โรงงานพลุระเบิด! เถ้าแก่-คนงานเจ็บสาหัส คาดอากาศร้อนจัดเกิดการเสียดสีก่อนบึ้มสนั่น

สุโขทัยร้อนจัด เกิดเหตุระทึก! โรงงานพลุระเบิด เจ้าของและคนงานที่กำลังบรรจุดินปืน ได้รับบาดเจ็บสาหัส หามส่ง โรงพยาบาลทั้ง 3 คน

(20 มี.ค. 62) ผู้สื่อข่าวในพื้นที่ จ.สุโขทัย รายงานกรณีเกิดเหตุพลุระเบิด มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.ปากแคว อ.เมือง จ.สุโขทัย 

โดย พ.ต.ท.นิพนธ์ เขียวเรือง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสุโขทัย จึงรายงาน พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.จว.สุโขทัย ทราบ จากนั้นรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด  

เมื่อเดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นโรงงานทำพลุแห่งหนึ่ง โดยมี นายสืบสกุล  อายุ 70 ปี เป็นเจ้าของโรงงาน โดยผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่คนงานกำลังตอกดินประสิวเพื่อบรรจุไฟแผงอักษรดอกสี ตามที่ได้รับออเดอร์ไว้  ได้เกิดเหตุพลุระเบิดขึ้น ในส่วนบริเวณด้านหลังของโรงงาน 

เป็นเหตุให้ นายสืบสกุล  เจ้าของถูกสะเก็ดพลุทำให้ หูฉีก และยังมี นายเฉลียว ซึ่งเป็นลูกเขย อายุ 40 ปี โดนไฟลวกตั้งแต่แขน และขาด้านขวาของร่างกาย  และ นายมนัส คนงาน อายุ 47 ปี ถูกสะเก็ดพลุที่ระเบิดเข้าตาซ้าย และถูกไฟลวกตามร่างกาย ต้องรีบนำตัวส่ง โรงพยาบาลสุโขทัย เพื่อทำการรักษาอย่างเร่งด่วน

ภายหลังจากที่รถดับเพลิงเข้าฉีดน้ำเพื่อป้องกันความร้อนภายในโรงงานพลุจนสงบแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจและชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ได้เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งพบเศษพลุที่ระเบิดแล้ว กระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ  จึงบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน ก่อนเดินทางไปสอบสวน นายเฉลียว ผู้ได้รับบาดเจ็บที่ โรงพยาบาลสุโขทัย   

เบื้องต้นทราบว่า ขณะที่ นายเฉลียว และคนงาน กำลังนั่งบรรจุดินปืนพลุดาวกระจายอยู่ภายในโรงงาน ก็มีเสียงดังคล้ายระเบิดและเปลวไฟมาจากด้านหลัง ก่อนที่พลุดาวกระจายที่กำลังนั่งประกอบอยู่จะระเบิดตาม ซึ่งแรงระเบิดทำให้พวกตนกระเด็นไปคนละทิศทาง ต่างได้รับบาดเจ็บไปตามๆ กัน

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า อาจเกิดจากอากาศที่ร้อนจัดตลอดทั้งวัน รวมทั้งส่วนด้านหลังของโรงงาน มีการก่อสร้างเพื่อทำผนังกั้นน้ำ จึงทำให้อากาศไม่ถ่ายเท เมื่อเกิดการเสียดสีกันจึงทำให้เกิดระเบิดขึ้น จนเป็นได้รับความเสียหายทั้งในส่วนของโรงงาน และ คนงานได้รับบาดเจ็บ ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล เพื่อดูอาการอย่างใกล้ชิด

ส่วนสาเหตุที่เกิดนั้น ต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง