วิเคราะห์บอลอังกฤษ"เรือใบสีฟ้า"แมนฯซิตี้เปิดบ้านรับการมาเยือนของ"ปีศาจแดง"แมนฯยูไนเต็ด โดยมีแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นเดิมพัน
(2) แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (1)
เวลา: 02.00 น.
สนาม: เอติฮัด สเตเดี้ยม
ผู้ตัดสิน: อังเดร มาร์ริเนอร์
ถ่ายทอดสด: ทรูสปอร์ต 2
ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
แมนฯ ซิตี้
22 เม.ย. 55 ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
14 เม.ย. 55 ชนะ นอริช 6-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
11 เม.ย. 55 ชนะ เวสต์บรอมวิช 4-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
8 เม.ย. 55 แพ้ อาร์เซนอล 0-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
31 มี.ค. 55 เสมอ ซันเดอร์แลนด์ 3-3 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
แมนฯ ยูไนเต็ด
22 เม.ย. 55 เสมอ เอฟเวอร์ตัน 4-4 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
15 เม.ย. 55 ชนะ แอสตัน วิลล่า 4-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
11 เม.ย. 55 แพ้ วีแกน 0-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
8 เม.ย. 55 ชนะ ควีนส์ปาร์ค 2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
2 เม.ย. 55 ชนะ แบล็คเบิร์น 2-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
ผลการพบกันนัดแรก
23 ต.ค. 54 แมนฯ ยูไนเต็ด 1-6 แมนฯ ซิตี้
ผลงานการพบกันที่ผ่านมา
8 ม.ค. 55 เอฟเอคัพ แมนฯ ซิตี้ 2-3 แมนฯ ยูไนเต็ด
7 ส.ค. 54 คอมมูนิตี้ชิลด์ แมนฯ ยูไนเต็ด 3 – 2 แมนฯ ซิตี้
16 เม.ย. 54 เอฟเอคัพ แมนฯ ซิตี้ 1 - 0 แมนฯ ยูไนเต็ด
12 ก.พ. 54 พรีเมียร์ลีก แมนฯ ยูไนเต็ด 2 – 1 แมนฯ ซิตี้
10 พ.ย. 53 พรีเมียร์ลีก แมนฯ ซิตี้ 0 – 0 แมนฯ ยูไนเต็ด
17 เม.ย. 53 พรีเมียร์ลีก แมนฯ ซิตี้ 0 – 1 แมนฯ ยูไนเต็ด
27 ม.ค. 53 ลีกคัพ แมนฯ ยูไนเต็ด 3 – 1 แมนฯ ซิตี้
19 ม.ค. 53 ลีกคัพ แมนฯ ซิตี้ 2 – 1 แมนฯ ยูไนเต็ด
20 ก.ย. 52 พรีเมียร์ลีก แมนฯ ยูไนเต็ด 4 – 3 แมนฯ ซิตี้
ความพร้อม-สภาพทีม
แมนฯ ซิตี้
เรือใบสีฟ้าพร้อมใช้งานนักเตะชุดฟูลทีมได้ในเกมนี้ โดยมาริโอ บาโลเตลลี่ กองหน้าสุดเกรียน พ้นโทษแบน 3 นัดกลับมาแล้ว แต่อาจจะยังสอดแทรกเข้าสู่แผงกองหน้าไม่ได้ เพราะคาร์ลอส เตเบซที่ได้โอกาสกลับมาลงสนามแทน กำลังโชว์ฟอร์มได้ดีในการเล่นคู่กับเซร์คิโอ อาเกโร่
ส่วนไมกาห์ ริชาร์ดส์ แบ๊กขวาทีมชาติอังกฤษ ก็พร้อมจะกลับมาลงเล่นได้อีกครั้ง หลังพลาดเกมที่แล้วเพราะมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยที่แฮมสตริง โดยปาโบล ซาบาเลต้า ซึ่งได้เป็นตัวจริงในสองนัดหลังสุด คงต้องหลีกทางให้
เกมนี้โจ ฮาร์ทจะลงเฝ้าเสา โดยแผงแบ๊กโฟร์เป็นชุดใหญ่ที่ประกอบด้วยริชาร์ดส์, แว็งซองต์ กอมปานี, โจลีออน เลสค็อตต์ และกาแอล กลิชี่
ยายา ตูเร่กับแกเร็ธ แบร์รี่จะจับคู่กันยืนอยู่หน้าแนวรับตรงกลางสนาม โดยมีดาวิด ซิลบา, เตเบซ และซาเมียร์ นาสรี่ยืนสูงคอยปั้นเกมรุกอยู่ข้างหน้า
ส่วนอาเกโร่จะยืนสูงในตำแหน่งหัวหอกตัวเป้าที่คอยทำหน้าที่จบสกอร์
ความพร้อม-สภาพทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด
ปิศาจแดงพร้อมใช้งานนักเตะตัวหลักชุดเดิมๆ ได้อีกครั้ง โดยนานี่ ปีกทีมชาติโปรตเกส ซึ่งเจ็บข้อเท้าเล็กน้อยมาจากการซ้อม ยังพร้อมลงทำหน้าที่ได้ตามเดิม เช่นเดียวกับจอนนี่ อีแวนส์ กองหลังทีมชาติไอร์แลนด์เหนือ ที่มีปัญหามาจากเกมที่แล้ว แต่ก็กลับมาลงซ้อมได้ตามปกติแล้ว และน่าจะลงทำหน้าที่ได้อีกครั้งในนัดนี้
เกมนี้เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันอาจจะปรับเปลี่ยนผู้เล่นแบ๊กขวา ด้วยการส่งคริส สมอลลิ่งหรือฟิล โจนส์ลงมาทำหน้าที่แทนราฟาเอล ซึ่งได้ลงเล่นมาตลอดในช่วงหลังๆ แต่ฟอร์มไม่ดีในนัดที่แล้ว
ริโอ เฟอร์ดินานด์จะเป็นตัวหลักในแนวรับคู่กับอีแวนส์ตามเดิม โดยมีปาทริซ เอฟร่าประจำการในตำแหน่งแบ๊กซ้าย ส่วนดาวิด เด เกอารับหน้าที่เฝ้าเสา
แผงมิดฟิลด์คงมีไมเคิ่ล คาร์ริคกับพอล สโคลส์เป็นตัวหลักตรงกลางสนามเช่นเดิม ส่วนอันโตนิโอ วาเลนเซียก็จะเป็นตัวขึ้นเกมทางกราบขวา ขณะที่นานี่ต้องลุ้นเบียดแย่งตำแหน่งปีกซ้ายกับแอชลี่ย์ ยังต่อไปว่าใครจะทำได้ลงเล่นเกมนี้
เวย์น รูนี่ย์ยังเป็นหัวใจสำคัญในแนวรุก โดยนัดนี้ถ้ายังใช้แผนการเล่น 4-4-2 ตามเดิม คู่หูของเขาก็น่าจะเป็นแดนนี่ เวลเบ๊ค แต่ถ้าจะปรับมาเล่นแบบแพ็คกลางแทน นักเตะอย่างไรอัน กิ๊กส์, ปาร์คจีซุง หรือทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ก็อาจจะถูกส่งลงสนามมาแทน
ผู้เล่นบาดเจ็บ: อันเดอร์สัน (แฮมสตริง), อันเดอร์ส ลินเดอการ์ด, พอล ป๊ออกบา (ข้อเท้า), เนมานย่า วีดิช (เข่า), ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ (ป่วย)
วิเคราะห์รูปเกม
เกมนี้ถือเป็นดาร์บี้แมตช์ที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งเท่าที่ทั้งสองทีมเคยพบกันมาก็ว่าได้ เพราะมีตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นเดิมพัน หลังแมนฯ ซิตี้ฟื้นขึ้นมาจากหลุมได้เพราะแมนฯ ยูไนเต็ดไปฟอร์มหลุดจนคะแนนที่นำอยู่ 8 แต้มถูกลดลงมาเหลือแค่ 3 แต้มเท่านั้น
เรือใบสีฟ้าต้องชนะเท่านั้นเพื่อต่อความหวังในการลุ้นแชมป์ และถ้าทำได้ก็จะพลิกมาเป็นฝ่ายได้เปรียบทันทีจากประตูได้เสียที่ดีกว่าเมื่อมีคะแนนเท่ากันก่อนลงเตะ 2 นัดสุดท้าย นัดนี้ผีแดงอาจจะเล่นแบบไม่กดดันเท่าเพราะผลเสมอก็เพียงพอ ไม่ต้องบุกแหลกเพื่อชนะ ซึ่งอาจจะทำให้มีโอกาสพลาดได้
แต่เจ้าถิ่นมีเกมรุกสุดอันตรายที่ทีมเยือนเคยลิ้มรสชาติมาแล้วหลายครั้งในซีซั่นนี้ เกมนี้เด็กผีต้องงัดทั้งกึ๋นและเก๋าออกมาสู้เต็มตัว และน่าจะเพียงพอที่จะทำให้ทีมบรรลุเป้าหมายได้
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม:
แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1): โจ ฮาร์ท; ไมกาห์ ริชาร์ดส์, แว็งซองต์ กอมปานี, โจลีออน เลสค็อตต์, กาแอล กลิชี่; ยายา ตูเร่, แกเร็ธ แบร์รี่; ดาวิด ซิลบา, คาร์ลอส เตเบซ, ซาเมียร์ นาสรี่; เซร์คิโอ อาเกโร่
ผู้จัดการทีม: โรแบร์โต้ มันชินี่
แมนฯ ยูไนเต็ด (4-4-2): ดาวิด เด เกอา; คริส สมอลลิ่ง, ริโอ เฟอร์ดินานด์, จอนนี่ อีแวนส์, ปาทริซ เอฟร่า; อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิ่ล คาร์ริค, พอล สโคลส์, นานี่; เวย์น รูนี่ย์, แดนนี่ เวลเบ๊ค
ผู้จัดการทีม: อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
ฮอตสกอร์: เสมอ 1-1
เกร็ดย่อย
*ทั้งสองทีมพบกันมาแล้ว 161 ครั้ง นับตั้งแต่เจอกันครั้งแรกในเกมดิวิชั่น 2 เดิมเมื่อปี 1894 โดยแมนฯ ยูไนเต็ดเป็นฝ่ายชนะ 67 ครั้ง แมนฯ ซิตี้ชนะ 44 ครั้ง และเสมอกัน 50 ครั้ง
*แมนฯ ซิตี้ทำประตูไม่ได้เลยในเกมพรีเมียร์ลีก 3 นัดหลังสุดที่พบกับแมนฯ ยูไนเต็ดในบ้านตัวเอง โดยฤดูกาลที่แล้วเสมอ 0-0 ส่วนสองปีก่อนหน้านั้นแพ้ 1-0
*การปราชัยต่อแมนฯ ซิตี้ 6-1 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน นับเป็นการแพ้เยอะที่สุดของแมนฯ ยูไนเต็ดในพรีเมียร์ลีก และเป็นครั้งแรกที่ปิศาจแดงถูกยิงถึงครึ่งโหลในบ้านนับตั้งแต่ปี 1930
*แมนฯ ซิตี้ชนะในบ้านถึง 21 จาก 22 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก และไม่แพ้ใครในการลงเตะ 27 นัดหลัง โดยเก็บได้ถึง 77 จาก 81 คะแนนเต็ม โดยทีมสุดท้ายที่บุกมาคว้าชัยที่เอติฮัด สเตเดี้ยมได้คือเอฟเวอร์ตันเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2010
*แมนฯ ซิตี้ไม่เสียประตูในครึ่งแรกถึง 19 จาก 20 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก และโดนเจาะตาข่ายในช่วง 45 นาทีแรกแค่ 6 ลูกเท่านั้นในฤดูกาลนี้
*คาร์ลอส เตเบซและเซร์คิโอ อาเกโร่ลงเล่นเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกร่วมกัน 4 นัดในฤดูกาลนี้ ซึ่งแมนฯ ซิตี้ทำได้ถึง 15 ประตูในช่วงนั้น โดยหนึ่งโหลเป็นผลงานของกองหน้าชาวอาร์เจนไตน์คู่นี้
*เตเบซมีสถิตเฉลี่ยในการทำประตูหรือแอสซิทได้ทุกๆ 55 นาทีในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้
*แมนฯ ยูไนเต็ดยังไม่เคยชนะเกมพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ได้เลย เมื่อเป็นฝ่ายเสียประตูไปก่อน (เสมอ 3 แพ้ 4)
*แมนฯ ยูไนเต็ดทำคะแนนหลุดมือไปถึง 5 แต้มใน 3 นัดหลังสุด ซึ่งเท่ากับทั้งหมดที่พวกเขาเสียไปในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2012
*เวย์น รูนี่ย์ทำ 16 ประตูใน 14 นัดหลังสุดที่ลงเล่นให้แมนฯ ยูไนเต็ด
<< โหมโรงแมนเชสเตอร์ดาร์บี้แมตซ์ >>
