เปิดใจ "แท็กซี่พ่อลูกอ่อน" เอาลูกมาเลี้ยงบนรถ ยืนยันไม่ขอรับบริจาค

เปิดใจ "แท็กซี่พ่อลูกอ่อน" เอาลูกมาเลี้ยงบนรถ ยืนยันไม่ขอรับบริจาค

เปิดใจ "แท็กซี่พ่อลูกอ่อน" เอาลูกมาเลี้ยงบนรถ ยืนยันไม่ขอรับบริจาค
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แท็กซี่นำลูกอ่อนมาเลี้ยงด้วยบนรถ ไม่ขอรับบริจาค เพราะกลัวดราม่า อยากให้ลูกค้าโทรเรียกใช้บริการมากกว่า

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความเชิญชวนให้เรียกใช้บริการรถแท็กซี่สีชมพูคันหนึ่ง ขับอยู่ในระแวกปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งโชเฟอร์เป็นคุณพ่อลูกอ่อน พาลูกน้อยมานอนกินนมอยู่บริเวณเบาะด้านหน้าข้างคนขับ 

ผู้โพสต์ระบุว่า “พ่อแม่พี่น้องชาวปากเกร็ดที่เห็นโพสต์นี้ อยากให้เห็นหัวใจคนเป็นพ่อ เห็นแล้วยิ้มทั้งน้ำตา แท็กซี่สีชมพู ทะเบียน ทฬ 2784 พี่โจ คุณพ่อน้องที ขับละแวกปากเกร็ด นนทบุรี เบอร์โทร 063-2290528 ใกล้ไกลใช้บริการกันได้นะคะช่วยๆ กันค่ะ” ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีผู้มาแสดงความคิดเห็นและเห็นอกเห็นใจเป็นจำนวนมากนั้น

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (9 ก.พ.) เมื่อเวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บริเวณหน้าห้างเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ถนนแจ้งวัฒนะ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เพื่อสอบถาม นายกิจติพงษ์ จินดาวงศ์ อายุ 42 ปี โชเฟอร์แท็กซี่คนดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนเอา น้องเค มาเลี้ยงบนรถด้วยตั้งแต่ตอน 3 เดือน จนถึงตอนนี้ 7 เดือนแล้ว ซึ่งขับอยู่ตรงนี้ประจำตั้งแต่ 07.00 น. จนถึง 22.00 น.

 นายกิจติพงษ์ จินดาวงศ์ อายุ 42 ปี โชเฟอร์แท็กซี่พ่อลูกอ่อน นายกิจติพงษ์ จินดาวงศ์ อายุ 42 ปี โชเฟอร์แท็กซี่พ่อลูกอ่อน

โดยทุกวันจะเตรียมอุปกรณ์และนมมาเก็บไว้ ถ้าลูกหิวจะไปขอน้ำมาจากเซเว่นฯ มาเก็บไว้ในรถ ส่วนสาเหตุที่เอาลูกมาด้วยเพราะไม่มีคนเลี้ยง ที่ตนต้องนำลูกมาเลี้ยงเนื่องจากกลัวว่าจะไม่มีความผูกพัน ผู้โดยสารบางคนพบเห็นมีส่วนหนึ่งที่ขึ้นรถ และอีกส่วนที่ปฏิเสธ ซึ่งตนสามารถขับรถได้ปกติ และลูกตนเลี้ยงง่ายขณะรถเคลื่อนที่จะหลับ

ส่วนเรื่องโควิด-19 ที่หลายคนแสดงความเป็นห่วงนั้น ตนเคยใส่เฟซชิลด์ให้ลูกแต่ลูกดึงออก ซึ่งช่วงนี้ขับรถรายได้ไม่ค่อยดีต้องหาค่าเช่าเเท็กซี่ให้พ้นแต่ละวัน และตนไม่ได้เปิดรับบริจาคเพราะกลัวจะมีดราม่า แต่ก็มีผู้หวังดีมาขอถ่ายรูปแล้วเอาภาพตนไปโพสต์และทิ้งเบอร์ของตนไว้ ก็มีคนติดต่อเข้ามาจะบริจาค แต่ตนไม่ได้เดือดร้อนมากมาย แค่อยากได้ลูกค้าให้โทรเรียกใช้บริการมากกว่า

ส่วนแม่เด็กทำงานเป็นผู้ช่วยเภสัชอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งถ้าวันไหนหยุดก็จะมาเลี้ยงลูกเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook