"วีเจจ๋า" เปิดใจ "ตุ๊ ธนานันต์" เคลียร์ตัวเอง หย่าขาดอดีตภรรยาเรียบร้อยแล้ว

"วีเจจ๋า" เปิดใจ "ตุ๊ ธนานันต์" เคลียร์ตัวเอง หย่าขาดอดีตภรรยาเรียบร้อยแล้ว

"วีเจจ๋า" เปิดใจ "ตุ๊ ธนานันต์" เคลียร์ตัวเอง หย่าขาดอดีตภรรยาเรียบร้อยแล้ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตกเป็นกระแสสังคมมานานถึงกรณีที่วีเจสาว จ๋า-ณัฐฐาวีรนุช ทองมี ซุ่มคบศึกษาดูใจกับนักธุรกิจหนุ่ม ตุ๊-ธนานันต์ เอื้ออารักษ์ ทั้งๆ ที่ฝ่ายชายยังไม่ได้หย่าขาดจากอดีตภรรยา จนทำให้เธอเองถูกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นการแย่งสามีคนอื่น หรือยอมเป็นภรรยาน้อยก็ตาม

ล่าสุด จ๋า ณัฐฐาวีรนุช ได้ออกมาเปิดใจให้ฟังอีกครั้ง โดยเจ้าตัวได้เผยว่า หลังจากที่มีกระแสข่าวดังกล่าวเกิดขึ้น เธอและฝ่ายชายต่างก็แยกย้ายไปเคลียร์เรื่องของตัวเอง ซึ่งทางคุณตุ๊ก็ได้เซ็นใบหย่ากับอดีตภรรยาไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานี้ พร้อมขอโอกาสพิสูจน์ตัวเองว่าจะดีพอสำหรับชีวิตเธอหรือเปล่า เพราะที่ผ่านมาฝ่ายชายรู้สึกผิดที่ทำให้เรื่องราวทั้งหมดวุ่นวายไปหมด

วันเกิดที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง ?

"ก็ไปทำบุญค่ะ 4-5 ปีหลังนี่ทำบุญอย่างเดียวเลย จ๋าทำแชร์ริตี้ทุกปี จ๋าทำกิจกรรมเล็กๆ ชื่อว่า warm us charity ทุกๆ ปีก็จะมีขายของและรับเงินบริจาค ก็จะเอาเงินไปบริจาคในแต่ละที่ต่างๆ กัน ปีนี้จ๋าก็รวบรวมเงินจากเพื่อนๆ จากคนที่เขาอยากช่วยเรา จ๋าก็วาดรูปและดีไซต์เป็นหมวก และจะเอาเงินไปช่วยโรงพยาบาลที่จังหวัดน่านค่ะ จ๋าก็ไปสอบถามและหาข้อมูลมาแล้วว่าเป็นโรงพยาบาลที่มีเตียงอยู่ประมาณ 20 กว่าเตียง แต่คนที่เขาต้องดูแลในชุมชนนั้นมีอยู่ประมาณ 14,000 กว่าคน ซึ่งเวลาเขาป่วยเขาก็ต้องเดินทางมาโรงพยาบาลนี้ ซึ่งถ้าเกิดป่วยพร้อมกันก็แย่หน่อย"

ตั้งยอดบริจาคไว้ไหม ?

"ไม่ได้ตั้งยอดบริจาคค่ะ ก็จะมีเพื่อนๆ ที่ช่วยบริจาคอยู่แล้ว และคนข้างนอกที่เห็นในไอจีจ๋าก็จะบริจาคเข้ามา เราก็ส่งหมวกให้เขา ก็ยังมีบริจาคเข้ามาเรื่อยๆ นะคะ ตอนแรกคิดว่าจะปิดแล้ว แต่พอดีมีคนใจดีบอกว่าเหมาเข้ามา จ๋าก็เลยไปสั่งหมวกเพิ่ม เลยยังไม่ได้ปิดรับ ถ้าใครที่อยากจะบริจาคอีกก็ติดตามในไอจีจ๋าเลยค่ะ จ๋าก็จะมีแฮชแท็ก #warm us charity ก็สามารถเข้าไปดูได้ว่าไปทำบุญจริงๆ ค่ะ"

ทำที่นี่ทุกปีหรือเปล่า ?

"สลับๆ ไปที่อื่นด้วยค่ะ มีทำกับมูลนิธิ The voice foundetionของพี่เก๋-ชลลดา เมฆราตรี ด้วย สัตว์พิการด้วยก็จะแบ่งไปหลายๆ ที่ ปีที่ 2-3 ก็ไปทำที่เชียงราย เอาเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มไปให้คนที่เขาขาดแคลนค่ะ แล้วก็เอาเงินไปให้ตามบ้าน ของปีนี้ตอนนี้ยอดบริจาคก็แสนกว่าบาทแล้วค่ะ"

ก่อนหน้านี้วันเกิดก็จะจัดปาร์ตี้ ทำไมหลังๆ ถึงเปลี่ยนมาทำบุญ ?

"ตั้งแต่คิดได้ค่ะ (หัวเราะ) ย้อนไปเมื่อสมัยโน้นที่เลิกกับแฟนก็กลับมาดูตัวเองว่าเรามีความสุขกับอะไรกันแน่ ตอนแรกเราจะไปโฟกัสเรื่องความรักเยอะ ทีนี้พอเราไม่มองตรงนั้นเราก็มาดูว่าถ้าไม่มองเรื่องความรัก เรามีอะไรอยู่บ้าง คือเราก็ต้องเรียนให้จบ และต้องเป็นคนที่ดีขึ้น ก็คือต้องคืนให้สังคม เราไม่ใช่แค่มาคิดว่าตัวเราจะมีความสุขยังไง แต่เรามองว่าเรามีค่ายังไงบ้าง ก็เลยเรียนให้จบ ทำบุญให้เยอะ ซึ่งพอให้แล้วก็รู้สึกว่าเกิดมาแล้วมีคุณค่า (ยิ้ม) ดีกว่าใช้ชีวิตแบบหาตังค์ได้แล้วก็ใช้สนุกไปวันๆ"

ถ้าต่อไปคิดไหมว่าเราจะจัดแชร์ริตี้ให้ใหญ่ขึ้นขนาดไหน ?

"ตามกำลังค่ะ อย่างทุกวันนี้ไม่ใช่แค่จ๋าคนเดียว พอจ๋าขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ เขาก็ช่วย แล้วพอน้องสาวจ๋าเสียจากโรคซึมเศร้า เราก็จัดกิจกรรมเกี่ยวกับเรื่องโรคซึมเศร้า ชื่อว่าโรคซึมเศร้าเราเข้าใจ พอปีนี้จ๋าก็อยากทำเกี่ยวกับโรงพยาบาล เรามีกำลังเท่าไหร่เราก็ทำเท่านั้น"

ถามถึงรูปช่อดอกไม้ ?

"ขอมีคนให้บ้างเถอะ (หัวเราะ) แต่ว่าเป็นใครไม่บอกค่ะ "

ถามถึงคุณตุ๊ที่หย่าขาดจากภรรยาไปเมื่อ เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สำหรับเรามันจะคืบหน้าไปไหม ?

"อย่างตอนนั้นที่จ๋าเป็นเรื่องเป็นราวเป็นข่าวขึ้นมา ก็คือคุยว่าต่างคนต่างไปจัดการเรื่องของตัวเอง ซึ่งเขาก็ไปจัดการเรื่องของเขาทำให้เห็นว่า สิ่งที่พูดเป็นเรื่องจริง"

ถึงวันนี้ทางกฎหมายเขาก็เป็นโสดแล้ว ?

"เคลียร์ ใช่ค่ะ"

สำหรับจ๋ามันจะพัฒนาต่อไปไหม ?

"สำหรับเราคือมีโอกาสได้คุยกัน เขาก็บอกว่าเขาขอพิสูจน์ตัวเอง อยากพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาจะดีพอสำหรับชีวิตของเราไหม เพราะว่าที่ผ่านมาเขาก็รู้สึกผิดกับจ๋า ว่ามันมีเรื่องวุ่นวาย อย่างตอนนี้จ๋าก็โฟกัสที่ตัวของจ๋าก่อน อยากทำชีวิตให้ดี เพราะช่วงที่แล้วก็ยอมรับว่าเซ (หัวเราะ) เพราะว่าเรื่องมันไม่ใช่อะไรแบบนั้นเลย เราไม่ขอพูดถึงแล้วกัน แต่ว่าจ๋าก็รู้สึกว่างั้นจ๋ามาโฟกัสที่ชีวิตตัวเองเหมือนกับที่เคยตั้งใจไว้อะไรที่มันดีก็อยากให้อยู่ที่ชีวิต อะไรที่ไม่ดีก็พยายามที่จะสกรีนออก"

ต้องจัดสรรอย่างไรบ้างทั้งชีวิตและการงาน ?

"ไม่ได้จัดสรรขนาดนั้น แต่ว่าสิ่งที่ต้องจัดเลยคือครอบครัว และเรื่องของงาน จ๋าโชคดีมากเลยที่คนเข้าใจจ๋าเยอะ ตอนแรกจ๋ากังวล กลัวกระทบงาน แต่ปรากฏว่างานยังไหลเข้ามาเรื่อยๆ หลังจากช่วงที่เริ่มเคลียร์แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น มีภาพยนตร์กำลังเข้าเดือนธันวาคม แล้วก็มีละครเข้ามา 3 เรื่อง แต่ว่าคงได้รับแค่เรื่องเดียว ทำไม่ไหว"

รู้สึกอย่างไรบ้างที่คนไม่ได้ตัดสินจากข่าวซะทีเดียว ?

"ดีใจ เพราะว่าจ๋ายืนในวงการนี้มา 10 กว่าปี จะ 20 ปี มีผลงานเป็นตัวพิสูจน์และจ๋าคิดว่าความจริงใจของจ๋า คืออย่างไรจ๋าก็ไม่ใช่คนโกหก บางอย่างที่มันเกิดแล้วมันไม่ดีกับเรา เราก็พูดอธิบายในเรื่องจริง เราคิดว่าเราแมนพอที่เราจะพูดความจริงต่อหน้าทุกคน เขาก็เหมือนกัน จ๋าคิดว่าคนที่เป็นกลางคงเข้าใจว่า คนโกหกคงไม่ออกมาพูดหน้าสื่อขนาดนี้ ไม่ได้โกหก"

สำหรับเรา เราติดอะไรในตัวเขาอีกหรือเปล่า ?

"ไม่มีอะไรค่ะ ตอนนี้ตัวเองต่างคนต่างทำชีวิตให้ดี ถ้าเกิดว่าเขายังอยากขอโอกาสที่จะพิสูจน์ไม่ใช่แค่ตัวจ๋าเองแต่ว่าเป็นพ่อแม่จ๋า"

เพราะว่าพ่อแม่เราเป็นห่วงกับข่าวนี้มาก ?

"ห่วงค่ะ อันนี้จ๋าพูดอะไรเยอะไม่ได้ แต่ว่าในความเป็นจริง จ๋าอยากให้ลองย้อนกลับไปมองว่าตั้งแต่วันแรกที่มีเรื่องเขาก็ปกป้องเรานะ เขาไม่ได้เป็นคนทำเรื่อง แต่ว่าเรื่องมันมาพร้อมตัวเขามากกว่า"

ตอนนี้ยังมีกระแสสังคมมาวุ่นวายหรือเปล่า ?

"ไม่มีค่ะ ทุกอย่างน่าจะเคลียร์จบ แล้วตอนที่เขาสองคนเคลียร์กัน เราก็ออกมาใช้ชีวิต"

เหมือนเขาจีบเราใหม่เลยไหม ?

"มันไม่ใช่จีบหรอกค่ะ มันคือพิสูจน์ เหมือนกับว่าก็ใช้ชีวิตแหละ ทำให้เห็นว่าดีไหม อย่างที่บอกคือที่ผ่านมาเขาก็เกรงใจ รู้สึกแย่ที่ลากเราไปเจอในสิ่งที่ไม่ดี"

พอพิสูจน์อย่างนี้มีเห็นอะไรเปลี่ยนในตัวเขาไหม ?

"เขาก็ไม่ได้เป็นคนไม่ดีนะคะในความเป็นจริง คนที่พูดส่วนใหญ่เป็นคนที่ไม่รู้เรื่องจริง"

วันนี้เราสบายใจมากขึ้น ?

"ก็สบายใจมากขึ้นในเรื่องนั้นนะคะ แต่ว่าการตัดสินในชีวิตตัวเองก็ยังจะยืนยันว่า เอาตัวเองก่อนและทำให้ดี แล้วใครที่ดีกับชีวิตเราก็ค่อยๆดู"

วันเกิดที่ผ่านมามีขอพรให้ตัวเองไหม ?

"ตอนที่ขอใจจ๋าจะอยู่กับน้อง ยังขอให้น้อง ถ้าเขาอยู่ที่ไหนก็อยากให้เขามีความสุข ขอให้พ่อแม่"

มุมมองของเราวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง ?

"โตขึ้น อย่างครั้งสุดท้ายที่เรารู้สึกว่าเราโฟกัสผิดจุดคือ 4-5 ปีแล้ว เราโฟกัสเรื่องรักมากเกินไป จนไม่ได้โฟกัสตัวเองพอตอนหลังเราพยายามโฟกัสเรื่องตัวเอง สิ่งที่เราจะทำให้ตัวเอง คนอื่น และโลกใบนี้ได้มากขึ้นทุกอย่างมันดีขึ้น มีซวยบ้างเล็กน้อยแต่ไม่เป็นไร ช่างมัน"

ความรักยังโฟกัสอยู่ไหม ?

"ยังเป็นคนที่เริ่มคุยกับใครก็จริงใจเหมือนเดิม แต่ไม่ได้ฟูมฟาย ไม่ได้มีหรือไม่มีแล้วจะตาย ก็ไม่ได้เป็นอะไร ถ้าจะรักก็ให้ร้อย เพียงขอให้ตัวเองไม่ได้เป๋ไปหากความรักมันจะไม่ดี"

กับคนที่เป็นข่าว ตามความรู้สึกเราให้เขากลับมาหรือยัง ?

"ยังไม่อยากพูดแบบรายละเอียดแต่ว่าจ๋าคิดว่า จ๋าให้โอกาสที่เขาอยากพิสูจน์ก็ให้เขาพิสูจน์ จ๋าพูดตรงนี้ก็ไม่ได้ดีไปกว่าจ๋าเห็นการกระทำของเขาก่อน"

มีกำหนดไหม ?

"มันไม่ได้แบบว่าฉันให้เวลาเธอเท่านี้เพราะว่าถ้าเป็นแบบนั้นแปลว่าจ๋าโฟกัสเรื่องความรักอยู่ แต่ว่าตัวเราไม่ได้โฟกัสเรื่องความรักอยู่ เอาตัวเองก่อน เราก็ไมได้คิดว่าต้องเดี๋ยวนี้เดี๋ยวนั้น แต่ว่าเอาให้ตัวเองรอดและทำทุกอย่างให้มันดีก่อน ต้องใช้เวลา ส่วนพ่อแม่ท่านก็ต้องเป็นห่วงเราอยู่แล้ว แต่ต้องย้อนกลับไปมา สิ่งที่ผ่านมามันหนัก แต่คนที่ทำไม่ใช่เขาไง พ่อแม่เข้าใจว่าเขาไม่ได้ทำ แต่ว่าสิ่งที่มาพร้อมเขามันคือปัญหา เขาก็เลยบอกว่าเขาเคลียร์ ขอโอกาสที่จะพิสูจน์ว่าเคลียร์แล้วเขาจะดีกับเรามากน้อยแค่ไหน พอกับที่เราโอเคหรือเปล่า ส่วนสบายใจแค่ไหนต้องถามพ่อแม่ ถ้ามุมของจ๋า ตั้งแต่วันแรก เขาเป็นสุภาพบุรุษกับจ๋า เพียงแต่ว่าบางอย่างมันซับซ้อนกว่าที่เราจะอธิบายให้คนทั้งโลกเข้าใจ ต่างคนต่างจัดการชีวิต จัดการแล้วเริ่มคุยกัน แต่ว่าคุยแล้วจะพัฒนาได้ไหมอันนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวเขา"

จากนี้ไปไหนมาไหนด้วยกันก็ไม่ใช่เรื่องผิด ?

"เขาก็เคลียร์แล้วไม่มีอะไรที่ไม่ดี"

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ ของ "วีเจจ๋า" เปิดใจ "ตุ๊ ธนานันต์" เคลียร์ตัวเอง หย่าขาดอดีตภรรยาเรียบร้อยแล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook