ทำไมเราถึงเป็นคนที่ทำอะไรก็ล้มเหลวทุกที?

ทำไมเราถึงเป็นคนที่ทำอะไรก็ล้มเหลวทุกที?

ทำไมเราถึงเป็นคนที่ทำอะไรก็ล้มเหลวทุกที?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จริง ๆ แล้ว ใคร ๆ ก็อยากจะเป็นคนที่ดีขึ้น เก่งขึ้นกว่าเราคนเมื่อวานกันทั้งนั้น เมื่ออยากเปลี่ยนแปลงก็มักจะเริ่มตั้งเป้าหมายที่ต้องการจะพิชิตให้ได้มากน้อยต่างกันไป แต่การพูดหรือคิดอย่างเดียวเป็นเรื่องง่าย ต่างจากการลงมือทำที่ยากกว่ามาก จึงไม่ใช่ทุกคนที่จะทำเป้าหมายสำเร็จ เพราะสุดท้ายก็ล้มเลิกความตั้งใจไป ดังนั้น มาดูสาเหตุกันดีกว่าว่าทำไมเราถึงไปไม่ถึงเป้าหมาย ทำอะไรก็ล้มเหลวทุกที เพื่อที่จะได้หาวิธีแก้ไขได้ทัน

แรงจูงใจไม่มากพอที่จะไปให้ตลอดรอดฝั่ง

เมื่อได้ลงมือทำในสิ่งที่คิดเอาไว้แล้ว ย่อมมีความเหนื่อย ความท้อเกิดขึ้นได้เป็นธรรมดา อะไร ๆ ก็ยากไปหมด ทำให้รู้สึกไม่มีแรงจูงใจที่จะทำอีกแล้ว แต่อย่าลืมว่าการเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลา ลองถามตัวเองดูว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ใหญ่เกินไปไหม ยากเกินไปไหม ยังอยากบรรลุเป้าหมายนั้นอยู่หรือเปล่า ถ้ารู้สึกว่ายากเกินไป ลองหาคู่หูช่วยคิด ช่วยเตือน หรือแม้แต่แข่งกันก็ยังได้ จะช่วยให้เกมนี้น่าเล่นขึ้นเยอะเลย

ความมั่นใจที่เคยมีหายไป

บ่อยครั้งแม้เราจะวาดภาพความสำเร็จ หรือตั้งเป้าหมายเอาไว้ดิบดี แต่เมื่อความมั่นใจที่เคยมีหายไป ก็ทำให้เรายอมแพ้ได้เหมือนกัน แทนที่จะทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลังแล้วมานั่งน้อยเนื้อต่ำใจก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าเป็นเช่นนี้ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเยียวยาใจตัวเองก่อน ให้กำลังใจตัวเองว่าเราต้องเป็นคนใหม่ที่ดีขึ้นในทุกวันแม้ว่าจะทีละน้อยก็ตาม เมื่อสุขภาพจิตดีขึ้น ความมั่นใจก็จะค่อย ๆ กลับมา

วิธีการที่จะทำไม่ชัดเจน

ถ้าหากเราไม่มีวิธีการที่ชัดเจน ก็จะมองเห็นเป้าหมายไม่ชัดเจนเช่นกัน ฝืนทำต่อไปก็ไม่ต่างอะไรกับการโยนหินถามทาง ในที่สุดก็ไม่สามารถจะไปถึงเป้าหมายได้ จึงต้องคิดไว้เสมอว่าทุกการเปลี่ยนแปลงจำเป็นต้องมีวิธีการ มีตัวช่วยที่ชัดเจน อาจเป็นต้นแบบ แรงบันดาลใจ แรงสนับสนุนจากคนรอบข้าง หรือแม้แต่ทักษะเด่นของตนเอง ดังนั้น ก่อนจะลงมือทำอะไรควรหาวิธีการที่ชัดเจน เพื่อที่จะได้เรียนรู้และนำมาใช้ให้เกิดผลสูงสุด

นิสัยชอบเดี๋ยว ดอง ย้ำคิดย้ำทำ

ถ้าเราพูดคำว่า “เดี๋ยว” จนติดปาก และไม่ลงมือทำเสียที ก็ไม่มีทางที่เป้าหมายจะสำเร็จได้หรอกจริงไหม หรือบางครั้งก็ย้ำคิดย้ำทำ เห็นอะไรดีก็มีเป้าหมายใหม่ไปเสียหมด พอมีสิ่งที่ต้องทำมากขึ้นก็จะเริ่มขี้เกียจ เลื่อนสิ่งที่อยากทำออกไปเรื่อย ๆ จนทิ้งเป้าหมายที่เคยตั้งไว้ สุดท้ายก็เลยไม่มีอะไรสำเร็จสักอย่าง ถ้าเป็นเช่นนี้ต้องแก้นิสัยของตัวเอง ถ้าใช่ก็ลงมือทำ โฟกัสไปทีละอย่าง อย่าลังเลรีรออะไรให้มากความ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook