หนุ่มวัย 37 ปีนั่งดื่มเหล้ากับเพื่อนริมสระ เจอตอนเช้าอีกทีเป็นศพจมน้ำ ญาติร่ำไห้แทบขาดใจ

หนุ่มวัย 37 ปี จมน้ำเสียชีวิต ญาติร่ำไห้ใจแทบขาด หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมานั่งดื่มเหล้ากับเพื่อน ริมถนนติดกับขอบสระเจออีกทีจมน้ำกลายเป็นศพ

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 10.20 น. ศูนย์วิทยุนเรนทรสุรินทร์ 1669 ได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนจมน้ำเสียชีวิต ที่หนองน้ำบ้านโจด ต.ยาง อ.ศีขรภูมิ หลังรับแจ้งได้ประสานศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรศีขรภูมิ จากนั้นแจ้งให้ ร.ต.อ.กันต์ หวานอารมณ์ ร้อยเวรสอบสวนทราบ พร้อมแจ้งแพทย์ รพ. ศีขรภูมิ พร้อมหน่วยกู้ภัยสุรินทร์จุดศีขรภูมิ ออกตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงหนองน้ำบ้านโจด หมู่ 9 ตำบลยางอำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งอยู่คนละฝั่งตรงข้ามกับร้านค้าชุมชนของหมู่บ้าน พบชาวบ้านยืนดูเหตุการณ์อยู่เป็นจำนวนมาก

เจ้าหน้าที่กู้ภัยไปถึงพร้อมกับร้อยเวร และได้ลงไปนำเอาร่างของผู้ตายขึ้นจากสระน้ำ หลังจากพบร่างผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายหอม อายุ 37 ปี ญาติๆ ที่มารอดูเหตุการณ์ได้พากันร้องไห้กันระงม หลังจากเห็นสภาพศพของผู้ตาย

จากการสอบถามคนที่เห็นคนตายก่อนหน้านั้นซึ่งเป็นคนดูแลร้านค้าของชุมชนหมู่บ้าน นายสุพรรณ อายุ 65 ปี เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าในช่วงเย็นของวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมา ผู้ตายได้มานั่งดื่มเหล้ากับเพื่อนๆ อีก 3 คน

ในช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. ตนก็ปิดร้านค้ากลับบ้านจึงปล่อยให้ทั้ง 3 คนนั่งดื่มกันอยู่ริมถนนตรงนั้น ซึ่งห่างจากสระน้ำประมาณ 1 เมตรกว่าๆ ดูลักษณะถนนจะสูงกว่าสระน้ำพอสมควร

พอเช้าตนเองมาเปิดร้านไม่เห็นมีใคร แต่ที่แปลกใจทำไมรถของผู้ตายถึงยังจอดอยู่ที่เดิมตั้งแต่เมื่อวานนี้ และพบรองเท้าวางอยู่ริมสระน้ำสายมาหน่อยตนเองจึงได้ไปบอกให้กับเถ้าแก่ผู้ที่ผู้ตายทำงานอยู่ด้วย ที่ทำงานวิ่งรถรับซื้อข้าวตามหมู่บ้านต่างๆ

จากนั้นจึงได้พากันออกตามหาแต่ก็ไม่พบ แต่ก็พากันสงสัยกันอยู่หรือว่าจมน้ำไป เพราะโทรไปหาแม่ของผู้ตายที่อยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง แม่ของผู้ตายก็บอกว่าไม่เห็นมา

ดังนั้นเพื่อนๆ ยิ่งสงสัยหนักขึ้น จึงได้พากันลงหาในสระน้ำดูหาจนทั่วแต่ก็ยังไม่พบ ทางผู้เป็นแม่ของผู้ตายคือนางนู อายุ 64 ปี จึงได้ตัดสินใจไปพบแม่หมอที่เป็นร่างทรงในหมู่บ้าน ให้ช่วยตรวจดูทางใน ไม่นานแม่หมอบอกกับแม่ผู้ตายและญาติ ให้รู้ว่าลูกชายตนเองจมอยู่ในน้ำสระตรงนั้นแหละ

หลังจากนั้นจึงได้พากันมาสระน้ำที่อยู่ตรงข้าม คนละฝั่งทางกับร้านค้าชุมชน พอมาถึงญาติๆ จึงได้พากันลงหาอีกครั้งพร้อมทั้งจุดธูป หมากพลู ขอขมาเจ้าที่เจ้าทาง ให้พบเจอ เพราะว่าก่อนหน้านั้นก็หาไปแล้วไม่เจอ

หาไปไม่นานญาติที่ ชื่อนายวิไล ใช้ไม้เขี่ยหาในน้ำ และได้ไปสะดุดอะไรสักอย่างดูหนักๆ จึงเข้าไปยังจุดนั้นจึงพบว่าเป็นคนจมน้ำจริงทันทีที่รู้ทั้งญาติและลูกสาวถึงกับร้องไห้กันจ้าละหวั่น บางคนถึงกับแทบช็อก ชาวบ้านคนเฒ่าคนแก่ต่างนำเอาฝ้ายมาผูกข้อต่อแขนให้เป็นการเรียกขวัญ

จากการสอบถามแม่และญาติของผู้ตายเล่าว่าผู้ตายแต่งงานแล้วมีลูก 1 คนแต่ว่าเลิกกันไปนานแล้ว หลังจากที่เลิกรากับเมียไปแล้วก็กลับมาอยู่บ้านกับแม่ แต่ผู้ตายมาทำงานกับญาติๆ ใกล้กับบ้านที่เกิดเหตุ ส่วนลูกสาวก็จะไปๆ มาๆ ระหว่างบ้านแม่ของตนกับบ้านพ่อ

หลังจากที่นำศพขึ้นมาจากน้ำสักพักทางเจ้าหน้าที่ก็ได้นำผ้าขาวห่อยกขึ้นรถเพื่อส่งโรงพยาบาล ก่อนที่จะยกร่างขึ้นรถลูกสาวยิ่งร้องไห้หนักและร้องขอดูหน้าพ่อก่อนพร้อมกับก้มลงกราบศพพ่อทำเอาผู้ที่พบเห็นต่างน้ำตาคลอและร้องไห้ไปตามๆ กัน ก่อนจะนำศพส่งพิสูจน์ศพที่โรงพยาบาลสุรินทร์ ก่อนจะมอบให้ครอบครัวนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

จากการสันนิษฐานของ จนท.ตำรวจ ในเบื้องต้น อาจเป็นไปได้ว่าผู้ตายอาจเกิดพลัดตกน้ำเสียชีวิตระหว่างเมาสุรา หลังแยกย้ายกับเพื่อนและไม่มีใครเห็น หรืออาจเป็นการฆาตกรรมหรือไม่

ซึ่งอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน และตามตัวกลุ่มเพื่อนที่นั่งดื่มสุราด้วยกัน มาสอบสวนเพิ่มเติม แต่ไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้ายแต่อย่างใด แม้ญาติจะไม่ติดใจสาเหตุของการเสียชีวิตก็ตาม แต่ตำรวจจะทำการสืบสวนสอบสวนให้ทราบถึงสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้งต่อไป