นักธุรกิจไลฟ์ปีนเสาโวยเงิน 8 ล้านโดนถอนไม่ถามสักคำ 11 ปีแล้วยังไม่คืบ

นักธุรกิจไลฟ์ปีนเสาโวยเงิน 8 ล้านโดนถอนไม่ถามสักคำ 11 ปีแล้วยังไม่คืบ

นักธุรกิจไลฟ์ปีนเสาโวยเงิน 8 ล้านโดนถอนไม่ถามสักคำ 11 ปีแล้วยังไม่คืบ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มนักธุรกิจชาวปากน้ำโพ ขึ้นปีนเสาโทรศัพท์ย่านงามวงศ์วาน พร้อมไลฟ์เฟซบุ๊กไปด้วย ขึงป้ายโวยธนาคารชื่อดัง หลังโดนปลอมลายเซ็นถอนเงินกว่า 8 ล้าน เมื่อ 11 ปีก่อน

(21 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. ที่่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุพบชายปีนขึ้นไปอยู่บนยอดเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ บริเวณริมทางด่วนประชาชื่น ใกล้กับกระทรวงสาธารณสุข พร้อมกับขึงป้ายเอาไว้ว่า "8.3 ล้าน หายเกลี้ยง ธนาคาร+โจร = ???"

ขณะที่ในเวลาต่อมา ทราบว่าชายคนดังกล่าวคือ นายเอกวิชช์ อายุ 39 ปี นักธุรกิจหนุ่มชาวนครสวรรค์ โดยได้ปีนขึ้นไปบนเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ พร้อมกับอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัย โดยได้ทำการถ่ายทอดสดผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวอยู่ตลอดเวลา

นายเอกวิชช์ ได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นผ่านทางไลฟ์ บอกถึงความต้องการให้ธนาคารออกมาชี้แจงและคืนเงินก้อนที่หายไป เพราะที่ผ่านมาคดียังคงค้างคาอยู่ ทางธนาคารก็ไม่ได้ให้คำตอบที่น่าพอใจ และตนเองก็ได้รับความเดือดร้อนมากว่า 10 ปีแล้ว

กระทั่งในเวลาประมาณ 11.30 น. นายเอกวิชช์ จึงได้ตัดสินใจปีนเสาลงมาแต่โดยดี พร้อมกับบอกผ่านวิดีโอถ่ายทอดสดว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์มาขอให้ลงไป ตนจึงตัดสินใจจะลงไปแล้ว พร้อมกับขอโทษทุกคนที่ทำให้เดือดร้อนในการกระทำของตนในครั้งนี้

ภายหลังลงมาจากเสาแล้ว นายเอกวิชช์ กล่าวว่า ตนมาปีนเสาตั้งแต่ 6 โมงเช้า โดยเดินทางมาจากบ้านที่จังหวัดนครสวรรค์ ก็ไม่คิดจะโดดลงมา เพียงแต่จะขอความเป็นธรรม ส่วนสาเหตุที่เลือกที่นี่เพราะอยู่ใกล้สะพานด่วนงามวงศ์วาน อยากให้รถที่ขับผ่านไปมาได้เห็นถึงความเดือดร้อนของตน และต้องขอโทษผู้สื่อข่าวด้วยที่ทำให้เสียเวลา

ตอนนี้ตนเองได้รับความเดือดร้อนอย่างมากเนื่องจากเงินหายไปจากบัญชี 8 ล้านกว่าบาทโดยเรื่องเกิดมา 11 ปีแล้ว แต่ธนาคารไม่รับผิดชอบ แล้วก็ไม่มีการชี้แจงใดๆ ซ้ำยังแจ้งข้อมูลเท็จอีก แจ้งให้ทางธนาคารดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ แต่ทางธนาคารไม่ดำเนินคดีอะไรได้ แต่บอกว่าให้รอคำสั่งศาล มันเป็นหน้าที่ของธนาคารที่ต้องคืนเงินให้

พนักงานของคุณทำผิด ผมตรวจลายเซ็นแล้วปลอม เจ้าของบัญชีคือผมไม่ได้ไปเบิกเงินเอง แต่เงินหายไป อยากให้ทางธนาคารออกมาตอบแต่ถ้าตอบไม่ได้ก็คืนเงินตนมาวันนี้ อยากจะเบิกเงินของตัวเองแต่ต้องมาทำถึงขนาดนี้ พนักงานคุณผิดคุณดำเนินการยังไงบ้างช่วยตอบหน่อย

บ้านตนก็จะโดนยึดอยู่แล้ว ต้องเอาบ้านไปเข้าแบงค์เพื่อจะมาสู้คดีเบิกเงินของตัวเอง ตนเองไปร้องเรียนมาหลายที่แล้ว อย่างที่ศูนย์คุ้มครองทางการเงินธนาคารแห่งชาติ พอไปร้อง สคบ. ก็โยนเรื่องมาให้ ที่แบงค์ชาติอีกระบบตรวจสอบภายในคุณไม่มีผมเดือดร้อน ขนาดลายเซ็นจริง ไปเบิกต่างสาขามอบฉันทะยังเบิกไม่ได้เลย

ส่วนลายเซ็นที่เบิกตรวจสอบ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิสูจน์หลักฐานกลาง ผลตรวจลายเซ็นมาว่าปลอม เงินจำนวนมากที่เบิกออกไปไม่เคยโทรมาแจ้ง ตนมาทราบภายหลังว่าเงินที่เบิกออกไปไปเข้าบัญชีของคนที่ปลอมลายเซ็นเบิกเงินไป ไปชำระหนี้ของธนาคาร สาขาที่ยินยอมให้เบิกที่เขายินยอม เพราะเงินอยู่ในธนาคารไม่ได้เบิกไปไว้ที่ไหน

ถ้าคุณรู้ว่าเขากระทำความผิด คุณก็คืนเงินผมมา อันนี้มันเหมือนคุณร่วมกระทำความผิด วันนี้ไม่ได้เงินคืนก็ไม่เป็นไร คุณช่วยออกมาตอบหน่อยลูกค้าธนาคารกรุงไทยเยอะแยะว่าคุณดำเนินการอย่างไรบ้างเกี่ยวกับเรื่องนี้จะให้รอศาลสั่งก็ได้ เงินตนหายไป พนักงานคุณโกง แต่คุณให้รอศาลสั่ง คุณเป็นองค์กรของรัฐแต่สิ่งที่คุณทำต่อประชาชนแบบนี้ไม่ได้ มันโปร่งใสตรงไหนช่วยบอกหน่อย เอกสารที่เขาใช้มีแค่ใบสำเนาบัตรประชาชนของตน ซึ่งเป็นลายเซ็นปลอม และก็ไม่ได้มีลายมือสำเนาถูกต้องของตนเลย

สำหรับกรณีดังกล่าวสืบเนื่องจาก นายเอกวิชช์ เคยออกมาร้องเรียนว่าถูกปลอมแปลงลายเซ็น เพื่อมอบฉันทะในการถอนเงินจากธนาคารแห่งหนึ่ง ทำให้สูญเสียเงินไปเป็นจำนวน 8,377,371 บาท เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2551 โดยที่ธนาคารไม่แจ้งหรือสอบถามเจ้าของบัญชีก่อน ประเด็นยังเป็นร้องเรียนอย่างต่อเนื่องในตลอดระยะเวลา 11 ปีที่ผ่านมา

news25-1

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook