ตำรวจจ่อแจ้ง 3 ข้อหา ผู้ชุมนุม Mob Fest 14 พ.ย. ฐานทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน

พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งจัดกิจกรรม บริเวณ อนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวานที่ผ่านมา( 14 พ.ย. 63) ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แบ่งการกระทำความผิดของกลุ่มผู้ชุมนุม ออกเป็น 3 ส่วน คือ

1. การทำร้ายร่ายกายเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนได้รับบาดเจ็บ 2 นาย โดยถูกด้ามธงตีศีรษะ 1 นาย มีอาการปวดบวม และอีกรายถูกของแข็งกระแทกที่ใบหน้า ริมฝีปากแตก ใบหน้ามีรอยฟกช้ำ เข้าข่ายข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน
2. ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติงานตามหน้าที่
3. การร่วมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามมาตรา 215

โดยตำรวจทั้ง 2 นายแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สน.สำราญราษฎร์ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ส่วนการนำผ้าไปคลุม และปีนขึ้นไปบนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งถือเป็นโบราณสถานที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน อยู่ในความดูแลของกรุงเทพมหานคร และกรมศิลปากร การทำให้เสียหายหรือทำให้เสื่อมค่าหรือไร้ประโยชน์ จะเป็นความผิดตามพ.ร.บ.โบราณสถาน และพ.ร.บ.ความสะอาดอยู่ระหว่างกำลังตรวจสอบความเสียหาย และจะเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษที่ สน.สำราญราษฎร์

ส่วนอีกข้อหา คือกรณีผู้จัดการชุมนุมฝ่าฝืนเงื่อนไขที่เจ้าพนักงานได้แจ้งไว้ และความผิดอื่นๆ เช่น การกีดขวางทางจราจร พ.ร.บ.ความสะอาด ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบตัวผู้กระทำผิด เบื้องต้นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะมีส่วนในการรับผิดชอบด้วย เพราะเป็นหน้าที่ต้องควบคุมจัดการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ และปราศจากเหตุร้ายใดๆ ทั้งสิ้น