WHAT YOU NEED TO KNOW ABOUT SMART TV

WHAT YOU NEED TO KNOW ABOUT SMART TV

WHAT YOU NEED TO KNOW ABOUT SMART TV
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เดี๋ยวนี้เดินดูในร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า เรามักจะเห็นแต่ทีวีจอยักษ์ ที่แปะป้ายว่าเป็น ‘สมาร์ททีวี' นะครับ ทีวีแบบไม่สมาร์ทนั้นแทบจะไม่เหลือวางให้เห็นแล้ว สำหรับคนที่ไม่ใช่คอออดิโอไฟล์ สนใจเล่นเครื่องเสียงและโฮมเธียเตอร์เป็นประจำ คงจะสับสนงุนงงว่าสมาร์ททีวีคืออะไร มันจำเป็นแค่ไหน ทำอะไรได้บ้าง และในอนาคต ทีวีที่เรากำลังเลือกซื้อตอนนี้ ควรจะต้องมีความสามารถรองรับอะไรได้บ้างกันแน่ ?

สมาร์ททีวีก็เหมือนกับสมาร์ทโฟน ทำงานบนระบบปฏิบัติการ และมาพร้อมกับความสามารถในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นจากร้านค้า (Online Store) เพื่อ Install ลงบนสมาร์ททีวีของตนได้ นั่นจึงทำให้รูปแบบการใช้ทีวีต่างไปจากเดิม เช่น เราสามารถสตรีมและชมวิดีโอออนไลน์, เล่นเกม, ท่องอินเตอร์-เน็ต รวมถึงทำวิดีโอคอลบนจอทีวีได้

หลังจากที่อินเตอร์เน็ตทีวีออกมาวางตลาดได้ไม่นาน สมาร์ททีวีก็ตามมา ซึ่งมาในรูปแบบของ LED TV, LCD TV ฯลฯ สิ่งที่ต่างกันโดยสิ้นเชิงระหว่างทีวี 2 ประเภทนี้ก็คือ อินเตอร์เน็ตทีวีไม่สามารถลงแอพพลิเคชั่นได้เพิ่มเติม ผิดกับสมาร์ททีวีที่มีระบบปฏิบัติการในตัว (คล้ายคลึงกับ Android, iOS) จึงสามารถลงแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติมได้ นอกจากนี้ สมาร์ททีวีบางรุ่นยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ เช่น สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต ฯลฯ เพื่อแบ่งปันคอนเทนต์หรือควบคุมทีวีได้อีกด้วย

มีแอพฯ ที่ทำขึ้นมาสำหรับคนไทยหรือไม่แม้แอพพลิเคชั่นส่วนใหญ่จะเป็นแอพพลิเคชั่นสากล (Global Applications) เช่น Angry Birds, YouTube ฯลฯ แต่ Local Content ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่จะผลักดันให้สมาร์ททีวีประสบความสำเร็จและเป็นที่นิยม ผู้ผลิตทีวีหลายรายจึงมีกลยุทธ์ในการจับมือกับผู้ผลิตคอนเทนต์ในบ้านเรามากขึ้น เช่น พานาโซนิค ได้ร่วมกับพันธมิตร 11 บริษัทที่เป็นผู้บริหารคอนเทนต์ชั้นนำในประเทศไทยผลิตแอพพลิเคชั่นออกมา เช่น 3BB IPTV สำหรับรับชมภาพยนตร์กว่า 100 เรื่องในแบบ Movie Buffet ราคาเดียว, You2Play สำหรับชมดนตรี, Let's PLAY ร้านเช่าภาพยนตร์ลิขสิทธิ์ออนไลน์, BeboydCG รับชมแอนิเมชั่นคุณภาพระดับ HD, MCOT สำหรับชมรายการสดผ่าน Live Streaming และรายการย้อนหลัง พร้อมข่าวสั้นประจำชั่วโมง, Spring News ข่าวและเนื้อหาที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่, Voice TV ข่าวสารและความเคลื่อนไหวล่าสุดจากทุกมุมโลก เป็นต้น และในส่วนของซัมซุงเอง ยังได้จัดการแข่งขัน Samsung Smart TV App Contest เพื่อเปิดโอกาสให้คนไทยได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับซัมซุง โดยแอพพลิเคชั่นที่ได้รับรางวัลจะถูกนำไปพัฒนาเป็นแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานจริงในผลิตภัณฑ์สมาร์ททีวีของซัมซุง


สมาร์ททีวีออกแบบมาเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน ปัจจุบันสมาร์ททีวีทั้งหมดมาพร้อมกับช่องต่อ Ethernet เราสามารถนำสายมาต่อพ่วงกับเราเตอร์ได้เลย ข้อดีของการเชื่อมต่อประเภทนี้ก็คือมีความเสถียรของสัญญาณ แต่ก็จะเป็นปัญหาเรื่องความสวยงามเพราะสายอาจจะทำให้ดูเกะกะ รุงรัง อย่างไรก็ตาม มีสมาร์ททีวีบางรุ่นที่มี Wi-Fi ในตัว จึงสามารถเชื่อมต่อไร้สายได้ทันที และมีบางรุ่นที่เราสามารถนำ Wi-Fi Adapter หรือ Dongle มาเสียบเพื่อรับสัญญาณ Wi-Fi ได้ โดยอาจจะมีค่าใช้จ่ายบ้างเล็กน้อย ส่วนขั้นตอนการเซตอัพก็มีความคล้ายคลึงกับการเชื่อมต่อ Wi-Fi กับโน้ตบุ๊ค

อนาคตของสมาร์ททีวีแน่นอนว่า สมาร์ททีวีจะมาแทนที่ทีวีธรรมดาเหมือนที่ทีวีจอแบนเข้ามาแทนทีวีจอแก้ว และสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงในอนาคตสำหรับสมาร์ททีวีก็คือขนาดจอและความละเอียด โดยจะมีขนาดจอที่ใหญ่ขึ้น และรายละเอียดภาพที่มากขึ้นเป็นระดับ 4K หรือสูงกว่า Full HD (1920 x 1080 พิกเซล) ราว 4 เท่า ส่วนแอพพลิเคชั่นต่างๆ ก็จะมีให้เลือกใช้อย่างหลากหลายและเจาะเฉพาะกลุ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันก็จะมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องของ UI ให้มีความง่ายในการใช้งาน แต่ยังคงดูทันสมัย เช่น ซัมซุงได้เปลี่ยนจากเดิมเป็น Smart Hub ซึ่งรวมเอาการใช้งาน 3 โหมดหลักๆ มาไว้ที่หน้าแรกคือ Social, Apps และ Photos, Video, Music

อย่างไรก็ตาม สำหรับทางด้านผลตอบรับของตลาด ในช่วงแรกที่มีการโปรโมตเมื่อราว 2-3 ปีที่ผ่านมา ผลการตอบรับก็ยังไม่หวือหวาเหมือนตลาดสมาร์ทโฟน แต่สำหรับปีนี้เหมือนกระแสของสมาร์ททีวีจะกลับมาอีกครั้ง เห็นได้จากการเตรียมตัวเปิดตัวกองทัพสมาร์ททีวีของผู้ผลิตหลายๆ ค่ายในเร็วๆ นี้ ไม่ว่าจะเป็นยักษ์ใหญ่อย่างซัมซุงหรือฟิลิปส์

 

 

ติดตามคอลัมน์อื่นๆเพิ่มเติม ดาวน์โหลดนิตยสารในเครือจีเอ็มได้แล้วที่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook