แซมบ้าหืดจับเชือดมัมมี่นาทีท้าย4-3
ศึกฟุตบอลฟีฟ่า คอนเฟเดอเรชั่นส์ คัพ 2009 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน เป็นการประเดิมนัดแรกของกลุ่ม บี "อัซซูรี่" อิตาลี แชมป์ฟุตบอลโลก 2006 ลงสนามดวลแข้งกับ "พญาอินทรี" สหรัฐอเมริกา แชมป์จากโซนคอนคาเคฟ ที่สนามโลตัส เวอร์สเฟลด์ สเตเดี้ยม ในเมืองเปรโทเนีย
นัดนี้ มาร์เชลโล ลิปปี้ กุนซือ "อัซซูรี่" ตัดสินใจดร็อป ฟาบิโอ คันนาวาโร ยอดกองหลังกัปตันทีมเป็นตัวสำรอง เพราะยังมีปัญหาบาดเจ็บรบกวน แต่นอกนั้นยังคงใช้งานแข้งหลักอย่าง อันเดรีย ปิร์โล, เจนนาโร กัตตูโซ, ดานิเอเล เดอ รอสซี และ อัลแบร์โต จิลาร์ดิโน เหมือนเดิม ส่วน บ็อบ เบรดลีย์ กุนซือ "พญาอินทรี" เลือกใช้งานผู้เล่นชุดที่ดีสุด นำทัพโดย ทิม ฮาวเวิร์ด, คลิ้นท์ เดมป์ซีย์ และ แลนดอน โดโนแวน
เริ่มต้นเกมในช่วงครึ่งแรก ทั้งสองฝ่ายเปิดเกมรุกแลกกันได้อย่างสูสี แต่เมื่อเข้าสู่นาที 33 สหรัฐอเมริกา ต้องเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คนเท่านั้น เนื่องจาก ริคาร์โด คลาร์ก ถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม แต่ทว่า "พญาอินทรี" กลับเป็นฝ่ายได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 ในช่วงท้ายครึ่งแรก นาที 41 จากจังหวะที่ จอร์โจ คิเอลลินี ไปทำฟาวล์ โจอี้ อัลติดอร์ ในบริเวณกรอบเขตโทษ ส่งผลให้ ปาโบล โปโซ ผู้ตัดสินในเกมนัดนี้ต้องเป่าเป็นลูกจุดโทษทันที ก่อนที่ แลนดอน โดโนแวน จะรับหน้าที่สังหารเข้าไป จบ 45 นาทีแรก อิตาลี เป็นฝ่ายตามหลังสหรัฐอเมริกา 1-0
เข้าสู่ครึ่งหลัง "อัซซูรี่" ต้องรีบแก้เกมเป็นการด่วน ก่อนที่จะเป็นฝ่ายตามตีเสมอ 1-1 จากการสับไกของ จูเซปเป รอสซี กองหน้าตัวสำรอง นาที 58 หลังจากนั้น อิตาลี สามารถพลิกสถานการณ์ขึ้นนำ 2-1 ได้สำเร็จจากการยิงไกลนอกกรอบเขตโทษของ ดานิเอเล เดอ รอสซี นาที 72 ก่อนที่ "อัซซูรี่" จะเป็นฝ่ายตอกย้ำชัยชนะไปแบบเฉียบขาด หลังได้ประตูปิดท้ายจากฝีเท้าของ จูเซปเป รอสซี ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย จบเกมการแข่งขัน อิตาลี เก็บชัยชนะในเกมนัดประเดิมสนามด้วยการเป็นฝ่ายพิชิตชัยเหนือสหรัฐอเมริกา 3-1
ส่วนผลอีกคู่หนึ่ง "แซมบ้า" บราซิล แชมป์โคปา อเมริกาใต้ จากดินแดนอเมริกาใต้ลงสนามฟาดแข้งกับ"มัมมี่" อียิปต์ แชมป์แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ ที่สนามฟรี สเตรท สเตเดี้ยม ในเมืองโบลเอมฟอนเทียน นัดนี้ คาร์ลอส ดุงกา กุนซือ "แซมบ้า" ส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงเล่นแบบเต็มอัตราศึก นำทัพโดย ลูซิโอ, ดาเนียล อัสเวส, เอลาโน, ริคาร์โด กาก้า และ โรบินโญ่ ด้าน ฮัสซัน ชีฮาตา กุนซือ "มัมมี่" ตัดสินใจส่ง 3 ประสานในแดนหน้าอย่าง โมฮัมเม็ด ชอว์กี, โมฮัมเหม็ด อบูทริกา และ โมฮัมเหม็ด ซีดาน ลงเล่นพร้อมกันทั้งหมด
เริ่มเกมไปได้เพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น บราซิล เป็นฝ่ายได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากความผิดพลาดของแนวรับ อียิปต์ ที่ปล่อยให้ กาก้า ได้บอลหลุดเข้าไปพังประตูแบบง่ายๆ แต่ทว่า "มัมมี่" สามารถตีตามเสมอได้แบบทันควันจากลูกโหม่งของ โมฮัมเหม็ด ซีดาน นาที 9 หลังจากนั้น "แซมบ้า" จัดการซัลโว 2 ลูกรวดจากลูกโหม่งของ หลุยส์ ฟาเบียโน นาที 12 และ ฮวน ที่เติมขึ้นมาโขกบอลจากลูกเตะมุม นาที 37 จบ 45 นาทีแรก บราซิล เป็นฝ่ายทะยานขึ้นนำ อียิปต์ ไปก่อนถึง 3-1
แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงครึ่งหลังกลับกลายเป็น "มัมมี่" ที่ได้ประตูตีเสมอ 2 ลูกรวดจากฝีเท้าของ โมฮัมเหม็ด ชอว์กี นาที 54 และ โมฮัมเหม็ด ซีดาน นาที 55 ส่งผลให้เกมคู่นี้น่าจะลงเอยด้วยผลเสมอ 3-3 แต่ทว่า "แซมบ้า" กลับเป็นฝ่ายได้ประตูในช่วงนาทีสุดท้าย หลังจาก อาห์เมด อัล มูฮามาดี เจตนาทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษ ส่งผลให้ ฮาวเวิร์ด เวปป์ ผู้ตัดสินในเกมนัดนี้ต้องเป่าเป็นลูกจุดโทษ พร้อมกับควักใบแดงไล่ อัล มูฮามาดี ออกจากสนาม ก่อนที่ กาก้า จะรับหน้าที่สังหารจุดโทษเข้าไปแบบไม่มีพลาด หมดเวลาการแข่งขัน บราซิล เป็นฝ่ายเฉือน อียิปต์ ไปแบบหวุดหวิด 4-3
สรุปอันดับทีมนำในกลุ่ม บี - อิตาลี และบราซิล มี 3 คะแนนเท่ากัน แต่ทว่า "อัซซูรี่" เป็นทีมจ่าฝูงไปก่อน เนื่องจากมีผลต่างประตูได้เสียดีกว่า "แซมบ้า" เพียงแค่ลูกเดียวเท่านั้น ส่วนสหรัฐอเมริกา และอียิปต์ ยังไม่มีคะแนนแม้แต่แต้มเดียว สำหรับเกมนัดต่อไป บราซิล พบกับสหรัฐอเมริกา และอิตาลี พบกับอียิปต์ โดยทั้ง 2 เกมดังกล่าวจะลงสนามฟาดแข้งกันในคืนวันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายนนี้
