"เก้า จิรายุ" ยื่นผ่อนผันทหารปีสุดท้าย ลั่นปีหน้าขอทำหน้าที่ลูกผู้ชาย
วันนี้ 9 เมษายน 2562 นักแสดงหนุ่ม เก้า จิรายุ เดินทางมารายการตัวเพื่อยื่นผ่อนผันการคัดเลือกทหารกองเกินเป็นครั้งที่ 4 ที่วัดอยู่ดีบำรุงธรรม (ออเงิน) เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร เนื่องจากยังติดในเรื่องการเรียนปริญญาโทและยังมีละครที่ยังถ่ายไม่เสร็จ ทั้งนี้ เก้า ยังให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชนว่า
"ครั้งนี้ก็มาผ่อนผันเป็นครั้งที่ 4 ครับ เพราะผมยังไม่เรียบร้อยทั้งเรื่องเรียนและเรื่องานด้วยครับ ตอนนี้เรียนอยู่ที่ศรีปทุม คณะนิเทศศาสตร์ ปริญญาโทครับเหลือแค่ธีซิสครับ งานตอนนี้ก็มีละครที่ยังถ่ายไม่เสร็จมาตั้งแต่ปีที่แล้ว"
แล้วปีหน้าจะยังไงต่อ
"ปีหน้าคิดว่าน่าจะเรียนจบเรียบร้อยนะครับ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร คิดว่าน่าจะทำได้ตามกฎหมายปกติเลยครับ"
คิดว่าจะจับใบดำใบแดงหรือจะสมัครเลย
"ก็อาจจะสมัครนะครับ คิดไว้ เพราะคุยกับแม่ไว้หลายรอบแล้ว และคิดว่ามันแค่ 6 เดือนเอง ก็น่าจะดีสำหรับการหาประสบการณ์ใหม่ๆ ในชีวิต"
แสดงว่าจริงๆ เราก็อยากลองสมัคร
"ผมก็อยากรู้นะว่าเป็นยังไง เพราะว่าเพื่อนผมเขาก็ได้เรียน รด.กันหมด เหมือนเราไม่มีประสบการณ์ตรงนั้น ก็มีความอยากลองเหมือนกัน"
เพื่อนเล่าให้ฟังว่ายังไงบ้าง
"เพื่อนๆ ไม่มีใครอยากให้เป็นเลย (ยิ้ม) ส่วนใหญ่จะบอกว่าอย่าเลย เหนื่อย (ยิ้ม)"
การทำหน้าที่ผู้ชายไทยเรามองตรงนี้ยังไง
"ผมคิดว่ามันก็เป็นเรื่องตามกฎหมายนะครับ ไม่ว่าใครก็ตามเราก็ต้องผ่านจุดนี้ ไม่ว่าจะเลือกจับฉลากหรือว่าจะสมัครหรือเรียน รด.ก็ตาม มันก็เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องทำ ก็เป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายไปแล้ว ก็แค่ทำมันแค่นั้นเอง"
การที่คนมองว่าดารามีอภิสิทธิ์ในการมาเข้าทหารหรือผ่อนผันแบบนี้ เราคิดว่ายังไง
"ถ้ามีวันนี้ผมก็ไม่มาที่นี่แล้วล่ะครับ ผมก็นอนอยู่บ้านแล้ว (หัวเราะ) ไม่มีหรอกครับ ต้องทำตามปกตินะครับ"
การที่มีคนบอกว่าการเป็นทหารมันน่ากลัว เราแอบกลัวไหม
"ก็แอบกลัวๆ นะครับ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเข้าไปแล้วเป็นยังไง ฝึกหนักแค่ไหน หรือว่าต้องทำอะไรบ้าง แต่ผมก็ยังมีความเชื่อว่ามันถูกคิดขึ้นมาเพื่อให้เราไปฝึก ก็คงไม่ถึงกับทำรุนแรงจนเกินไปที่เรารับไม่ไหว ก็คงเป็นการฝึกที่ถูกคิดมาแล้วแหละ ไม่งั้นเขาคงไม่สามารถจัดทำอะไรแบนี้ขึ้นมาได้ถูกมั้ยครับ ผมก็คิดง่ายๆ แค่นี่แหละครับ ไม่รู้เหมือนกัน แต่ก็รู้สึกว่าในเมื่อหลายๆ คนเข้าไปแล้วทำได้ ออกมาได้ เราก็น่าจะทำได้นะ"
เรื่องบ้านที่โดนขโมยขึ้นมีความคืบหน้าไหม
"ก็มีการดำเนินการทางกฎหมาย ผมก็แจ้งความไปแล้วเรียบร้อย ก็มาดูกันว่าจะจับได้มั้ย ก็เหมือนมีบ้านนึงมีกล้องจรปิดนะครับ เขาได้ภาพ ผมก็ได้เห็นคร่าวๆ แต่ภาพจากในกล้องวจรปิดเหมือนเขาใส่หมวกคลุมหน้าไว้ ก็ไม่รู้ว่าจะได้อะไรจากตรงนั้นหรือเปล่า แต่ก็ได้พวกรูปพรรณสันฐาน ได้พวกชุดเสื้อผ้า แต่ก็ต้องไปติดตามกับทางตำรวจอีกทีว่าเขาทำยังไงกันบ้างครับ"
บ้านเราได้รับความเสียหายเยอะไหม
"บ้านผมไม่ได้ขนาดนั้นเลยครับ ของผมถือว่าน้อยถ้าเทียบกับบ้านอื่น บ้านอื่นก็มีของหายนิดหน่อย มีิเงินหาย แต่มันก็เป็นเรื่องของความปลอดภัยของคนในหมู่บ้านคนในระแวกนี้แหละ เราก็อยากให้จับได้ และจะรักษาความปลอดภัยมากขึ้น ก็จะได้สบายใจ ก็โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไร แต่ถ้ามันไม่ได้โชคดีแบบนี้เรก็คิดเหมือนกัน"
ตั้งแต่เกิดเรื่องบ้านเราติดกล้องวงจรปิดเลยไหม
"มีครับ ตอนนี้ใครโผล่มามีเลเซอร์ตัดหัวขาดเลยนะครับ (ยิ้ม) ระวังนะครับใครที่จ้องๆ บ้านผมอยู่อย่ามานะครับ อันตราย แต่ตอนแรกยอมรับว่าไม่ได้ติดเลย เพราะก็ไม่เคยคิดว่าใครจะมาขึ้นบ้านผม มันเป็นสิ่งที่เราไม่คิดหรอกครับ จนมันเกิดจริงๆ ก็หลอนๆ เหมือนกัน ผมงงตอนตื่นเช้ามาคือในชีวิตไม่เคยมีใครมาเดินในบ้านผม คือถ้ามาเดินเจอตอนกลางคืน เจอแม่ล่ะ ถ้าเจอผมก็พอสู้ได้แหละ เพราะผมก็พอจะฝึกมาบ้าง (ยิ้ม) แต่ก็เป็นห่วงแม่ ถ้าเจอผมนี่ไม่รอดหรอก ผมนะ (หัวเราะ)"
หมู่บ้านเขาเข้มงวดมากขึ้นไหม
"ก็คงจะต้องเป็นอย่างนั้น แต่ผมก็ไม่ได้ไปถามนะ แต่คิดว่ายามน่าจะโดนไล่ออกแล้วล่ะ โดน 5 หลังขนาดนั้น หยอกๆ นะครับ (หัวเราะ)"
ตัวแม่เวลาอยู่บ้านยังระแวงไหม
"จริงๆ แล้วของพวกนี้เกิดขึ้นแล้วมันไม่เกิดขึ้นอีกหรอก ใครมันจะไปโดนหลายๆ รอบติดๆ กัน ไม่มีหรอก ปรากฏพรุ่งนี้มาเลย ของหายหมดบ้านเลยครับ (หัวเราะ)"
แต่ตอนนี้ก็ยังจับคนร้ายไม่ได้ กลัวเขาจะวนกลับมาไหม
"ไม่ทราบเหมือนกันครับ แต่เราก็ทำได้แค่ในส่วนของตัวเราแหละครับ เราก็ทำให้บ้านมันปลอดภัยมากขึ้น ติดระบบสัญญาณกันขโมย ติดให้มันอุ่นใจเรา เพราะปัจจัยภายนอกเราก็ไม่รู้จริงๆ ว่าเขาจะจับได้มั้ย ใครจะมาอะไรอีก ก็ทำได้แค่ในส่วนของเราไปก่อนครับ"
อัลบั้มภาพ 8 ภาพ