะได้ทำงานหรือเปล่านะ?
พี่เขาจะให้งานอะไรเรา?
แล้วเราจะว่างหรือเปล่า?
คำถามพวกนี้คงเกิดขึ้นกับนักศึกษาที่กำลังจะฝึกงานทุกๆ คน ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เราไปฝึกงานในขณะที่พี่ๆ เขาก็ทำงานอยู่เช่นกัน เราก็ต้องเข้าใจว่าพี่เขาก็มีงานของเขาที่ต้องทำ และเมื่อพี่เขามอบหมายงานให้เราทำ เราก็ควรทำอย่างเต็มที่ หากไม่รู้อะไรก็อาจจะหาข้อมูลเพิ่มเติม หรือไม่ก็ถามพี่ๆ เขาก็ได้ และเมื่อทำงานที่ได้รับมอบหมายเสร็จแล้วก็ไม่ควรอยู่ว่างๆ อาจจะเป็นฝ่ายเอ่ยถามพี่เขาแทนว่า “มีอะไรให้หนู/ผมช่วยไหมคะ/ครับ”
3. มาก่อนได้ แต่ห้ามสาย
ควรมาทำงานให้ตรงต่อเวลา ถ้าเขากำหนดว่าเริ่มงาน 8 โมงก็ควรมา ก่อนสัก 10 ถึง 15 นาที เพื่อป้องกันไม่ให้เข้างานสาย ที่จริงแล้วการตรงต่อเวลาถือว่าเป็นเรื่องพื้นฐานที่ทุกๆ คนควรมี ไม่ว่าจะฝึกงาน เข้าเรียน หรืออะไรก็ตาม
4. มือไม้อ่อนเข้าไว้
นักศึกษาฝึกงานส่วนใหญ่ก็น่าจะอายุน้อยกว่าพี่ๆ ในบริษัทที่เราไปฝึกอยู่แล้ว ดังนั้นการที่เรามือไม้อ่อน เจอใครก็ไหว้ พบใครก็ทัก ย่อมเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน พี่ๆ เขาก็จะได้เอ็นดูว่าเด็กคนนี้มีมารยาท ไม่ควรทำตัวนิ่งๆ ไม่พูดไม่คุยกับใครเลย ควรเป็นมิตรกับทุกๆ คนเอาไว้ แม้กระทั่งพี่แม่บ้านที่ดูแลความสะอาดเรียบร้อยของบริษัท เราก็ควรทักทายเขาด้วย ไม่ใช่เรื่องเสียหาย
5. เลิกงานตอนไหนดีหละ?
ถ้าบริษัทกำหนดว่าเลิกงาน 5 โมง แล้วพอ 5 โมงจะกลับบ้านได้เลยไหมนะ? ที่จริงแล้วก็สามารถลุกกลับบ้านได้ แต่ด้วยมารยาทในที่ทำงานเราอาจจะมองรอบๆ สักนิด ว่าพี่ๆ เขากำลังทำอะไรกันอยู่ กลับบ้านกันหรือยัง ถ้าพี่ๆ เขายังทำงานกันอยู่ เราก็อาจจะเสนอตัวช่วยก็ได้ ซึ่งถือว่าเป็นน้ำใจในการทำงาน ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตการทำงานจริงๆ แต่ที่จริงแล้วถ้าเราไม่กล้าลุกกลับบ้าน พอถึงเวลาเลิกงาน หรือเลิกงานไปได้สักพัก พี่ๆ เขาก็จะบอกเราเองว่ากลับบ้านได้แล้วนะ ฉะนั้นไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ได้กลับบ้านนะคะ ^ ^
6. คิดนอกกรอบ
การทำงานในสิ่งที่ได้รับมอบหมายตามระเบียบทุกอย่างนั้นก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่เราอาจจะเพิ่มความน่าสนใจให้กับงานโดยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ หรือความคิดนอกครอบเพิ่มเติมเข้าไปในงาน หรือไอเดียที่ดูน่าสนใจก็สามารถเสนอให้พวกพี่ๆ เขาก็ได้
การฝึกงานก็เหมือนกับการได้ทำงานในชีวิตจริง ถือว่าเป็นอีกก้าวที่เราได้โตขึ้น และเราก็สามารถค้นหาตัวเองจากการฝึกงานได้ด้วย ว่าเราจะชอบงานนี้หรือเปล่าถ้าเราตัดสินใจจะทำงานประเภทนี้ในอนาคต ดังนั้นน้องๆ นักศึกษาฝึกงานทุกๆ คนก็ควรตั้งใจฝึกงานกันอย่างเต็มที่นะคะ