ทำไม “การลาออก” จึงเป็นเรื่องยากน่าลำบากใจสำหรับใครหลายคน

ทำไม “การลาออก” จึงเป็นเรื่องยากน่าลำบากใจสำหรับใครหลายคน

ทำไม “การลาออก” จึงเป็นเรื่องยากน่าลำบากใจสำหรับใครหลายคน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นอกจากสัจธรรมที่ว่า “ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน” แล้ว ยังมีสัจธรรมที่ว่า “ไม่มีอะไรที่จะคงอยู่ตลอดไป” ที่สามารถอธิบายถึงความเป็นไปของชีวิตเราได้เป็นอย่างดี ชีวิตที่อายุเราเพิ่มขึ้นทุกวินาที ชีวิตที่ต้องพยายามเดินไปข้างหน้าทุกวัน ผลักดันให้คนเราขวนขวายหาสิ่งที่ “ดีกว่า” ให้กับชีวิตเสมอ

อย่างในชีวิตการทำงาน หากทำงานอยู่ที่บริษัทหนึ่งมาระยะหนึ่งจนเริ่มรู้สึกว่ามาถึงจุดอิ่มตัว เริ่มรู้สึกว่าการทำงานที่นี้ทำให้ชีวิตเริ่มเดินไปข้างหน้าช้าลง ความก้าวหน้าหยุดนิ่ง เงินเดือนไม่ขึ้นมานานจนจำไม่ได้แล้วว่าขึ้นครั้งสุดท้ายไปเมื่อไร ความอดทนต่อเรื่องแย่ ๆ เริ่มน้อยลง หรือเจอที่ใหม่ที่ดูแล้วรู้สึกว่าชีวิตอาจจะดีกว่าที่เดิม หลาย ๆ คนเริ่มมีแผนที่จะ “ลาออก” อยู่ในหัว หลังจากที่เคลียร์นู่นนั่นนี่จนทางสะดวกแล้วก็ยื่นจดหมายลาออกเลยทันที แต่สำหรับใครหลายคน การลาออกไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น แถมยังเป็นเรื่องยากน่าลำบากใจเกินกว่าจะพูดว่า “ขอลาออก”

ติดอยู่ใน comfort zone
เมื่อถามถึงสภาพในการทำงานในทุก ๆ วัน หลายคนมีสายตาว่างเปล่า เหม่อลอย พร้อมถอนหายใจแล้วพูดว่า “เฮ้อ เบื่อจะแย่” แต่ถ้าถามต่อว่าคิดจะลาออกไหมล่ะ หลาย ๆ คนกลับไม่มีแผนที่คิดจะลาออกด้วยซ้ำไป คนกลุ่มนี้เสพติดกับ comfort zone จนไม่กล้าลาออกจากงานเก่าไปหางานใหม่ทำ เอาเข้าจริง การที่เราจะขอกอดพื้นที่ที่คุ้นเคยนี้ไว้แน่น ๆ จนไม่กล้าไปไหนก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะมันทำให้เรารู้สึกปลอดภัยและมั่นคงในระดับหนึ่งอยู่แล้ว หลายคนไม่ได้รักงาน รักออฟฟิศขนาดนั้น เรื่องแย่ ๆ ก็เจอมาสารพัด แต่รักการใช้ชีวิตแบบที่ไม่ท้าทาย ไม่เสี่ยง ไม่ต้องลุ้น ไม่ต้องตื่นเต้นกับผลลัพธ์ที่ไม่รู้ว่าจะดีหรือร้าย เลยขอใช้ชีวิตเดิม ๆ ที่คุ้นเคย ทั้งที่รู้ว่าไม่มีอะไรดีขึ้นต่อไป

เสียดายสิ่งดี ๆ ที่ก็มีเหมือนกัน
หลังจากทำงานไปได้สักระยะจนดวงตาเห็นธรรม แล้วพบว่าทุกสิ่งอย่างมันเป็นเชิงลบหมด นู่นก็แย่นี่ก็แย่ คนเราจะไม่ตัดสินใจยากขนาดนี้หรอก ดังนั้น ที่ยังลังเลกล้า ๆ กลัว ๆ ออกดีไม่ออกดีหว่า ก็เพราะว่าใจนึกเสียดายสิ่งดี ๆ ที่ต้องแลก โดยอาจจะแอบกังวลอยู่นิด ๆ ด้วยว่าถ้ายอมเสียสิ่งนี้จากที่เก่า เมื่อไปทำงานที่ใหม่ก็อาจจะหาสิ่งดี ๆ แบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว เพราะเราไม่รู้เลยว่าที่ทำงานใหม่ที่จะไปนั้นจะดีกว่านี้ เสมอตัว หรือแย่กว่านี้มาก ๆ ความน่าจะเป็นคือเป็นไปได้หมด เหมือนต้องไปเสี่ยงดวงลุ้นโชคเอาดาบหน้าอีก จึงไม่แปลกที่จะเกิดอาการไม่มั่นใจ กลัวว่าโชคหรือวาสนาที่ทำให้เราได้รับสิ่งดี ๆ อาจขึ้นอยู่กับที่นี่ที่เดียว ถ้าลาออก โชคก็อาจออกจากตัวเราด้วยแล้วไม่กลับเข้ามาอีกเลยก็ได้

ภาวะเกรงใจคน
ความรู้สึกที่เรามีต่อตัวบุคคล ก็กลายเป็นสิ่งที่ค้ำคอจนทำให้เราไม่กล้าเอ่ยปากว่าขอลาออกได้เหมือนกัน หลายกรณีที่ทำให้หลายคนไม่กล้าลาออกจากงานที่เก่า เป็นเพราะเกรงใจใครสักคนในที่ทำงาน โดยคนผู้นั้นอาจจะเป็นเจ้านายที่ใจดีและดีกับเรามาก ๆ เขาเป็นคนที่มองเห็นอะไรบางอย่างในตัวเราที่คนอื่นไม่เห็นและให้โอกาสเราได้ทำงาน ปลุกปั้นจนมาไกลถึงขนาดนี้ หรืออาจเป็นเพื่อนร่วมงานรุ่นพี่ที่ดีกับเรามาก ๆ เรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ เรื่องงาน เรื่องส่วนตัว ก็คอยช่วยเหลืออยู่เสมอ เป็นบุคคลที่มีส่วนร่วมในการเติบโตในหน้าที่การงานของเรามาตลอด ทำให้รู้สึกเหมือนมีบุญคุณต่อกัน ถ้าเราลาออกอาจทำให้เขารู้สึกไม่ดี ความรู้สึกเกรงใจจึงเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ลำบากใจได้ไม่น้อยเลย

สงสัยในความสามารถของตัวเอง
คนที่ทำงานอยู่ที่เก่ามานานหลายปีจนรู้สึกว่าเนื้องานที่นี่เป็นอะไรที่เชี่ยวชาญจนถึงขั้นหลับตาทำก็ยังได้ แต่พอนึกถึงการลาออกจากงานที่ทำจนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตไปแล้วเพื่อหางานใหม่ อาจมีความคิดที่สงสัยในความสามารถตนเองขึ้นมา จนตัดสินใจไม่ลาออกก็มีเหมือนกัน แม้ว่างานที่ใหม่จะเป็นงานเดิมที่ตัวเองมีประสบการณ์สูง แค่เปลี่ยนสถานที่ หัวหน้า เจ้านาย ลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน อุปกรณ์ทำงาน แต่ในความรู้สึกเหมือนกับต้องไปเริ่มต้นใหม่กับสิ่งที่ตัวเองไม่คุ้นเคย เกิดเป็นความสงสัยในความสามารถหรือศักยภาพของตนเอง คิดว่าที่ทำได้ทุกวันนี้มันเป็นเพราะความชิน ถ้าพ้นจากที่นี่ไปเราอาจจะกลายเป็นคนที่สู้ใครเขาไม่ได้เลยก็ได้ รู้สึกว่าตนเองไม่เก่งพอที่จะแข่งขันกับใคร

เงินทองคือสิ่งที่ต้องใช้
เนื่องจาก “เงิน” เป็นสิ่งที่ต้องใช้สำหรับซื้อของอุปโภคบริโภคทุกวัน หลายคนจึงไม่กล้าจะเสี่ยงยื่นใบลาออกในขณะที่ตัวเองยังไม่มีงานใหม่คอยท่าอยู่ ชนิดที่ว่าออกจากที่เก่าปุ๊บก็เริ่มต้นที่ใหม่ได้ปั๊บ เพราะมันเท่ากับว่าเราจะกลายเป็นคนว่างงานไปในทันที สมัยนี้งานดี ๆ ไม่ได้หาได้ง่าย ๆ ไม่มีงานทำก็ไม่มีรายได้ ต่อให้มีสิทธิ์เบิกเงินชดเชยในช่วงที่ยังหางานใหม่ไม่ได้ก็ใช่ว่าจะพอกับค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน จะให้กินเงินเก่าก็คงจะอยู่ได้ไม่นานนักเพราะมีแต่หมดไป ไม่มีเงินใหม่มาเพิ่ม แถมยังไม่รู้ว่าจะต้องเป็นคนว่างงานไปอีกนานแค่ไหน ถ้าว่างไปยาว ๆ กว่าที่คิด หางานใหม่ไม่ได้จะทำยังไง แผนลาออกเลยเป็นแค่เรื่องที่กล้าคิดแต่ไม่กล้าทำ บ่นว่าอยากออกแต่นับวันครบรอบมาไม่รู้ตั้งกี่ปีแล้ว!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook