ไม่ยอมให้ผัวติดคุก! เมียรับขายก๋วยเตี๋ยวบังหน้า หลังร้านพักยาบ้า 1 ล้านเม็ด-ยาไอซ์ 10 กิโลกรัม 
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/ns/0/ud/1574/7871170/wife.jpgไม่ยอมให้ผัวติดคุก! เมียรับขายก๋วยเตี๋ยวบังหน้า หลังร้านพักยาบ้า 1 ล้านเม็ด-ยาไอซ์ 10 กิโลกรัม 

    ไม่ยอมให้ผัวติดคุก! เมียรับขายก๋วยเตี๋ยวบังหน้า หลังร้านพักยาบ้า 1 ล้านเม็ด-ยาไอซ์ 10 กิโลกรัม 

    2019-08-20T17:38:38+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    รวบสองผัวเมียเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวบังหน้า หลังร้านใช้เป็นจุดพักยาเสพติด พบยาบ้า 1 ล้านเม็ด และไอซ์ 10 กิโลกรัม อ้างรับจ้าง 1 แสนบาทจากชาวไทใหญ่ และเพิ่งทำเป็นครั้งที่ 2 หาเงินใช้หนี้

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (20 ส.ค.) ชุดสืบสวนภาค 5 นำกำลังบุกเข้าตรวจค้นที่ร้านขายก๋วยเตี๋ยวแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่ถนนคลองชลประทาน ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่  พร้อมควบคุมตัวนางสาวกาวี อายุ 48 ปี  และ นายสุพาชัย อายุ 49 ปี  สองสามีภรรยาเจ้าของร้าน

    ขณะที่การตรวจค้นภายในร้าน พบกระสอบที่ถูกคลุมปิดด้วยสแลนสีดำอยู่ภายในร้านและด้านหลังร้าน เมื่อตรวจสอบภายในกระสอบพบเป็นยาบ้าจำนวน 5 กระสอบ รวมประมาณ 1 ล้านเม็ด และยาไอซ์ 10 กิโลกรัม   จึงยึดของยาเสพติดของกลางทั้งหมด รวมทั้งรถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้าสีดำ และรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อซูซูกิสวิฟ สีขาว ไว้เป็นหลักฐาน ก่อนควบคุมตัวสองสามีภรรยามาสอบสวนเพื่อขยายผล

    การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่สืบทราบว่านางสาวกาวี ซึ่งมีอาชีพเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวกับสามี บังหน้าแต่มีพฤติกรรมในการลอบขนส่งยาเสพติดจากชายแดน และนำมาพักไว้ที่ร้านก๋วยเตี๋ยว เพื่อรอให้เครือข่ายมารับและส่งต่อไปจำหน่ายยังพื้นที่ชั้นในของประเทศ โดยกลุ่มผู้บงการเป็นกลุ่มไทยใหญ่ เจ้าหน้าที่จึงติดตามพฤติกรรมมานาน

    กระทั่งสืบทราบว่า นางสาวกาวี และสามีจะขนยาเสพติดมาพักไว้ที่ร้านก๋วยเตี๋ยว โดยช่วงเช้ามืดวันนี้สายรายงานว่านางสาวกาวีได้ขับรถกระบะออกมาจากบ้านที่ อ.สันทราย มุ่งหน้าไปทางสี่แยกแม่มาลัย อ.แม่แตง และจอดแวะริมทางซึ่งเป็นเส้นทางเปลี่ยว

    ก่อนจะมีกลุ่มชายฉกรรจ์ขนกระสอบใส่ไว้ท้ายกระบะและที่นั่งแคปด้านหลังรถ จากนั้นนางสาวกาวีได้ขับรถกระบะกลับเข้ามาที่ร้านก๋วยเตี๋ยว ก่อนจะช่วยกันกับสามีขนกระสอบลงมาซุกซ่อนไว้ภายในร้าน จากนั้นก็เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวตามปกติ

    จากการสอบปากคำ นางสาวกาวี ให้การว่า เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวกับสามีมานานกว่า 3 ปี แต่เงินไม่พอใช้เพราะต้องส่งเสียลูกเรียนหนังสือ จึงไปกู้เงินนอกระบบมาใช้จ่ายหมุนเวียนในครอบครัว ต่อมาได้รู้จักกับลูกค้ารายหนึ่งที่มาทานก๋วยเตี๋ยวที่ร้านประจำ ชื่อ นายจอก้า ชาวไทยใหญ่ และเป็นนายหน้านำแรงงานต่างด้าวมาจดทะเบียน

    โดยนายจอก้าได้ชักชวนให้ตนเองขนยาเสพติด ครั้งแรกให้ไปรับยาเสพติดจากพื้นที่ อ.แม่ริม มาส่งให้ลูกค้าที่ตลาดค้าส่งกลางเมืองเชียงใหม่ ได้รับค่าจ้าง 2 หมื่นบาท แต่เงินก็ไม่พอใช้ เพราะต้องส่งดอกเบี้ยเงินกู้นอกระบบร้อยละ 20 ถึงวันละ 500 บาท จึงตัดสินใจรับจ้างขนยาเสพติดอีกครั้ง กระทั่งถูกตำรวจจับกุมตัวได้

    เบื้องต้น นางสาวกาวี รับสารภาพว่า รับจ้างขนยาเสพติดเพียงคนเดียว สามีไม่มีส่วนรู้เห็นแต่อย่างใด และอยากให้สามีกลับไปดูแลลูกที่กำลังเรียนหนังสืออยู่ชั้น ม.6

    ขณะที่​ พล.ต.ต.สุรพล เปรมบุตร ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 แถลงข่าวผลการจับกุม โดยระบุ ผู้ต้องหารับสามรภาพว่า เป็นผู้รับจ้างขนเท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อและเตรียมขยายผลถึงเครือข่ายที่ร่วมขบวนการ

    หลังสอบปากคำเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหากับสองสามีภรรยา ในข้อหา"ร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า,ยาไอซ์) ไว้ในครอบครอบเพื่อจำหน่าย"ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก ดำเนินคดีตามกฎหมาย