มหาวิทยาลัยหลายเเห่งในสหรัฐฯ ไม่ใช้ระบบให้เกรด A-F

มหาวิทยาลัยหลายเเห่งในสหรัฐฯ ไม่ใช้ระบบให้เกรด A-F

มหาวิทยาลัยหลายเเห่งในสหรัฐฯ ไม่ใช้ระบบให้เกรด A-F
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มหาวิทยาลัยสหรัฐฯ หลายเเห่งเลี่ยงให้เกรดตัวอักษรเพราะเชื่อว่าไม่เป็นผลดีแก่นักศึกษา


นักศึกษาและอาจารย์จำนวนหนึ่งบอกว่ารายงานผลการศึกษาที่เขียนรายละเอียดและข้อเเนะนำเพื่อปรับปรุงการเรียนให้ดีขึ้น มีประโยชน์มากกว่าการระบุระดับเกรดเป็นตัวอักษร A ถึง F แต่อีกหลายคนบอกว่าการให้เกรดเป็นตัวอักษรช่วยกระตุ้นให้นักศึกษาพยายามมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยบางแห่งไม่มีเกรดให้นักศึกษา เเต่อาจารย์จะเขียนรายงานแก่นักศึกษาเเต่ละคนโดยอธิบายว่าทำได้ดีในด้านใดบ้างและต้องปรับปรุงอะไรบ้าง
เจสสิก้า วีเวอร์ส อายุ 21 ปี เรียนวิชาเอกการศึกษาก่อนปฐมวัยที่วิทยาลัยอัลเวอร์โน่ ในเมืองมิลวากี้ รัฐวิสคอนซิน เป็นวิทยาลัยคาทอลิกเล็กๆ ที่สอนเฉพาะนักศึกษาหญิง

วีเวอร์สบอกว่าตอนกลับบ้านที่รัฐอิลลินอยส์ เพื่อนบางคนคิดว่าเป็นเรื่องเเปลกที่วิทยาลัยของเธอไม่ให้เกรดนักศึกษาเป็นตัวอักษร A-F เเต่วีเวอร์สบอกว่าชอบรายละเอียดที่อาจารย์เขียนในรายงานผลการศึกษาเพราะช่วยให้เธอเตรียมตัวแผนการสอนที่ง่ายเเก่การเข้าใจของเด็กเล็ก เธอบอกว่าในแผนการศึกษาที่เธอเตรียม เธอคาดหวังมากเกินไปจากเด็กเล็ก

ส่วน เเองเจลลีน่า นูโน่ เพื่อนร่วมชั้นเรียนที่ย้ายมาจากมหาวิทยาลัยของรัฐที่ใหญ่กว่าเพราะมีปัญหาด้านวิชาการเขียน คำเเนะนำที่ละเอียดของอาจารย์ช่วยให้เธอเขียนได้ดีขึ้น งานเขียนมีความชัดเจนมากขึ้น นูโน่บอกว่าเธอวางแผนที่จะติวการเขียนให้กับเพื่อนนักศึกษาคนอื่นๆ

เบน สตัมพ์ส เป็นนักศึกษาปีสุดท้ายที่วิทยาลัยแฮมพ์เชียในรัฐเเมสสาชูเส็ทท์สกล่าวว่าได้รับรายงานผลการศึกษาเป็นตัวอักษร A ถึง F ในตอนเรียนมัธยม เเต่เขาไม่เคยเข้าใจว่าเกรดที่ได้รับบอกถึงความสามารถของตนอย่างไร
เขาบอกว่าเกรดที่เป็นตัวอักษรไม่มีรายละเอียดที่ช่วยอธิบายว่าทำไมถึงได้ B ทำไมถึงไม่ได้ C เขาไม่มีทางรู้เลยว่าทำไมจึงไม่ได้เกรด A เเละไม่รู้ว่าควรปรับปรุงอย่างไรจึงจะทำได้ดีขึ้น

สตัมส์บอกว่านักศึกษาที่มหาวิทยาลัยแฮมพ์เชียและที่อื่นๆที่ไม่ได้รายงาผลการศึกษาเป็นเกรด เต็มใจที่จะลงเรียนในวิชาที่ยาก นักศึกษาจำนวนมากไม่อยากลงเรียนในวิชาที่ยากเพราะกลัวจะได้เกรดต่ำซึ่งจะมีผลต่อระดับเกรดเฉลี่ย หรือ GPA

มาร์ค เฮาเออร์ รักษาการรองอธิการบดีผ่ายวิชาการที่มหาวิทยาลัยแอนทิออค วิทยาเขตลอสเองเจลลีส ซึ่งไม่ไห้เกรดนักศึกษาเป็นตัวอักษรกล่าวว่าชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ เป็นการปรับตัวสำหรับนักศึกษานานาชาติ การประเมินผลการเรียนด้วยการเขียนในรายละเอียดช่วยให้นักศึกษาต่างชาติเข้าใจความคาดหวังต่างๆ ได้ดีขึ้น

เขากล่าวว่าเกรดตัวอักษร A ถึง F ไม่ช่วยให้นักศึกษาเข้าใจความสามารถของตน
เขากล่าวว่านักศึกษาบางคนกังวลว่าในฐานะนักศึกษาที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัย แอนทิออค พวกเขาจะเข้าเรียนในระดับปริญญาโทยากขึ้นและไม่สามารถเเข่งขันกับนักศึกษาที่ได้เกรดตัวอักษรในการหางานทำ เจ้าหน้าที่ฝ่ายรับสมัครนักศึกษาเเละผู้ว่าจ้างงานมักร้องขอข้อมูลในรายละเอียดเกี่ยวกับตัวนักศึกษาจากทางมหาวิทยาลัย เสียก่อนเพื่อประกอบการพิจารณาเเละเมื่อได้รับรายละเอียดเเล้ว พวกเขาจะเข้าใจในความสามารถของนักศึกษามากขึ้น

ราเชล รูบินสไตน์ คณบดีฝ่ายบริการเเละสนับสนุนวิชาการที่มหาวิทยาลัยเเฮมเชีย บอกว่าที่ทำงานไม่ประเมินพนักงานจากเกรดการเรียนในมหาวิทยาลัยเเต่จะดูว่าทำงานในตำเเหน่งได้ดีเเค่ไหนมากกว่า รูบินสไตน์กล่าวว่าเกรดตัวอักษรไม่บอกอะไรมากเกี่ยวกับความสามารถของนักศึกษา

วิลเลี่ยม โคพลิน ผู้อำนวยการด้านโครงการประชาสัมพันธ์ที่เเม็คสเวลล์ มหาวิทยาลัยซีราคูส ในนิวยอร์กกล่าวว่านักศึกษาจะเรียนหรักเพื่อให้ได้เกรดที่ดีและเขาไม่เเน่ใจว่านักศึกษาจะตั้งใจเรียนจริงจังเเค่ไหนหากไม่มีเกรดให้
เขาบอกว่านักศึกษาได้รับเเรงจูงใจจากเกรดตัวอักษร มีนักศึกษาไม่กี่คนเท่านั้นที่มีความมุ่งมั่นด้วยตนเองโดยไม่พึ่งเเรงจูงใจจากภายนอก

เวเนสสา ริออส อายุ 32 ปี เรียนจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยแอนทิออค วิทยาเขต ลอสเองเจลลีสและกำลังเรียนต่อปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้อีกด้วย เธอบอกว่า การประเมินผลการเรียนแบบไม่มีเกรดนี้ ไม่ได้หมายความว่านักศึกษาเรียนหนักน้อยกว่าหรือพยายามน้อยกว่า เเต่หมายความว่านักศึกษาต้องเข้าใจว่าอาจารย์สอนอะไร เธอบอกว่าการเรียนเเบบไม่ได้เกรดเป็นตัวอักษร ช่วยลดระดับความเครียดลง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook