กาฬสินธุ์พบหญิงติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีกราย เหตุดื่มน้ำแก้วเดียวกับเพื่อนที่ป่วย

กาฬสินธุ์พบหญิงติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีกราย เหตุดื่มน้ำแก้วเดียวกับเพื่อนที่ป่วย

กาฬสินธุ์พบหญิงติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีกราย เหตุดื่มน้ำแก้วเดียวกับเพื่อนที่ป่วย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์แถลงพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด -19 เพิ่ม1 ราย รับประทานอาหารและกินน้ำแก้วเดียวกันกับเพื่อนชาวจังหวัดหนองคายผู้ติดเชื้อและเดินทางกลับมาด้วยกัน  ทำให้มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมรวม 3 ราย ย้ำอย่าตื่นตระหนก พร้อมสั่งเอ็กซ์เรย์กลุ่มเดินทางกลับจากกทม.และจังหวัดปริมณฑล รวมทั้งประชากรทุกคนในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์

เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 2 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา ที่ศูนย์ต้านโรคติดต่อไว้รัสโคโรน่า 2019 หรือ โควิด-19 ศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ นายชัยธวัช เนียมศิริ ผวจ.กาฬสินธุ์ ,นพ.ประมวล ไทยงามศิลป์ ผอ.โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ และ นพ.พรพัฒน์ ภูนากลม รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ ร่วมกันแถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) จ.กาฬสินธุ์ ประจำวันที่ 2 เมษายน 2563 โดยล่าสุดพบมีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มอีก 1 ราย เป็นหญิงอายุ 25 ปี ชาว อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งติดจากเพื่อนที่เป็นผู้ป่วยซึ่งได้รับการยืนยันใน จ.หนองคาย ทำให้ยอดสะสมผู้ป่วยติดเชื้อในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์รวมเป็น 3 ราย

นายชัยธวัช เนียมศิริ ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ป่วยดังกล่าวเข้าระบบแล้ว ทั้งนี้มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังสอบสวนโรคสะสม 77 ราย ผลตรวจไม่พบเชื้อ 65 ราย รอผล 9 ราย พบเชื้อ 3 ราย  สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่เป็นเขตโรคติดต่ออันตรายมีจำนวน 51 ราย อยู่ในช่วงกักตัว 14 วันจำนวน 16 ราย สิ้นสุดแล้ว 35 ราย กลุ่มเดินทางจากประเทศระบาดต่อเนื่องจำนวน 88 ราย ติดตามตัวได้ทั้งหมด อยู่ในช่วงกักตัว 39 ราย สิ้นสุดแล้ว 49 ราย ส่วนประชาชนที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ และจังหวัดปริมณฑล ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา ล่าสุดมีจำนวน 14,131 ราย กระจายอยู่ใน 18 อำเภอ ซึ่งทุกคนจะมีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ให้คำแนะนำให้ปฏิบัติตัวตามมาตรการอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการกักตัวอยู่บ้านให้ครบ 14 วัน

นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า ในวันนี้ทางคณะกรรมการควบคุมโรค จ.กาฬสินธุ์ ยังได้ประชุมร่วมกัน เพื่อที่จะปรับแผนมาตรการให้สอดรับกับการประกาศเคอร์ฟิว รวมทั้งการกำหนดมาตรการยกระดับในการป้องกัน โดยทุกภาคส่วนจะร่วมมือกับอปท.ทุกแห่งลงพื้นที่เอ็กซ์เรย์ประชาชนที่เดินทางกลับจากกรุงเทพฯ และจังหวัดปริมณฑลทั้งหมด 14,131 ราย กำชับให้ปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัด หากไม่ให้ความร่วมมือและฝ่าฝืนจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย นอกจากนี้ยังต้องเอ็กซ์เรย์ประชาชนชาว จ.กาฬสินธุ์ทุกคน โดยจะต้องแยกคนกลุ่มเสี่ยง กลุ่มกักตัวให้ชัดเจนแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตามจากการประเมินของคณะกรรมการฯจ ากวันนี้จนไปถึงวันที่ 15 เมษายน 2563 คาดว่าในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์จะมีผู้ป่วยไม่เกิน 10 ราย ซึ่งทุกหน่วยงานจะต้องเตรียมความพร้อม ทั้งอุปกรณ์ และบุคลากรไว้ 

ด้าน นพ.พรพัฒน์ ภูนากลม รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อรายที่ 3 นั้น เป็นเพศหญิง อายุ 25 ปี จากการสอบสวนโรคพบประวัติสัมผัสโดยตรงกับเพื่อนที่ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยแล้วใน  จ.หนองคาย โดยในวันที่ 19 มีนาคม 2563 ได้เดินทางมาจากต่างจังหวัดด้วยกัน รับประทานอาหารร่วมกัน และดื่มน้ำแก้วเดียวกัน กระทั่งวันที่ 26 มีนาคม 2563  ซึ่งผู้ป่วยที่ จ.หนองคายได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อ เจ้าหน้าที่จึงได้เฝ้าระวังและกักตัวดูอาการผู้ป่วยหญิงรายนี้ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2563 และเริ่มมีอาการเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2563 ผลตรวจยืนยันล่าสุดพบว่าติดเชื้อ อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าระวังบุคคลใกล้ชิดผู้ป่วยทั้งหมดและกักตัว โดยเฉพาะคนในบ้าน 13 ราย ในชุมชนเดียวกัน 1 ราย และสถานที่ทำงาน 1 ราย  อย่างไรก็ตามประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนก เนื่องจากผู้ป่วยรายนี้อยู่ในกลุ่มเฝ้าระวังสังเกตอาการอยู่แล้ว

ขณะที่นายแพทย์ประมวล ไทยงามศิลป์ ผอ.โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยทั้ง 3 รายในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยรายแรกรักษาครบ 10 วัน ปัจจุบันมีไข้ต่ำเล็กน้อย ภาพรวมปกติดี หากครบระยะการรักษาก็สามารถกลับบ้าน แต่ต้องกักตัวเองที่บ้านอีก 30 วัน รายที่ 2 เข้ารักษาครบ 8 วัน ภาพรวมอาการปกติดี ในส่วนรายล่าสุดผลการตรวจยืนยันวันที่ 2 เมษายน 2563 สัมผัสกับเพื่อนที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัด ซึ่งอาการทั่วไปอยู่ในเกณฑ์ไม่มีไข้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook