อธิบดีกรมสารนิเทศ ยันนักการทูตไม่ใช่ VIP ต้องกักตัวเหมือนกัน เร็วๆ นี้จะมีเข้ามาอีก

อธิบดีกรมสารนิเทศ ยันนักการทูตไม่ใช่ VIP ต้องกักตัวเหมือนกัน เร็วๆ นี้จะมีเข้ามาอีก

อธิบดีกรมสารนิเทศ ยันนักการทูตไม่ใช่ VIP ต้องกักตัวเหมือนกัน เร็วๆ นี้จะมีเข้ามาอีก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีเมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.63) สถานทูตเอสโตเนีย ส่งบุคคลจากสถานทูต จำนวน 1 คน ขอเข้าพักในคอนโดมิเนียมหรูย่านสุขุมวิท แต่ไม่ได้รับการยินยอมจากฝ่ายอาคารและนิติบุคคล โดยให้เหตุผลเรื่องความปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19 หวั่นซ้ำรอยกรณีของลูกสาวอุปทูตซูดานที่ติดเชื้อวิด-19 แล้วกักตัวที่คอนโด จึงเกรงว่าจะกระทบลูกบ้าน ที่มีอยู่ถึง 604 ห้อง ซึ่งมีการเจรจานานหลายชั่วโมง ซึ่งท้ายที่สุด นักการทูตดังกล่าวได้เข้าพัก รร.แกรนด์เซ็นเตอร์พอยต์ เทอร์มินอล 21 ซึ่งเป็นโรงแรม ASQ กักตัวด้วยการเสียค่าใช้จ่ายเอง

นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า นักการทูตเอสโตเนียรายดังกล่าว เดินทางออกจากแฟรงก์เฟิร์ตถึงสุวรรณภูมิ 14.00 น. ตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยผลตรวจเป็นลบ หลังจากนั้นได้ขึ้นรถที่จัดโดยเฉพาะ มีฉากกั้นระหว่างคนขับและนักการทูต เดินทางไปยังคอนโดย่านสุขุมวิท แต่ไม่ได้รับอนุญาตจากทางนิติบุคคลของคอนโด จึงมีการประชุมและได้ข้อสรุปว่า ให้นักการทูตรายดังกล่าว เข้าพักในโรงแรม ASQ 

อธิบดีกรมสารนิเทศ ยืนยันว่า นักการทูตไม่ใช่ VIP แต่ได้รับการคุ้มครองตามสนธิสัญญาเวียนนา เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่นักการทูตก็ต้องปฏิบัติการตามระเบียบของเจ้าบ้าน หรือ ศบค.ด้วย ซึ่งหลังจากนี้น่าจะมีนักการทูตเข้ามาอีกเป็นระยะ แต่จำนวนไม่มาก ไม่ถึง 10 คน และในเร็วๆ นี้จะมีเข้ามาอีก 

หลังเกิดเหตุลูกอุปทูตซูดาน ได้มีการสื่อสารกับคณะทูตเป็นระยะ มีการเพิ่มมาตรการสนามบิน เช่น ขอให้รอจนกว่าผลจะออก แต่ยังถือเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านกฎระเบียบข้อปฎิบัติ จึงทำให้เกิดประเด็นขึ้น บ่ายวันนี้เชิญตัวแทนทุกสถานทูต มาสร้างความเข้าใจ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ฝากพี่น้องประชาชนคนไทยว่า คณะทูตมาปฏิบัติภารกิจก็ต้องกักตัว 14 วันมาตลอด ไม่ใช่ไปไหนมาไหนได้อย่างเสรี แต่กักตัวในสถานที่ที่หน่วยงานต้นสังกัดจัดให้ ซึ่งจะมีการหารือมาตรการที่เข้มข้นขึ้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook