“หนิง ปณิตา” ชี้แจง โพสต์เดือด ฉะเพื่อนโกหก ไม่เสียมือตบแค่กำจัดก็พอ

ในที่สุดก็ออกมาเคลียร์สักที สำหรับคุณแม่ซุปตาร์ หนิง-ปณิตา ธรรมวัฒนะ หลังจากที่ปล่อยให้บรรดาสายเผือกปูเสื่อรอฟังบทสรุป กรณีโพสต์ข้อความดราม่าถึงบุคคลปริศนาลงอินสตาแกรมในทำนองว่า เพื่อนที่โกหกนี่มัน... พร้อมติดแอชแท็ก #ความลับไม่มีในโลก

ซึ่งงานนี้นอกจาก หนิง ปณิตา จะออกมาชี้แจงว่าบุคคลที่เธอเขียนถึงไม่ใช่คนในวงการ เป็นเพียงเพื่อนนอกวงการ และไม่ใช่ ไฮโซกรรณ ชลัช นายแบบหนุ่มที่เคยเดินทางไปเที่ยวมัลดีฟส์ด้วยกัน ทั้งนี้สาวหนิงก็ยังยืนยันอีกว่าความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ในวงการทุกคนยังเหมือนเดิม ไม่ได้มีปัญหาอย่างที่หลายคนเข้าใจ

ถามถึงเรื่องที่เราโพสต์เกี่ยวกับเรื่องเพื่อนโกหก ?
“หลายวีคแล้ว จริงๆ ไม่ใช่คนในวงการค่ะ ในแก๊งเพื่อนในวงการเรายังรักกันเหมือนเดิม เป็นเพื่อนนอกวงการที่คบกันตั้งแต่เด็กๆ เป็นเรื่องที่เราเสียใจเท่านั้นเอง”

หลายคนคิดว่าเป็นน้องกรรณ ?
“โอ้ย อย่าลากไปเกี่ยวกับเขาเลย อันนั้นหนิงไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว อย่าไปยุ่งกับเขาเลย ให้เขาอยู่ของเขาดีกว่า ซึ่งไม่เกี่ยวกับหนิงเลย จริงๆ หนิงไม่ได้สนิทกับเขาอยู่แล้วตั้งแรก น้องเขาสนิทกับคุณชาย ไม่ได้เกี่ยวกับเขาเลย และที่หนิงโพสต์ไม่ใช่เพื่อนในวงการบันเทิงด้วย เพราะถ้าสังเกตดีๆ เพื่อนในวงการเราก็อยู่ครบทุกคน เป็นเพื่อนนอกวงการที่เรารู้สึกว่าเราคบกันมาตั้งแต่เด็ก มันไม่ควรมีเรื่องแบบนี้ คำว่าเพื่อนมันต้องไม่มีคำว่าโกหกค่ะ คำว่าเพื่อนต้องมีแต่ความจริงให้กัน และเป็นจังหวะที่เรารู้สึกว่าเราเสียใจ หนิงไม่ได้แฮชแท็กถึงใคร หรือ ในอีกนัยหนึ่งก็เหมือนเป็นโพสต์ดีๆ ข้อความดี ๆ เพราะจริงๆ ช่วงหลังเวลาหนิงมีข้อความดีๆ หรือข้อความธรรมะ หนิงก็จะโพสต์เป็นคติเตือนใจไว้อยู่แล้ว”

มีคนเข้ามาถามเยอะไหม ?
“เยอะมาก คนก็ห่วงว่าหนิงเป็นอะไรหรือเปล่า เพราะปกติหนิงจะไม่ค่อยเฟลเรื่องเพื่อนเท่าไหร่ ก็ถามกันเยอะมาก ทั้งเพื่อนในวงการที่เข้ามาถาม ซึ่งถึงบอกไปก็ไม่รู้จักว่าใคร เพื่อนในวงการก็ไม่รู้จัก”

แต่เพื่อนในวงการโดนถามหมดเลย เพราะพี่เป้ยเข้าไปคอมเมนต์ว่า ตบด้วย ?
“จริงเหรอ (หัวเราะ) จริงๆ วันที่เป้ยคอมเมนต์ เป้ยก็ยังไม่รู้ว่าใคร กระแตก็ไม่รู้ว่าใคร และไม่ได้คิดว่าจะเป็นประเด็น พอเป็นประเด็น ทุกคนก็โทรมาถามว่าสรุปเป็นใคร และหนิงไม่ได้เล่าให้ใครฟังว่าเป็นใคร เพราะหนิงรู้สึกว่าถึงแม้เขาจะเป็นเพื่อนหนิง ก็ไม่จำเป็นว่าทุกคนต้องไปรู้เรื่องของเขา หรือต่อให้เป็นเรื่องของเพื่อนที่สนิท อย่างสมมติว่าวันนี้คุณกระแตมาปรึกษาอะไรหนิง ซึ่งหนิงสนิทกับคุณเป้ย หนิงก็จะไม่ได้เอาเรื่องคุณกระแตไปเล่าให้คุณเป้ยฟัง นอกซะจากเขาไปคุยกันเองก่อน”

หลังจากโพสต์เพื่อนๆ ตกใจมากไหม ?
“ทุกคนตกใจมาก ทุกคนห่วงความรู้สึกเราว่า เห้ย! ใครทำอะไรเพื่อนกู อะไรแบบนี้ (หัวเราะ) เพราะปกติเพื่อนๆ จะรู้อยู่แล้วว่าหนิงไม่ค่อยมีปัญหากับใครอยู่แล้ว”

IG: ningpanitaข้อความเดือดที่ หนิง ปณิตา ขึ้นในอินสตาแกรม

แสดงว่าเรื่องนี้กระทบจิตใจเรามาก?
“โห คนคบกันตั้งแต่เด็กๆ แต่พอมันมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เรารู้ว่ามันเป็นการโกหก เราก็รู้สึกจุกเหมือนกันนะ แต่จริงๆ หนิงไม่ได้ต้องการโพสต์เพื่อไปพาดพิงอะไร แต่เหมือนพอเวลาเราเกิดเหตุการณ์อะไรแล้วเราได้อ่านแคปชั่นดีๆ ถ้าหนิงจำไม่ผิดหนิงจะแคปชั่นว่า คนเราเวลามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาเราไม่จำเป็นต้องโกรธหรือต้องไปเกลียดใครแค่มองในอีกมุมหนึ่ง ถ้าทุกวันนี้ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้เราก็จะไม่เห็นอีกมุมหนึ่ง ฉะนั้นเราเก็บอีกมุมหนึ่งมาเป็นบทเรียนให้เป็นครูเรา”

“ซึ่งจริงๆ แล้ว เราเองก็อาจจะมีส่วนผิดที่ทำให้เขาต้องเป็นแบบนี้ หนิงโพสต์เป็นแคปชั่นแบบว่าเราได้อะไรจากเหตุการณ์นี้ หนิงเป็นคนที่เวลามีอะไรมากระทบความรู้สึกเรา หนิงจะเลือกมองในอีกมุมหนึ่งที่ไม่ทำให้เราปรี๊ด หรือจี๊ด หรือ ลุยๆ หนิงจะเพลาๆ เรื่องแบบนี้ลง และหนิงชอบเวลาคนเข้ามาอ่านแล้วเขาบอกว่ามันได้เตือนสติเขาด้วยเหมือนเป็นกำลังใจให้กับคนที่ติดตามเรา”

คำว่าจำกัดคนใกล้ตัวของเรา หมายถึงเราไม่ได้คุยกับเขาแล้ว ?
“ไม่ใช่ค่ะ คำว่าจำกัดคนใกล้ตัวหมายถึงเวลาเราเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาในชีวิตขอให้ทุกคนอย่าโกรธ อย่าเกลียด อย่าเสียใจ เพียงแต่ว่าเราจำกัดคนใกล้ตัวใหม่ เราก็จะรู้สึกได้ว่า โอเค เราจะไม่ทุ่มกับเขาขนาดนั้นเราก็จะไม่เสียใจมากขนาดนั้น เราก็แค่ไม่ต้องผิดใจกันก็แค่ให้เขาเป็นจากเพื่อนสนิทก็เป็นแค่เพื่อน ถ้าจากเพื่อนก็เป็นแค่คนรู้จัก จากคนรู้จักก็เป็นแค่คนเคยผ่าน เราไม่จำเป็นต้องไปโกรธไปเกลียดกัน เราตั้งใจจะสื่อถึงเรื่องราวที่มันผ่านกระบวนการทางความคิดมากกว่า”

เรื่องที่เกิดขึ้นสร้างความเดือดร้อนให้เราไหม ?
“จริงๆ เรื่องเดือดร้อนอะไรก็แล้วแต่จะเดือดร้อนอะไรก็แล้วแต่ มันไม่เท่ากับเดือดร้อนทางใจ สุดท้ายใจเราเองเท่านั้นแหละที่จะทำให้เราทุกข์เอง เมื่อใจเราไม่เป็นทุกข์เราก็จะไม่ทุกข์กับมัน เราแค่จำกัดวงคนใกล้ตัวใหม่และให้ความรู้สึกกับแต่ละสิ่งใหม่ มันก็ทำให้เราเป็นคนใจเย็นขึ้น เพราะทุกวันนี้เรามีลูก เราก็ต้องเป็นตัวอย่างที่ดี รู้จักที่จะคิด รู้จักที่จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ทุกคนต้องมีจุดอ่อนของตัวเอง และถ้าเรารู้ว่าจุดอ่อนของเราคืออะไร เราก็แค่ปรับมันเท่านั้นเอง ก็ต้องค่อยๆ เปลี่ยนค่ะ”

ถึงขั้นเลิกคบไหม ?
“ไม่ค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังเจอกัน เขาก็ยังไม่รู้ว่าหนิงโกรธเขา (หัวเราะ) คือหนิงก็แค่จัดการความรู้สึกตัวเอง พอเราทำได้ เราก็เบา และพอเราทำได้เวลาที่ใครมาปรึกษาอะไรหนิง หนิงก็จะสามารถให้คำปรึกษาเขาได้ เวลาเราจะให้คำปรึกษาใครถ้าเราทำไม่ได้อย่าให้คำปรึกษาเขา”

เราเตือนเขาไหม ?
“ไม่จำเป็นค่ะ มันอยู่ที่ใจ เราจะโกรธจะเกลียดใครก็แล้วแต่ใจเราเป็นคนสั่ง ถ้าใจเราไม่โกรธไม่เกลียดเขาเราก็จะไม่เจ็บใจ ไม่คาดหวังค่ะ”

>>"หนิง ปณิตา" โพสต์ถึงใคร เพื่อนที่โกหกนี่มัน...ลั่นไม่อยากตบให้เสียมือ