"ไพบูลย์" แจง "ธรรมนัส" ร้องปรับโครงสร้างพรรค จึงต้องขับออก-นายกฯ ปัดไม่เกี่ยวด้วย

"ไพบูลย์" แจง "ธรรมนัส" ร้องปรับโครงสร้างพรรค จึงต้องขับออก-นายกฯ ปัดไม่เกี่ยวด้วย

"ไพบูลย์" แจง "ธรรมนัส" ร้องปรับโครงสร้างพรรค จึงต้องขับออก-นายกฯ ปัดไม่เกี่ยวด้วย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชั่วคืนที่ผ่านมาพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เกิดการเปลี่ยนแปลงระลอกใหญ่ ไม่มีใครคาดคิดว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค กับ ส.ส.ในกลุ่มรวม 21 คน จะถูกขับจากพรรค

นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค พปชร. รับหน้าที่ชี้แจงเหตุที่เกิดขึ้น พุ่งเป้าประเด็นใหญ่ของการให้ ส.ส.ในกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค โดยระบุว่า การประชุมเกิดขึ้นเนื่องจากมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นสมาชิกพรรค นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค ได้ไปเสนอท่านหัวหน้าโดยในกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส ได้เรียกร้องให้ท่านหัวหน้าต้องปรับโครงสร้างพรรคอย่างขนานใหญ่ ซึ่งท่านหัวหน้าเห็นว่าประเด็นข้อเรียกร้องดังกล่าวนั้นจะสร้างปัญหามาก และเกรงว่าจะเกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่ในพรรค ท่านหัวหน้าจึงนัดประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรค การประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคได้พิจารณาถึงเรื่องที่ ร.อ.ธรรมนัส และคณะเรียกร้องมานั้น ก็เห็นว่าเป็นเรื่องที่พรรคไม่สามารถดำเนินการได้ตามต้องการ เพราะหากดำเนินการไปนั้นจะเป็นความเสียหายของพรรคทั้งระบบ

นายไพบูลย์ กล่าวว่า เพื่อรักษาหลักการแห่งพรรคพลังประชารัฐทั้งเรื่องเอกภาพ ความมีเสถียรภาพ หรือหลักการอุดมการณ์ของพรรคหลายอย่าง คณะกรรมการบริหารพรรคเห็นว่ารับไม่ได้ดังกล่าว ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส ยังยืนยันอยู่กับหัวหน้าว่าถ้าไม่รับข้อเสนอจะมีปัญหาแน่ในการบริหารพรรคต่อไป

ดังนั้นสิ่งนี้จึงทำให้พรรคเห็นว่าเป็นเหตุที่ร้ายแรงที่กระทบกับเสถียรภาพและความเป็นเอกภาพของพรรคพลังประชารัฐ คณะกรรมการบริหารพรรคก็เลยเห็นว่าเข้ากับข้อบังคับพรรค ข้อที่ 54 (5) ก็คือมีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น พรรคก็อาจจะจำเป็นต้องมีมติให้ กลุ่มผู้เรียกร้อง ก็คือนำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และคณะรวม 21 คน น่าจะต้องพ้นจากพรรคเพื่อที่จะให้รักษาส่วนใหญ่ก็คืออีกประมาณหนึ่งร้อยท่านให้ขับเคลื่อนไปตามอุดมการณ์ พร้อมยืนยันว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับกระแสข่าวต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี และไม่เกี่ยวข้องกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่ง ส.ส.ที่พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคครั้งนี้ต้องหาพรรคสังกัดใหม่ภายใน 30 วัน

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภารณ์ว่า เรื่องวันนี้ที่ทุกคนให้ความสนใจ คือเรื่องประชุมของพรรคพลังประชารัฐใช่ไหม ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นเรื่องของกรรมการบริหารและหัวหน้าพรรค พปชร.เป็นผู้ดำเนินการ ผมคิดว่าทุกคนก็พยายามทำสถานการณ์ให้เป็นปกติเร็วที่สุด เพราะฉะนั้นขึ้นอยู่กับประชาชน สิ่งสำคัญที่สุดทุกคนต้องมองไว้ใครเป็นอย่างไร เพราะโอกาสวันข้างหน้าการเลือกตั้งก็มีอยู่ ใช่ไหม ทุกคนก็ต้องช่วยกันติดตามพฤติกรรมของแต่ละคนด้วย ไม่สามารถอาจกล่าวได้ว่าใครดีหรือไม่ดี แต่พฤติกรรมเป็นตัวกำหนด ให้ประชาชนได้ตรวจสอบคัดกรองไตร่ตรองในการตัดสินใจในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้มีการคิดจะดำเนินการเรื่องของการปรับคณะรัฐมนตรี การยุบสภา อะไรต่างๆ เพราะว่ากฎหมายยังไม่เรียบร้อย ฉะนั้นอย่างเอาทุกอย่างมาตีกันทั้งหมด ไม่ใช่คนที่รักใครชอบใครพูดไม่ได้ หลายอย่างต้องเก็บไว้กับตัว แต่ผมขอบคุณประชาชนส่วนใหญ่ที่ให้ความเชื่อมั่นเชื่อถือในการทำงานที่ผ่านมาและได้วางอนาคตไว้ได้มากพอสมควรในการทำงาน หลายเรื่องที่เป็นปัญหายาวนาน หมักหมม ต้องมาแก้ นี่เป็นภาระที่มันทำให้งานใหม่ๆ ออกมาได้ช้าด้วย ก็ต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่ นโยบายที่ผมสั่งออกไปเป็นรายวันมันเยอะมาก เพราะลงไปในรายละเอียดทุกเรื่อง เพื่อให้การทำงานสำเร็จลุล่วงด้วยดี อะไรติดขัดตรงไหนก็พร้อมสั่งการเพิ่มเติมให้ นายกฯ ไม่เคยว่างเว้นการทำงาน

ทั้งนี้เมื่อถามว่า สรุปแล้วชัดเจนใช่หรือไม่ว่าจะไม่ปรับคณะรัฐมนตรีในช่วงนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค พปชร. ได้ส่งสัญญาณอะไรมาหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวสั้นๆ ว่า ส่งความรักความปรารถนาดีให้กัน เคารพซึ่งกันและกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook