ดีเอสไอบินดู 6 จุดทั่วแก่งกระจาน สางปมฆาตกรรม "บิลลี่"

ดีเอสไอบินดู 6 จุดทั่วแก่งกระจาน สางปมฆาตกรรม "บิลลี่"

ดีเอสไอบินดู 6 จุดทั่วแก่งกระจาน สางปมฆาตกรรม "บิลลี่"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อธิบดีดีเอสไอขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจพื้นที่ 6 จุดรอบ อช.แก่งกระจาน สะสางคดีฆาตกรรม "บิลลี่" จ่อสอบชุดจับกุมยันคดีจบใน 3 ธันวาคมนี้

พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) พร้อมด้วย พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดี DSI ลงพื้นที่มาเก็บหลักฐานเพิ่มเติมในคดีการฆาตกรรม นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนชาวกะเหรี่ยง โดยการใช้เฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินสำรวจทางอากาศบริเวณพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จำนวน 6 จุด

พ.ต.อ.ไพสิฐ เปิดเผยว่า การขึ้นบินสำรวจวันนี้ เนื่องจากได้รับสำนวนจากเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ปปท. แล้วเห็นว่าในคำให้การยังมีหลายประเด็นที่ขัดแย้งกันกับผู้ให้ถ้อยคำ

ทั้งนี้ การบินสำรวจ จะเริ่มจากบริเวณ ด่านเขามะเร็ว ไล่ไปจนถึง แยกหนองมะค่า, จุดสะพานแขวน, ไร่ชัยราชพฤกษ์, ห้วยคมกฤติ ก่อนจะไปจบที่บริเวณใจกลางแผ่นดิน ซึ่งเป็นพื้นที่กะเหรี่ยงเดิม ก่อนถูกเผาไป

สำหรับข้อมูลที่ได้มาในวันนี้ เจ้าหน้าที่จะนำไปประกอบสำนวนคดี และประกอบคำให้การบุคคล รวมถึงหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งได้ทำความเชื่อมโยงไว้แล้ว แต่จะต้องดูความสัมพันธ์ของข้อเท็จจริง

ขณะที่ พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การบินสำรวจวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบจุดที่มีการจับกุมตัวนายบิลลี่ เส้นทางการปล่อยตัวนายบิลลี่และรายละเอียดเส้นทางต่าง ๆ สำหรับนำไปประกอบคำให้การ เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจน และเพื่อนำมาวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจะสามารถคำนวณช่วงเวลา ระยะทาง และนำมาเปรียบเทียบกับภาพกล้องวงจรปิดได้ซึ่งเส้นทางที่สำรวจนี้น่าจะนำไปสู่การกระทำความผิด จนนำไปสู่การพบกระดูกของบิลลี่ และนำไปเชื่อมโยงกับคำให้การด้วย

ส่วนบริเวณห้วยคมกฤติ นั้น ที่จะต้องบินสำรวจ เนื่องจากเป็นห้วยลึก ซึ่งยังเป็นประเด็นข้อสงสัย อยู่ว่า อาจจะนำไปสู่การหารถจักรยานยนต์ของบิลลี่ยังหายไปได้หรือไม่

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของความคืบหน้าทางคดี ล่าสุด เจ้าหน้าที่ยังจะต้องสอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีก 20 ปาก โดยจำนวนนี้จะรวมการสอบปากคำกลุ่มเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตัวบิลลี่ด้วย เบื้องต้น มั่นใจว่าจะสามารถรวบรวมพยานหลักฐานได้อย่างรัดกุม รวมถึงจะสามารถทำคดีให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 3 ธันวาคม 62 ซึ่งเป็นกรอบระยะเวลาการทำงานอย่างแน่นอน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook