ไอติม พริษฐ์ ประกาศลาออกจากประชาธิปัตย์ รักษาจุดยืนตัวเอง "ไม่เอาลุงตู่"

ไอติม พริษฐ์ ประกาศลาออกจากประชาธิปัตย์ รักษาจุดยืนตัวเอง "ไม่เอาลุงตู่"

ไอติม พริษฐ์ ประกาศลาออกจากประชาธิปัตย์ รักษาจุดยืนตัวเอง "ไม่เอาลุงตู่"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ท่ามกลางกระแสข่าวสะพัดว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อาจประกาศลาออกกลางที่ประชุมรัฐสภาในวันนี้ หลังจากเคยแสดงท่าทีอย่างชัดเจนในช่วงหาเสียงเลือกตั้งว่าไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ แต่มติพรรคออกมาตรงข้ามกับจุดยืนของตนเอง 

>> มติประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลพลังประชารัฐ แม้ "อภิสิทธิ์" เสนอเป็นฝ่ายค้านอิสระ

>> ลือหึ่ง! อภิสิทธิ์เตรียมประกาศลาออกกลางสภาวันนี้ หลังมติประชาธิปัตย์สนับสนุนลุงตู่

ล่าสุด (5 มิ.ย. 62) นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ “ไอติม” อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แกนนำกลุ่มนิวเด็ม และเป็นหลานชายที่มีอุดมการณ์ไปในทิศทางเดียวกับนายอภิสิทธิ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "พริษฐ์ วัชรสินธุ - ไอติม - Parit Wacharasindhu" ระบุว่า ขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่ได้พูดไว้กับประชาชนตลอดชีวิตทางการเมืองที่ผ่านมา ที่ไม่สนับสนุนให้พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐ เพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็น นายกรัฐมนตรี

"ผมไม่มีคำอื่นที่จะบอกพวกท่านได้นอกจากคำว่า “ขอโทษ”

ผม “ขอโทษ” ที่สิ่งที่ท่านได้ ไม่ใช่สิ่งที่ท่านเลือก"

นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า ในฐานะนักประชาธิปไตย ตนไม่สามารถเห็นด้วยได้กับการสนับสนุนผู้นำหรือพรรคการเมืองที่ได้รับอานิสงส์โดยบังเอิญ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องโดยเจตนา กับ กติกาและพฤติกรรมที่สังคมมองว่าไม่เป็นกลาง ไม่ว่าจะเป็น การจัดประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญที่ไม่เปิดให้มีการหาเสียงทั้งสองด้านได้อย่างเสรี, การเขียนกติกาที่ไม่ป้องกันให้กรรมการผันตัวมาเป็นผู้เล่น, การไม่ปฏิเสธว่าพร้อมจะใช้อำนาจของวุฒิสภาที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งมาขัดความต้องการของประชาชน, การแต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภาที่ไม่โปร่งใสและดูเหมือนจะเอื้อเฟื้อพวกพ้อง หรือ การตีความสูตรคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อหลังเลือกตั้งเสร็จที่พลิกผลให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้เปรียบ

แต่ในวันที่อุดมการณ์ของตนและอุดมการณ์ของพรรคแตกต่างกัน ตน เคารพการตัดสินใจของพรรค ด้วยการยุติทุกบทบาททางการเมืองในนามพรรค และลาออกจากสมาชิกพรรค ซึ่งการตัดสินใจออกจากพรรค เป็นการตัดสินใจที่ยากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต ตนเดินออกจากพรรค ไม่ใช่เพราะคิดว่าความคิดใครถูกหรือผิด แต่เป็นเพราะเราคิดต่างกันว่าอะไรเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศชาติและประชาชน

อนาคตตนจะเป็นอย่างไร ไม่ใช่เรื่องสำคัญในวันนี้ แต่ผมยังขอยืนยันว่าความมุ่งมั่นที่อยากจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงประเทศไปในทิศทางที่ดีขึ้นและซื่อตรงต่อความต้องการของประชาชน เป็นความตั้งใจที่จะไม่มีวันจางหาย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook