ผู้ว่าฯ ปากน้ำ แถลงเหตุการณ์เรือระเบิด น้ำมันดิบ 3.2 ล้านลิตร ยังไม่รั่วไหล

ผู้ว่าฯ สมุทรปราการ แถลงเหตุการณ์เรือน้ำมันระเบิด ช่วงปากคลองสรรพสามิต คาดเกิดการเสียดสีของโซ่สมอเรือ ดับ 1 ศพ บาดเจ็บ 1 ราย

จากกรณี เรือบรรทุกน้ำมันดิบกว่า 3 ล้านลิตร เกิดการระเบิดขึ้นที่หัวเรือ มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ขณะลอยลำอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงปากคลองสรรพสามิต อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่าย วันนี้ที่ 27 มีนาคม 2565 ล่าสุดเมื่อเวลา 17.15 น. เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้อย่างสิ้นเชิงและถอดกำลังดับเพลิงออกจากที่เกิดเหตุแล้ว

นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวเบื้องต้นในเรื่องนี้ หลังจากที่ร่วมกับผู้บังคับการจังหวัดสมุทรปราการ และผู้เกี่ยวข้องไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว ถือเป็นเหตุการณ์เกี่ยวกับเรือบรรทุกน้ำมันครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง กรณีดังกล่าวว่า เมื่อได้เกิดเหตุเรือบรรทุกน้ำมันชื่อเรือ อัมภา 8 (AMPAR 8) ระเบิด และเกิดเหตุเพลิงไหม้ กลางแม่น้ำเจ้าพระยาใกล้กับวัดไตรมิตรวราราม ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ โดยเรือดังกล่าวได้บรรทุกน้ำมันดิบ จำนวน 3.2 ล้านลิตร มาจากเกาะสีชัง อำเภอเกาะสีซัง จังหวัดชลบุรี เดินทางไปยังท่าเทียบเรือกรุงเทพ และได้เกิดระเบิดขึ้นมาจากระบบของเรือ ขณะนี้สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว แต่ยังมีการฉีดน้ำเลี้ยงไว้ และไม่พบคราบน้ำมันรั่วไหลแต่อย่างใด

ในเบื้องต้น มีนายเรือพร้อมลูกเรือรวม ทั้งหมด 15 คน ผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 ราย ผู้เสียชีวิตจำนวน 1 ราย ส่วนสาเหตุการระเบิดอยู่ระหว่างสอบสวน ทั้งนี้ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสมุทรปราการ ได้ออกคำสั่งห้ามใช้เรือลำดังกล่าว พร้อมกับให้กรมเจ้าทำดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุ เพื่อหาสาเหตุกำหนดมาตรการป้องกันต่อไป

ส่วนทางด้าน นายฉัตรชัย เวชสาร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ ได้ออกมาเปิดเผยในที่แถลงข่าวผ่านทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ว่า เรือลำดังกล่าว คนประจําเรือจํานวน 14 นาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บจํานวน 1 นาย ชื่อ นายณัชพิศณุพงศ์ มาเนียม ตําแหน่ง ผู้ช่วยต้นเรือ ได้นําตัวส่งโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์ และพบผู้เสียชีวิตจํานวน 1 นาย ชื่อนายประสิทธิ์ สุภัทรวัน ตําแหน่ง ต้นเรือ จากการสำรวจยัง ไม่พบน้ำมันรั่วไหล และไม่กีดขวางการจราจรทางน้ำแต่อย่างใด เนื่องจากเรือดังกล่าวขณะนี้จอดเกยตื้นอยู่ โดยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ ได้ออกคำสั่งห้ามใช้เรืออัมภา 8 และออกประกาศเตือนให้ระมัดระวังการเรือเรือ โดยเจ้าเชิญทางเจ้าของเรือเข้าพบอีกครั้ง  ทั้งนี้ได้สั่งการให้เรือกำจัดคราบน้ำมันของสำนักงานเจ้าท่าออกไปวางทุ่นรอบเรือดังกล่าวเพื่อป้องกันคราบน้ำมันที่อาจรั่วไหลภายหลัง

ขณะที่มีรายงานสาเหตุเบื้องต้น คาดมาจากการเสียดสีของโซ่สมอเรือ ที่ทำให้เกิดประกายไฟที่หัวเรือจนไปติดไฟ ซึ่งเป็นไอระเหยและแรงดันที่สะสมอยู่ในห้องหัวเรือจนเกิดการระเบิดดังกล่าวขึ้น อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะต้องสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป