โป๊ะแตกเพราะแฟนโพสต์เฟซบุ๊กโชว์ รวบหนุ่มลักทรัพย์นายจ้างเกือบ 4 ล้าน

ลูกจ้างแสบลักทรัพย์นายจ้างเกือบ 4 ล้าน โดนตำรวจรวบตัว หลังแฟนสาวนำของกลางโพสต์เฟซบุ๊ก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (4 พ.ย.) เมื่อเวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายคำหล้า อายุ 30 ปี สัญชาติลาว ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 541/2561 ลงวันที่ 4 พ.ย.61 จับได้ที่คอนโดแห่งหนึ่ง ซอยติวานนท์ 48 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี หลังตกเป็นผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์นายจ้าง

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 ต.ค.61 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้รับแจ้งความจาก น.ส.บุณฑริกา (นามสมมุติ) อายุ 50 ปี อยู่ที่ ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ว่าครอบครัวได้ไปเที่ยวต่างจังหวัด 2 วัน และกลับมาถึงบ้านวันที่ 28 ต.ค.เวลา 15.00 น. พบว่าทรัพย์สินภายในบ้าน ที่ห้องนอนชั้น 2 ได้หายไป 

ทรัพย์สินที่หายไป ประกอบด้วย ทองคำแท่งน้ำหนังแท่งละ 10 บาท จำนวน 8 แท่ง มูลค่า 1,600,000 บาท, ทองคำแท่งน้ำหนักแท่งละ 5 บาทจำนวน 2 แท่งมูลค่า 200,000 บาท พระเหลี่ยมทอง 1 องค์, เหรียญเลี่ยมทอง 1 องค์, เหรียญรัชกาลที่ 5 เลี่ยมทอง 1 องค์, เหรียญ ร.9 เลี่ยมทองฝังเพชร 1 เหรียญ, แหวนเพชร 13 วง, ต่างหูเพชร 2 คู่

ธนบัตรต่างชาติมูลค่า 32,000 บาท, ธนบัตรไทยที่ระลึก ฉบับละ 1,000-500-100 และ 5 บาท รวม 28 ฉบับ นาฬิกาแบรนด์เนม 3 เรือน และกล่องสแตนเลส รวมทรัพย์สินทั้งหมดมูลค่ารวมประมาณ 4 ล้านบาท 

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางเข้าตรวจสอบ พบว่ามีร่องรอยการงัดแงะและรื้อค้น และยังมีทรัพย์สินอีกหลายรายการหลงเหลืออยู่ โดยที่บ้านหลังนี้มีลูกจ้างทำงานเป็นหญิง 5 คน ชาย 2 คน

ต่อมาวันที่ 29 ต.ค.61 นายคำหล้า ได้โทรศัพท์มาลางาน 4 วัน เพื่อกลับบ้านที่ประเทศลาว ซึ่งผู้เสียหายสงสัยว่าใกล้วันเงินเดือนออกทำไมไม่รอรับเงินเดือน จากนั้นได้มีคนงานหญิงพบว่าเฟซบุ๊กของแฟนสาวนายคำหล้า กำลังไหว้รับสร้อยคอทองคำ 2 เส้นจากนายคำหล้า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้วางแผนเข้าจับกุม

จากการสอบสวน นายคำหล้า ให้การรับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 26 ต.ค. เวลา 21.30 น. ตนเองได้ปีนรั้วบ้านฝั่งที่ติดกับป่าเข้าไปภายในรั้วบ้านดังกล่าว จากนั้นได้เดินหลบกล้องวงจรปิดอ้อมไปด้านหลังบ้านซึ่งไม่มีกล้องวงจรปิด

และปีนเข้าไปภายในตัวบ้านหยิบกุญแจบ้านที่อยู่ในกล่อง เปิดเข้าไปภายในห้องนอน รื้อค้นหากุญแจเปิดลิ้นชักและเอาทรัพย์สินดังกล่าวไป ก่อนนำทรัพย์สินที่ได้บางส่วนไปขาย ได้เงินมาจำนวน 200,000 บาท ส่วนทรัพย์สินส่วนที่เหลือได้นำใส่กล่องฝากไว้กับเพื่อน

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามนำของกลางคืนได้เกือบทั้งหมด ยกเว้นสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 บาทที่นำไปขาย ส่วนสาเหตุการก่อเหตุผู้ต้องหาต้องการหาเงินเพื่อกลับบ้านที่ประเทศลาว  เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน และจะนำตัวส่งฝากขังศาลจังหวัดนนทบุรีต่อไป