เล่าผ่านแฟนพันธุ์แท้ NBA : เปิดตำนาน "วิลท์ แชมเบอร์เลน" ผู้เคยหลับนอนกับผู้หญิง 2 หมื่นคน

ในประวัติศาสตร์วงการกีฬาทุกๆวงการต่างก็ต้องมีนักกีฬาที่สุดยอดตลอดกาล หรือ GOAT (The Greatest of All Time) ในแต่ละประเภทอยู่

กับฟุตบอลอาจจะเป็น ดีเอโก้ มาราโดน่า หรือ เปเล่ เทนนิสอาจจะเป็น โรเจอร์ เฟดเดอเรอร์ ส่วนบาสเกตบอลหลายคนจะนึกถึง ไมเคิล จอร์แดน ว่ามีชื่อเสียงมากที่สุด แต่นั่นก็คือในยุคนี้ เพราะหากเราย้อนกลับไปถามนักบาสยุคของจอร์แดน หรือก่อนจอร์แดนว่า ใครคือสุดยอดในการทำคะแนน? ร้อยทั้งร้อยแทบจะตอบเป็นเสียงเดียว ... “วิลท์ แชมเบอร์เลน”

 

แน่นอนว่าเมื่อเราเอ่ยถึงวิลท์ เรารู้กันดีว่าเขาเป็นบุคคลที่ทำแต้มสูงที่สุดใน 1 เกม คือทำไปถึง “100 คะแนน” ในเกมที่ ฟิลาเดลเฟีย วอร์ริเออร์ส (โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส ในปัจจุบัน) ชนะ นิวยอร์ก นิกส์ 169-147 เมื่อปี 1962 แม้วันนั้นผู้ชมอาจจะน้อยเพียงแค่หลัก 4 พันกว่าคน แต่นั่นก็คือหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของ NBA ที่ยังไม่มีใครสามารถทำลายได้ และว่ากันว่าเป็นสถิติที่ไม่น่าจะมีใครทำลายได้เลยด้วยซ้ำ ไม่เพียงเท่านั้น วิลท์นั้นยังรีบาวด์ได้ถึง 55 ครั้งในเกมเดียว จากนัดที่ วอร์ริเออร์ส พบ บอสตัน เซลติกส์ เมื่อปี 1960 ซึ่งก็ยังเป็นสถิติที่ไม่มีใครทำลายได้อีกเช่นกัน

แต่ความสุดยอดของเขาไม่ได้มีแค่เพียงเท่านั้น...

เหนือมนุษย์

หลายคนบอกว่า “วิลท์ไม่ใช่มนุษย์” จากร่างกายที่แข็งแกร่งผิดธรรมชาติ เพราะในยุค ‘60-’70 นักบาสเกตบอลที่รูปร่างสูงใหญ่นั้นมีน้อย แต่ วิลท์ เมื่อตอนอายุได้ 10 ขวบก็สูงปาเข้าไป 180 เซนติเมตรแล้ว ก่อนเพิ่มความสูงอีก 30 เซนติเมตร เป็น 210 เซนติเมตร ได้ในเวลาเพียง 4 ปีเท่านั้น จึงทำให้หลายคนในยุคดังกล่าวนิยามให้วิลท์ว่า “โกไลแอท” หรือนักรบร่างยักษ์ในตำนาน ที่ถูกบันทึกว่าแข็งแกร่ง ทรงพลัง และรูปร่างสูงใหญ่เกือบๆ 3 เมตร… ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เขาสามารถทำอะไรได้หลากหลายอย่าง และหลากหลายกีฬาด้วยเช่นกัน

 

เอาแค่เรื่องการกระโดด นักบาสที่สูง 7 ฟุต 1 นิ้ว หรือ 216 เซนติเมตร แถมน้ำหนักมากถึง 275 ปอนด์ หรือ 125 กิโลกรัมเช่นวิลท์ การจะกระโดดให้สูงเกินกว่า 35 นิ้วถือเป็นสิ่งที่ยากเอามากๆ ไมเคิล จอร์แดน ที่ว่าเป็นจอมดังค์ ยังวัดระยะกระโดดได้เพียง 48 นิ้ว, วินซ์ คาร์เตอร์ เจ้าของฉายา แอร์ แคนาดา ก็กระโดดสูงเพียง 44 นิ้ว แต่สำหรับ วิลท์ แชมเบอร์เลน... ในปี 1957 ก่อนที่เขาจะเริ่มเล่นบาสเกตบอลอาชีพ วิลท์นึกสนุกไปลงแข่งขันกรีฑาของรัฐแคนซัสในกีฬากระโดดสูง ก่อนที่จะคว้าเหรียญทองด้วยสถิติ 53 นิ้ว ทั้งๆที่ไม่เคยซ้อมเลยแม้แต่ครั้งเดียว!

 

ไม่เพียงเท่านั้น วิลท์ยังได้ลงแข่งวิ่งในรายการเดียวกัน ซึ่งปรากฎว่า ฝีเท้าของเขาก็ยอดเยี่ยม เมื่อสถิติที่ทำได้จากการวิ่ง 100 เมตรนั้นอยู่ที่ 10.7 วินาที (บางบันทึกระบุที่ 10.9 วินาที) ส่วนระยะ 400 เมตร ทำเวลาที่ 49 วินาที นี่คือสิ่งที่บ่งบอกถึงพละกำลังอันมหาศาล และความเหนือมนุษย์ของชายที่ชื่อ วิลท์ แชมเบอร์เลน เป็นอย่างมาก ถึงกระนั้น เป้าหมายอันดับ 1 ของเจ้าตัวในการเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยแคนซัส คือการเล่นบาสเกตบอลใน NBA

ในเกมแรกอย่างเป็นทางการกับมหาวิทยาลัยแคนซัส วิลท์ แชมเบอร์เลน ทำไปถึง 52 คะแนน 31 รีบาวด์ ในเกมที่เอาชนะมหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์น 87-69 ซึ่งต่างสร้างความตกตะลึงให้กับโค้ช แฟนๆ เพื่อนร่วมทีมและฝั่งตรงข้ามว่า “ใครคือ วิลท์ แชมเบอร์เลน?” มอนเต จอห์นสัน เพื่อนร่วมทีมได้อธิบายถึงตัวของวิลท์ในครั้งเมื่อเล่นด้วยกันที่แคนซัสว่า “มือของเขามันใหญ่มาก ผมไม่เคยเห็นเขาเหนื่อยเลย เขาดังค์มันได้อย่างรุนแรงเสียจนบอลกระทบพื้น เด้งไปอยู่ระดับเดียวกับปากห่วงบาสเกตบอลเลย”

 

พูดเพียงเท่านี้อาจไม่เห็นภาพ แต่ปากคำจาก จอห์นนี่ เคอร์ คู่แข่งของวิลท์น่าจะทำให้เห็นภาพชัดขึ้น เพราะเจ้าตัวเล่าว่า การดังค์ของวิลท์นั้นถึงกับทำให้นิ้วเท้าของเขาหัก! เรื่องมันเกิดขึ้นเนื่องจากความรุนแรงของการดังค์ทำให้ลูกบอลกระทบนิ้วเท้าของเคอร์ แต่ถึงเจ้าตัวจะรู้ก็ต้องเก็บอาการไว้ เพราะหากแสดงออกอย่างชัดแจ้งก็กลัวว่าจะทำให้ทีมเสียขวัญ เคอร์จึงแสร้งทำเป็นบาดเจ็บจากการล้มจนต้องเข้าล็อกเกอร์รูม ก่อนที่จะเฉลยความจริงในภายหลัง ซึ่งแน่นอนว่ามันทำให้เพื่อนๆของ จอห์นนี่ เคอร์ ไม่มีใครอยากที่จะประกบกับ โกไลแอท วิลท์ คนนี้เลย

 

อีกเหตุการณ์ชวนสยองจากวิลท์เกิดขึ้นกับ กัส จอห์นสัน ผู้เล่นของทีม บัลติมอร์ บุลเล็ตส์ (วอชิงตัน วิซาร์ดส์ ในปัจจุบัน) จังหวะนั้นเขาพยายามจะขึ้นดังค์ใส่วิลท์ ซึ่งตามธรรมเนียมของนักบาสอเมริกันคือ การหยามกันซึ่งๆหน้า ด้วยศักดิ์ศรีและฝีมือ วิลท์สามารถบล็อกเอาไว้ได้กลางอากาศ แต่พลังตะปบนั้นรุนแรงเสียจนกัสเสียหลักร่วงลงพื้นและไหล่หลุด! นี่ถือเป็นการไหล่หลุดจากการบล็อกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ NBA เลยทีเดียว

อัจฉริยะรอบด้าน

หากจะหาคำเดียวที่นิยามชีวิตการเล่นบาสเกตบอลของวิลท์ทั้งในระดับมหาวิทยาลัยและ NBA คงเป็นคำว่า “สุดยอด” เพราะเขาได้สร้างสถิติขึ้นมามากมายนับไม่ถ้วน รวมถึงการทำ 100 คะแนนในเกมเดียว และรีบาวด์ 55 ครั้งในเกมเดียวที่ยังไม่สามารถมีใครทำลายได้จนถึงทุกวันนี้

 

แต่ถึงจะมีสถิติสุดหรู ชีวิตการเล่นบาสเกตบอลของวิลท์กลับไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิด ด้วยความยอดเยี่ยมของวิลท์ รูปร่างที่สูง และพละกำลังที่มากเกินคนปกติ รวมถึงความอดทนแบบไร้ขีดจำกัด มันทำให้บาสเกตบอลสำหรับเขานั้นมันดูง่าย จนเพื่อนร่วมทีมต่างไม่โอเค เนื่องจากวิลท์นั้นโดดเด่นเกินหน้าเกินตา ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมทีมจากมหาวิทยาลัยแคนซัส หรือตามที่วิลท์เคยให้สัมภาษณ์ว่าเพื่อนร่วมทีมใน NBA ก็ไม่โอเคกับเขา ด้วยความที่การทำแต้มของเขา และการรีบาวด์ของเขา ทุกๆอย่างโดดเด่นเกินไป ซึ่งวิลท์เคยบอกว่าไม่ว่าจะเป็น เอลกิน เบย์เลอร์ หรือ เจอร์รี่ เวสต์ เพื่อนร่วมทีม ลอสแอนเจลิส เลเกอร์ส ต่างก็ไม่ค่อยชอบหน้าเขา รวมถึง บิล รัสเซลล์ คู่ปรับตลอดกาล… ทั้งสองคนไม่พูดต่อกันถึง 20 ปีเลยทีเดียว

หลายเหตุผลที่กล่าวมาทำให้วิลท์นั้นไม่รู้สึกสนุกกับบาสเกตบอลสักเท่าไหร่จนตัดสินใจเลิกเล่นใน NBA แต่เพียงไม่นาน ซาน ดิเอโก คอนควิสเทดอร์ส ในลีก ABA ก็จ้างเขาในฐานะผู้เล่น-โค้ช ซึ่งก็เกิดเรื่องราวใหญ่โตอีก เพราะทีมเลเกอร์สตัดสินใจยื่นฟ้องและชนะคดีด้วยเหตุผลที่ว่า “ยังมีสัญญาผูกพันกันอยู่” ทำให้วิลท์ไม่สามารถลงสนามให้กับคอนควิสเทดอร์สได้ เจ้าตัวจึงออกมาบ่นกับสื่อว่า “เบื่อกีฬาบาสเกตบอลมาก” ซึ่งสอดคล้องกับเพื่อนร่วมทีมหลายคนที่ระบุว่า แม้วิลท์จะมีความสามารถมาก แต่ก็เป็นคนที่เบื่อง่าย มีความอดทนต่ำ จากความที่เก่งเกินไปจนไร้ความท้าทายนั่นเอง ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เจ้าตัวตัดสินใจอำลาวงการบาสเกตบอลอย่างถาวรในปี 1974

 

หลังอำลาวงการแม่นห่วงแล้ว วิลท์ได้ใช้ทรัพย์สินที่มีอย่างล้นเหลือไปกับการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์, สร้างไนท์คลับ, กิจการอื่นๆ อีกมากมาย กระทั่งเจ้าตัวได้พบกับกีฬาที่ทำให้เขากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งในวัย 41 ปีนั่นคือ… “วอลเลย์บอล”

เพียงไม่นานหลังจากนั้น วิลท์ก็ตัดสินใจที่จะเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง International Volleyball Association หรือ IVA ลีกวอลเลย์บอลอาชีพของสหรัฐอเมริกา ด้วยเหตุผลที่อยากให้วอลเลย์บอลนั้นเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยม และมีการพัฒนาที่มากขึ้น

“หลังจากบาสเกตบอลแล้ว ผมได้ก่อตั้ง IVA ขึ้นมา และมันทำให้ผมหลงใหลในฐานะประธาน เจ้าของทีม และผมก็ลงเล่นด้วย วอลเลย์บอลนั้นต้องใช้ทักษะที่ค่อนข้างสูงเลย แต่ผมก็ดีใจที่ทำมันได้ และภูมิใจมากที่ทำให้ลีกนี้ประสบความสำเร็จ”

 

ว่ากันว่าแรงตบลูกยางของวิลท์นั้นแรงไม่แพ้การดังค์ของเขาเลย รวมถึงยังมีพลังการกระโดดที่เหลือเชื่อเหมือนเดิม ซึ่งแม้ IVA จะมีอายุสั้น เพียงแค่ปี 1980 ลีกก็ถูกยุบไปในที่สุด แต่หอเกียรติยศวอลเลย์บอลก็ได้บรรจุชื่อเขาเป็นส่วนหนึ่งในฐานะผู้ที่ช่วยให้วงการเป็นที่รู้จักมากขึ้น

หลังจากที่ยุติบทบาทในการเล่นวอลเลย์บอลอาชีพไป ยอดมนุษย์ผู้มากความสามารถก็ได้หันไปเอาดีทางด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงภาพยนตร์ วิลท์เคยแสดงหนังคู่กับ อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ ในภาพยนตร์เรื่อง Conan the Destroyer และมีอีกหลายต่อหลายเรื่อง รวมถึงการท้า มูฮัมหมัด อาลี ตำนานวงการมวยสากลขึ้นสู้ แต่เหตุการณ์นี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้น

แม้ในวัย 50 ปี วิลท์ก็ได้รับเทียบเชิญจากทีมใน NBA ทั้ง คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส และ นิวเจอร์ซีย์ เน็ตส์ ให้กลับมาเล่นอีกครั้ง ซึ่งทีมเหล่านี้ต่างให้เหตุผลว่าเขายังฟิตอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการลงแข่งวิ่งมาราธอนหลายรายการและคว้าแชมป์มาได้ หรือการออกกำลังกายในวัย 50 กว่าๆ กับการยกน้ำหนักท่านอนได้ราวๆ 400 ปอนด์ (ตามบันทึกนั้นได้มีการบอกว่าวิลท์ในวัย 59 ปียังสามารถยกน้ำหนักท่านอนได้ถึง 465 ปอนด์เลยทีเดียว)

ถึงกระนั้น เขาก็ไม่กลับมาเป็นนักกีฬาอาชีพแต่อย่างใด โดยวิลท์เผยถึงเหตุผลในการหันหลังให้วงการกีฬาว่าเป็นเพราะ เขาเบื่อ และไม่มีความท้าทาย ซึ่งเจ้าตัวเคยบอกว่า ไม่มีความรู้สึกอยากเล่นบาสเกตบอลตั้งแต่ระดับมหาวิทยาลัยแล้ว เพราะมันง่าย แถมอยากจะเลิกเล่น NBA ตั้งแต่ปีแรกแล้วเพราะหลายคนหมั่นไส้ รวมถึงไม่อยากจะเล่นกรีฑา หรือกีฬาชนิดอื่นด้วย เพราะมีคนตั้งแง่กับเขามากเกินไป

นักรักตัวพ่อ

ด้วยความเหนือมนุษย์ในตัวเอง และมีทักษะที่เกินคนในทุกๆด้าน วิลท์ แชมเบอร์เลน จึงถือเป็นนักบาสคนแรกเลยที่มีรายได้เกิน 100,000 ดอลลาร์ต่อปี และสะสมรายได้ไว้มากกว่า 1.5 ล้านดอลลาร์ตลอดอาชีพ นั่นทำให้เขามีรายได้ที่มากมายมหาศาล

 

เมื่อมีเงินมากมายก็ต้องใช้… วิลท์มีรถสปอร์ต รถหรูอย่าง เบนท์ลี่ย์ และ เฟอร์รารี่ เอาไว้ขับเท่ๆหลายคัน ตลอดจนคฤหาสน์, อพาร์ตเมนท์ ที่เอาไว้จัดงานปาร์ตี้ส่วนตัวได้แทบจะตลอดเวลา ด้วยความครบเครื่องทุกอย่าง และรักในการปาร์ตี้มาก มันทำให้วิลท์นั้น “ติดเซ็กส์” จนไม่สามารถขาดผู้หญิงได้

มีการอ้างอิงว่าวิลท์ร่วมหลับนอนกับผู้หญิงตลอดชีวิตมากกว่า 20,000 คน หรือประมาณได้ว่าเฉลี่ยในวันหนึ่ง เขาจะได้แอ้มสาว 2.3 คนต่อวัน มีการระบุไว้ด้วยว่าวิลท์นั้นเป็นคนที่ติดเซ็กส์มากถึงมากที่สุด แต่คู่นอนของเขาไม่ว่าจะเป็นวงการบันเทิง, นักข่าว หรือสายกีฬาต่างบอกตรงกันว่า วิลท์มีความสุภาพในเรื่องบนเตียงเป็นอย่างมาก แต่ก็มีลีลาที่ร้อนแรง และจุดติดง่ายตลอดเวลา

วิลท์เคยบอกว่า แม้เขาชอบที่จะมีสัมพันธ์กับผู้หญิง แต่ไม่อยากมีภรรยา และไม่อยากที่จะมีลูก เพราะหวงแหนความเป็นอิสระและไม่อยากผูกมัด แต่ถึงกระนั้นผู้หญิงที่วิลท์ร่วมหลับนอนด้วยต่างก็อยากจะผูกมัดวิลท์ เพราะนอกจากจะคมเข้ม, สูงใหญ่ และมีความเหนือมนุษย์แล้ว ยังมีความร้อนแรงในแบบฉบับที่ผู้หญิงต้องการ

 

ประวัติศาสตร์กีฬาของอเมริกันชนระบุว่า ร่างกายของวิลท์นั้นคือสุดยอดเหนือคนหลายคน วิลท์มีสปีดความเร็วที่ยอดเยียม วิ่ง 100 เมตรในเวลาไม่ถึง 11 วินาที, พลังการกระโดดที่เกินสูงกว่า 50 นิ้ว, พลังแขนที่เหลือเชื่อจากการดังค์จนทำให้คู่แข่งบาดเจ็บ และยังมีความสามารถในด้านกีฬาจนเข้าหอเกียรติยศได้ถึง 2 กีฬา แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะยอดมนุษย์ขนาดไหน แต่ก็ไม่มีใครที่สามารถหนีความตายไปได้

วิลท์ แชมเบอร์เลน เสียชีวิตในปี 1999 ด้วยวัย 63 ปีจากโรคหัวใจ และแน่นอนเมื่อเขาจากโลกนี้ไป บุคคลในอดีตที่เคยไม่ชอบ เคยไม่ถูกชะตาเขา ต่างออกมาสรรเสริญ ยกย่อง และให้เกียรติกับความสามารถของยอดนักกีฬาคนนี้...

เพราะแม้พฤติกรรมหลายอย่างจะทำให้คนหมั่นไส้เพียงใด แต่ก็ไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้ว่า “วิลท์ แชมเบอร์เลน” คือยอดนักกีฬาผู้มากความสามารถคนนึงในประวัติศาสตร์วงการกีฬาโลก