"นานา" เล่าเหตุการณ์ระทึก กราดยิงโคราช ตอนนี้สภาพจิตใจพนักงานสำคัญที่สุด

"นานา" เล่าเหตุการณ์ระทึก กราดยิงโคราช ตอนนี้สภาพจิตใจพนักงานสำคัญที่สุด

"นานา" เล่าเหตุการณ์ระทึก กราดยิงโคราช ตอนนี้สภาพจิตใจพนักงานสำคัญที่สุด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ออกมาเปิดใจให้ฟังเป็นครั้งแรก สำหรับ นานา ไรบีนา ถึงเหตุการณ์ระทึกขวัญผู้ร้ายกราดยิงที่ห้างดังของโคราช ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ซึ่งในขณะนั้นพนักงานร้านตัดผมของเธอก็ติดอยู่ในร้าน พร้อมกับประชาชนรวมทั้งสิ้น 19 ชีวิต

โดย นานา ได้เผยถึงเหตุการณ์ในวันดังกล่าวให้ฟังว่า เธอพยายามติดต่อพูดคุยกับพนักงานตลอดเวลา และได้ยินเสียงปืนเป็นระยะๆ ซึ่งเพียงแค่เธอได้ยินผ่านโทรศัพท์น้ำตาก็ไหลแล้ว เป็นห่วงว่าทุกคนในร้านจะเป็นยังไง จึงได้ช่วยติดต่อเจ้าหน้าที่ภายนอกอีกแรงหนึ่ง ทั้งนี้เจ้าตัวยังบอกอีกว่าตอนนี้สภาพจิตใจพนักงานสำคัญที่สุด อยากให้ทุกคนได้พักกันก่อน มีอะไรก็พร้อมช่วยเหลือเสมอ

 

ร้านที่โคราชเป็นอย่างไรบ้าง ?
“เราทุกคนต้องผ่านช่วงเวลานี้ไป ข่าวสารต่างๆ มันยังสะเทือนใจมากๆ โดยเฉพาะคนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น เราก็พยายามจะช่วยน้องๆ ของเราด้วยการหาข้อมูลที่ถูกต้อง ดีที่สุด และเป็นประโยชน์ต่อการช่วยเหลือให้ได้มากที่สุด ถ้าเราทำอะไรพลาดไปก็คือชีวิตของคนที่อยู่ตรงนั้น นานาก็พยายามจะทำให้ได้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ในทั้งหมดทั้งมวลแล้วนานาว่าทุกหน่วยงานตั้งใจให้มีผู้บาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิตน้อยที่สุดอยู่แล้ว รวมถึงตัวนานาเองที่เป็นคนที่อยู่ในสถานการณ์ที่รับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็อยากจะให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี”

เราทราบข่าวได้ยังไง ?
“ช่วงประมาณ 5-6 โมงเย็น พนักงานที่ร้านโทรมาบอกว่ามีผู้ร้ายเข้ามาที่เทอมินอล 21 เราก็ถามทุกคนโอเคปลอดภัยดีไหม ตอนที่รับโทรศัพท์ครั้งแรกไม่ได้คิดว่ามันจะรุนแรงขนาดนี้ ก็บอกเขาว่าปิดร้านนะ ไม่ได้ตกใจอะไร แต่พอเวลามันผ่านไป เราก็อยู่ในสายโทรศัพท์กับเขาตลอด มันก็เริ่มเงียบขึ้นมาก ก็คิดว่าท่าทางมันจะไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แล้ว เปิดข่าวดูด้วยเลยให้เลขาอยู่สายกับน้องแทน แล้วนานาก็ไปหาข้อมูลว่าเราจะช่วยน้องเขายังไงได้บ้าง ก็ไปประสานงานกับทางห้าง เขาก็ให้ข้อมูลกับเราว่าต้องนี้เป็นอย่างนี้แล้ว ตรงไหนจุดไหนที่ต้องระวัง อะไรควรทำ ไม่ควรทำ พอเราได้ข้อมูลที่เรามั่นใจว่าเป็นข้อมูลจริง เราก็จะได้ส่งต่อแบบที่ไม่ทำให้ตื่นตระหนก ณ เวลาตรงนั้นเขาก็หายใจไม่ทั่วท้องแล้ว อะไรที่เป็นประโยชน์ อะไรที่จะไม่ทำให้เขาตกใจไปมากขึ้นเราก็จะไม่พูด ก็เป็นในลักษณะนั้นอยู่ 4-5 ชั่วโมง”

ติดตามสถานการณ์ตลอดเวลา ?
“ตามตลอดเลย ดูข่าวตลอดทั้งคืนจนกระทั้งน้องๆ พนักงานเราได้ออกมา ในร้านนอกจากพนักงานนานาแล้ว ก็ยังมีผู้คนในห้างเข้ามาหลบในนั้นอยู่ด้วยทั้งหมด 19 คน”

เห็นว่าเรามีการเยียวยาพนักงานด้วย ?
“มันเป็นสิ่งเล็กน้อยสำหรับจิตใจของเขาที่ไปเจอเรื่องราวสะเทือนขวัญขนาดนั้น ก็ดูแลเขาจนทุกอย่างมันดีขึ้น เอาที่เขาแฮปปี้ เขารู้สึกสบายใจขึ้น อยากจะกลับมาทำงาน สำคัญที่สุดไม่ใช่แค่สถานการณ์แต่จิตใจเขาดีขึ้น พร้อมที่จะกลับมาทำงานหรือจะให้ช่วยเหลือยังไงเพิ่มเติม วันนี้ไม่มีอะไรสำคัญเท่าขวัญและกำลังใจที่จะทำให้ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิมแล้ว ทุกคนเสียขวัญ นานาอยู่ในโทรศัพท์ จังหวะที่ทุกคนอยู่ในสถานการณ์ตรงนั้นเรายังรู้สึก เราเองยังตกใจมาก ลองนึกว่าเราเป็นเขาที่อยู่แค่ข้างหลังกำแพงเล็กๆ แล้วมีเสียงปืนดัง เราบอกเขาว่าใจเย็นๆ นะ แต่เราน้ำตาไหลไปด้วย เราไม่อยากให้ใครบาดเจ็บเลยไม่ใช่แค่พนักงานของเราอย่างเดียว”

“สำหรับการเยียวยาของนานาก็ไม่ได้มีอะไรมาก ให้เขาอยู่บ้านจนกว่าจะดีขึ้น เราก็ดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายในส่วนที่เขาจำเป็นที่จะต้องใช้ น้องๆ เขาก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย นอกจากขอเวลา เราเองก็ไม่ได้จะต้องรีบเปิดกิจการ คือขอให้จิตใจ ทุกสิ่งอย่างดีขึ้น ก็หวังว่ามันจะไม่มีแบบนี้เกิดขึ้นอีก เราก็จ่ายเงินเดือนเขาเหมือนเดิมทุกอย่าง วันนั้นเราก็ส่งกันจนถึงบ้าน ประมาณ 4 ทุ่มก็มีเจ้าหน้าที่ไปช่วยเขาออกมา โชคดีว่าร้านอยู่ใกล้กับลานจอดรถ เลยได้ออกกันมา ก็คุยกับน้องๆ ของเขามั่นใจว่าเขาถึงบ้านกันปลอดภัย บางคนที่เข้ามาหลบในร้านเราด้วยเขาก็เข้ามาเขียนในอินสตาแกรมเราว่าเราปลอดภัยดีแล้ว เราก็โล่งอก จนวันนี้เราก็ยังโทรไปสอบถามน้องๆของเราว่าเขาเป็นยังไงบ้าง การที่เขาจะกลับมาทำงานได้เป็นปกติแล้วไม่หวาดผวามันไม่ง่ายนะ”

จุดที่ก่อการร้ายอยู่ใกล้ร้านเราเลยไหม ?
“ร้านนานาอยู่ถัดไปอีกชั้นหนึ่ง ไม่รู้ว่าใกล้หรือเปล่าแต่นานาอยู่ในโทรศัพท์ก็ได้ยินเสียงปืน มันใกล้มากหรือว่าจริงๆ แล้วเสียงปืนมันดังมาก”

 นานา และครอบครัว คอยฟังข่าวและให้กำลังใจพนักงานอยู่เสมอ

ร้านเราเสียหายมากน้อยแค่ไหน ?
“เรายังไม่ทราบค่ะ แต่เดี๋ยวทางห้างจะเปิดให้มีการทำบุญกัน เราก็จะไป เรายังไม่ได้ดูอะไร เพราะสาระสำคัญสำหรับเราอยู่ที่จิตใจของพนักงานของเราและทุกคนมากกว่า ก็ต้องดูทุกอย่างอย่างรอบคอบที่สุดเพื่อที่จะได้มั่นใจว่าลูกค้าสามารถไปใช้บริการได้”

ผลกระทบทางธุรกิจมากน้อยแค่ไหน ?
“ไม่มากเท่ากับจิตใจหรอก วันนี้อยู่ที่จิตใจของคนมากกว่า มันโหดร้ายเกินกว่าที่เราจะคาดคิดว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ เจ้าหน้าที่ทุกคนทุกฝ่ายใช้ทั้งชีวิต ทั้งร่างกายเข้าไปช่วย โดยที่ไม่รู้เลยว่าจะรอดกลับมาหรือเปล่า มันที่สุดแล้ว ตัวคนที่หลบอยู่เขาก็ไม่คิดว่าเขาจะได้กลับบ้านหรือเปล่า พอมันผ่านไปได้มันเหมือนตายแล้วเกิดใหม่จริงๆ นะ”

เรามีแพลนจะไปโคราชเมื่อไหร่ ?
“ก็ดูๆ อยู่ ตอนนี้ให้น้องๆ เขาพร้อมก่อน ตอนนี้เขาอยากจะอยู่บ้านกับครอบครัว ทางร้านก็มีแพลนจะทำบุญใหญ่กันอยู่ อยากให้กำลังใจทุกคน ไม่อยากให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อะไรกัน ให้มองไปที่ต้นตอหรือแกนของมันจริงๆ สิ่งเร้าที่มันทำให้เกิดเรื่องราวเหล่านี้มันคืออะไร อยากจะขอบคุณทุกฝ่าย เจ้าหน้าที่ทุกคนที่ทำให้เหตุการณ์นี้จบลงได้ ขอให้ไม่มีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นอีกต่อไป”

ถามถึงดราม่าเพลงวิบวับที่สามีเราก็ร่วมร้องท่อนแร็ปด้วย ?
“มันเป็นสิ่งที่นานาเชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นเจ้าของเพลงก็ตามก็ไม่อยากจะให้มีเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว”

สามีเครียดไหม ?
“ต้องบอกว่าเรามีข่าวเรื่องที่ร้าน มันมาในช่วงใกล้ๆ กันด้วย ก็เลยยังไม่ได้มีโอกาสพูดคุยกันจริงจัง”

เรามองเนื้อหาเพลงยังไงบ้าง ?
“นานาว่าสิ่งแบบนี้ พฤติกรรมของเพลงฮิปฮอปมันค่อนข้างจะทราบกันอยู่แล้วว่าจะเป็นอารมณ์ที่มีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น คนที่จะตอบได้ดีที่สุดคือเจ้าของเพลง เวย์เองก็เป็นหนึ่งส่วนที่ร้องในเพลงนี้ ตัวนานายังไม่ได้คุยอะไรกับเขามาก คนที่จะตอบได้ดีที่สุดคือคนที่ทำเพลง”

ก่อนที่จะร้อง เวย์น่าจะได้เห็นเนื้อเพลงก่อนเรามีการท้วงติงอะไรไหม ?
“เวย์เป็นส่วนหนึ่งของเพลง ตรงนี้เราต้องให้เกียรติกับเจ้าของเพลง เท่าที่ได้ยินมาพาร์ทเวย์ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เรื่องนี้มันค่อนข้างจะเซนซีทีฟ นานามั่นใจว่าตัวป๊อกเองก็คงไม่ได้อยากจะให้มีอะไรแบบนี้หรอก นานาว่าไม่มีใครอยากจะให้อะไรแบบนี้เกิดขึ้น คำตอบที่ดีที่สุดน่าจะต้องมาจากเจ้าของเพลง นานาเชื่อว่าเขาต้องมีคำตอบและเหตุผลที่ดีให้กับทุกคนอยู่แล้ว”

มีรูปเวย์กับขันร่วมเฟรมกันแล้ว ?
“อย่างที่บอกว่ามันก็ยังมีความรักอยู่ในนั้น ถ้าสังเกตจากสัมภาษณ์ เชื่อว่าเขาเองก็คงจะพยายามทำให้ทุกอย่างมันเหมือนเดิม เหนือกว่าสิ่งอื่นใดคือแฟนเพลงของทุกคนที่ทุกคนรัก ขันเดย์เวย์เขาต้องรักแฟนเพลงทุกคนอยู่แล้ว วันนี้ทุกคนพยายามจะทำให้ดีที่สุดเพื่อแฟนเพลงทุกคน แต่นานาก็ตอบไม่ได้ว่าเขาจะกลับมาเหมือนเดิมกันแล้ว แต่ถ้าถามว่ามีสัญญาณที่ดีไหมก็เป็นในเชิงบวกอยู่ สำคัญที่สุดคือเวลาที่จะทำให้มีคำตอบที่ดีขึ้น จิตใจ ความรู้สึก เวลาช่วยได้หมดเลย วันนี้มันไม่ได้แย่ลง มันมีแต่สิ่งที่ดีๆ ทุกอย่างก็ค่อยๆ ดีขึ้น เราก็ให้เวลากันดีกว่า เราเป็นภรรยาก็จริงแต่เราก็เป็นแฟนเพลงไทเทเนียม เราติดตามเขามาตลอด ก็ยังอยากจะเห็นพวกเขาอยู่ด้วยกัน นานาเชื่อว่าเวย์เองก็มีความรู้สึกคิดถึงแฟนเพลงไทเทเนียมอยู่เหมือนกันอยู่แล้วด้วย”

เขาได้เจอกันบ่อยไหม ?
“ก็ไม่ได้บ่อยมาก ที่ได้มีโอกาสพูดคุยกันว่าเราจะทำยังไงกันต่อดี”

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ ของ "นานา" เล่าเหตุการณ์ระทึก กราดยิงโคราช ตอนนี้สภาพจิตใจพนักงานสำคัญที่สุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook