ทำกิจกรรมเยอะไป! กินเวลาเรียน เล็งปรับลด ชี้เป็นต้นเหตุผลการเรียนตกต่ำ

ทำกิจกรรมเยอะไป! กินเวลาเรียน เล็งปรับลด ชี้เป็นต้นเหตุผลการเรียนตกต่ำ

ทำกิจกรรมเยอะไป! กินเวลาเรียน เล็งปรับลด ชี้เป็นต้นเหตุผลการเรียนตกต่ำ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) เปิดเผยว่า สพฐ.เตรียมปรับลดกิจกรรมนักเรียนลง หลังผลศึกษาพบว่า เวลาเรียนซึ่งมีอยู่ปีละ 200 วันนั้น นักเรียนต้องไปทำกิจกรรมอื่นๆ ถึง 82 วัน เพราะแต่ละปีมีกิจกรรมจากหน่วยงานต่างๆ ให้นักเรียนร่วมถึง 67 กิจกรรม อย่างไรก็ตาม โดยหลักวิชาการแล้ว นักเรียนไม่ควรใช้เวลาเรียนไปทำกิจกรรมอื่นเกิน 10% หรือ 40 วัน และนี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผลการเรียนของเด็กไม่สูงตามที่เราคาดหวัง สพฐ.จึงต้องการลดทอนกิจกรรมเหล่านี้ลง เพื่อคืนเวลาเรียนให้เด็ก

นายกมล กล่าวต่อว่า สำหรับกิจกรรมที่นักเรียนต้องเข้าร่วมในแต่ละปีนั้น จะแบ่งเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ ประเภทแรกเป็นกิจกรรมที่เกี่ยวกับนักเรียนโดยตรงหรือเกี่ยวข้องกับวิชาเรียน อาทิเช่น กิจกรรมสร้างเสริมสุขอนามัย รณรงค์ส่งเสริมคุณธรรม กิจกรรมปลูกป่าพัฒนาสิ่งแวดล้อมของโรงเรียน ค่ายวิทยาศาสตร์ ส่วนประเภทที่ 2 เป็นกิจกรรมช่วยงานหน่วยงานภายนอก เช่น รณรงค์เลือกตั้ง กิจกรรมประจำปีของจังหวัดซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเรียนของเด็ก หรือการเกณฑ์เด็กไปร่วมกิจกรมการจัดงานต่าง ๆ เพราะให้ดูเหมือนมีคนไปร่วมงานจำนวนมาก และประเภทที่ 3 เป็นกิจกรรมที่เกี่ยวกับการประเมินต่างๆ ซึ่งกำหนดไว้ว่า จะใช้เวลาไม่เกิน 9 วัน แต่ในทางปฏิบัติต้องมีการเตรียมความพร้อมรับการประเมินเป็นเดือน กระทบต่อเวลาเรียนของเด็ก

"ปลายเดือน มีนาคมนี้ สพฐ.จะเชิญทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทั้ง 67 โครงการ มาประชุมหารือร่วมกัน เพื่อหาทางปรับลดเวลาการทำกิจกรรมเหล่านี้ให้เหลือไม่เกิน 10% เด็กจะได้มีเวลาเรียนเพิ่มขึ้น แต่ไม่ใช่ว่า สพฐ.จะเลิกกิจกรรมเหล่านี้ทั้งหมด เพราะส่วนใหญ่ก็เป็นกิจกรรมที่ดี แค่จัดระบบใหม่ แบ่งเป็นหมวดหมู่ เช่นหมวดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ หมวดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม แล้วบูรณาการกิจกรรมประเภทเดียวกันจากหน่วยงานต่างๆ เข้าด้วยกัน ถ้าทำอย่างนี้จะช่วยลดเวลาทำกิจกรรมไปได้มาก ทุกวันนี้ หน่วยงานเจ้าของกิจกรรมไม่ค่อยคุยกัน ต่างคนต่างมา

อย่างกระทรวงสาธารณสุขนั้น มีกิจกรรมที่หลากหลายมาก น่าจะคุยกันก่อนแล้วบูรณาการกิจกรรมเข้าด้วยกัน หรืออย่างกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมนั้น ก็มีโครงการทำนองนี้จากหลายหน่วยงาน ทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช.) ผู้ตรวจการแผ่นดิน ผู้ตรวจการรัฐสภา ทุกหน่วยงานก็อยากเอาเด็กเป็นเป้าหมาย แต่ไม่ได้นึกว่า จะทำให้เด็กเสียเวลาเรียน ซึ่งจริงๆ แล้ว ทุกกิจกรรม ก็พาเด็กไปทำเรื่องดี ๆ แต่ถ้ามากเกินไปก็ทำให้เด็กเสียเวลาเรียน "นายกมล กล่าวและว่า กิจกรรมบางประเภท เช่น การแข่งกีฬา อาจจะให้จัดในช่วงปิดภาคเรียนแทน ที่สำคัญในช่วงเดือนที่นักเรียนสอบ จะไม่ให้เด็กเข้าร่วมกิจกรรมใด ๆ ทั้งสิ้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook