เชียงใหม่วิกฤตต่อเนื่อง ค่ามลพิษในอากาศทะยานขึ้นอันดับ 1 โลก ติดต่อกันหลายวัน

เชียงใหม่วิกฤตต่อเนื่อง ค่ามลพิษในอากาศทะยานขึ้นอันดับ 1 โลก ติดต่อกันหลายวัน

เชียงใหม่วิกฤตต่อเนื่อง ค่ามลพิษในอากาศทะยานขึ้นอันดับ 1 โลก ติดต่อกันหลายวัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์หมอกควันจากไฟป่า และการเผาในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะที่จังหวัดเชียงใหม่ทวีความรุนแรงขึ้นต่อเนื่องจากเว็บไซต์ https://www.iqair.com จัดอันดับเมืองที่มีค่ามลพิษในอากาศของโลกพบว่าเมื่อเวลา 07.00 น. จังหวัดเชียงใหม่ ขึ้นมาอยู่ที่อันดับที่ 1 ของโลก หลายวันติดต่อกัน โดยวัดค่าดัชนีคุณภาพอากาศได้ 195 USAQI ส่วนอันดับ 2 ของโลกเมืองปักกิ่ง ประเทศจีน 182 USAQI

ขณะที่ข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษของไทย จากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ทั้ง 4 จุดของจังหวัดเชียงใหม่ วัดค่า PM 2.5 เมื่อเวลา 07.00 น. ณ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ต.ช้างเผือก อ.เมือง 113 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ต.ศรีภูมิ อ.เมือง 106 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ต.สุเทพ(ดอยสุเทพ) 90 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และที่ รพ.เทพรัตนฯ อ.แม่แจ่ม 88 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่าสูงขึ้นต่อเนื่องของรอบปีนี้

นอกจากต้องควบคุมพื้นที่เกิดไฟป่าเพื่อลดปริมาณหมอกควันจากไฟป่าในอากาศแล้ว เรื่องของสภาพอากาศก็ยังไม่เป็นใจที่จะทำให้สถานการณ์หมอกควันคลี่คลายลงได้ โดยเฉพาะพายุฝนฟ้าคะนอง หรือกระแสลมที่จะช่วยชะล้างหรือพัดพาหมอกควันให้เบาบางลงยังไม่มีเข้ามาในระยะนี้

ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ รายงานว่าในช่วงวันนี้ (9 มี.ค. 2564) ไปจนถึงประมาณ 1 สัปดาห์ข้างหน้าสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยต่อการแก้ไขปัญหาหมอกควันของภาคเหนือ เนื่องจากกระแสลม รวมทั้งเรื่องของพายุฝนฟ้าคะนองหรือพายุฤดูร้อนยังไม่มีปัจจัยใดที่จะทำให้เกิด

ส่วนคลื่นกระแสลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดผ่านก็เป็นลักษณะของลมอ่อนที่จะช่วยยกอากาศขึ้นได้บ้างในช่วงกลางวันและช่วงบ่ายเท่านั้นแต่ยังกดทับอยู่ในระดับความสูงที่ประมาณ 1,000 เมตรเท่านั้น แต่ไม่ทำให้หมอกควันสลายตัวลงหรือลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศไปได้ ประกอบกับช่วงเช้า และตอนกลางคืนยังมีอากาศหนาวเย็นที่จะกดทับสภาพอากาศเหนือเมืองเชียงใหม่และภาคเหนือยิ่งทำให้ฝุ่นควันสะสมตัวหนาแน่นมากขึ้น ไม่สามารถลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศได้

ทำให้ตลอดทั้งสัปดาห์ต่อจากนี้เชื่อว่าปัญหาหมอกควันในอากาศจะทวีความรุนแรงขึ้นได้ พี่น้องประชาชนในภาคเหนือต้องระวังรักษาสุขภาพ ป้องกันตนเองจากฝุ่นควันในอากาศที่อาจจะเพิ่มสูงขึ้นได้ สวมใส่หน้ากากอนามัยชนิดที่กันฝุ่น PM2.5 ได้ ทุกครั้งที่อยู่นอกบ้านหรือนอกอาคาร เปิดเครื่องกรองอากาศหรือเครื่องปรับอากาศในอาคารก็จะช่วยให้ได้อากาศที่ดีขึ้นบ้าง ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ และเด็กเล็กต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ที่สำคัญต้องงดการเผาทุกชนิดในพื้นที่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook