กระบะซุกแรงงานเถื่อนซิ่งชนเสาไฟฟ้าตาย 2 เจ็บอื้อ-เร่งสกัดอีกคันก่อนหนีออกมาเลย์

( 30 พ.ย. 61 )  พ.ต.ท.ยศวริศ  ทองสงโสม   สารวัตรสอบสวน  สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์   จ.ประจวบคีรีขันธ์   ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถยนต์แหกโค้งชนเสาไฟฟ้า เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก  โดยทั้งหมดเป็นแรงงานต่างด้าว 

จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรีบไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบธรรมสถาน , เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน , เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์, ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ , ทหารกองร้อยรักษาความสงบ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์  และตำรวจตระเวนชายแดนที่ 146

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุซึ่งอยู่บริเวณทางโค้งทุ่งเคล็ด ถนนทางหลวงชนบท  ปข.11023  หมู่ 11 บ้านหนองกะเพรา  ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์  พบรถกระบะ อีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ สีขาว 4 ประตู ทะเบียน 7กศ 4806 กรุงเทพมหานคร ชนเสาไฟฟ้าส่องสว่างริมถนน  จนหักโค่นลงมาทั้งต้น   

ส่วนรถพุ่งตกลงไปในป่าหญ้าข้างทาง  ซึ่งลึกจากระดับพื้นถนนไปประมาณ 1 เมตร สภาพรถยับเยิน หลังคาห้องโดยสารยุบลงมาเกือบครึ่งคัน ทำให้ผู้โดยสารซึ่งเป็นชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมือง ซึ่งที่นั่งอยู่ภายในห้องโดยสารและท้ายกระบะ ถูกเหวี่ยงออกจากตัวรถร่างกระเด็นกระแทกพื้น  

พบมีผู้เสียชีวิตคาที่ เป็นชายอายุระหว่าง 30-40  ปี  ตกพื้นดินบริเวณใต้ล้อหลัง 2 ราย และมีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 12 ราย   ซึ่งผู้บาดเจ็บทั้งหมดไม่มีบัตรประจำตัวที่ทางราชการออกให้  ส่วนคนขับรถคันเกิดเหตุ ยังไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด และไม่พบตัวในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ระบุว่าน่าจะหลบหนีไปในช่วงชุลมุน

จากนั้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์  ได้หาล่ามชาวเมียนมา มาใช้ช่วยสอบถามข้อมูล และสอบถามเหตุการณ์จากผู้โดยสารที่ยังให้ปากคำได้    

เบื้องต้นทราบว่า มีชาวเมียนมาจำนวน 26  คน  เดินทางข้ามชายแดนตามช่องทางธรรมชาติระหว่างไทย-เมียนมา บริเวณเทือกเขาตะนาวศรี และมีนายทุนมารับแรงงงานทั้งหมดขึ้นรถกระบะจำนวน 2 คัน ขับจากชายแดนมายังถนนเพชรเกษมซึ่งมีระยะทางประมาณ 10  กิโลเมตร   

เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นทางโค้ง ประกอบกับรถคันดังกล่าวใช้ความเร็วสูงเพื่อหลบหนีเจ้าหน้าที่ เกิดเสียหลักเพราะเป็นทางโค้ง ชนกับเสาไฟฟ้าส่องสว่าง  จนมีผู้เสียชีวิต  และบาดเจ็บดังกล่าว โดยมีปลายทางเป็นตลาดแรงงานที่ประเทศมาเลเซีย

อย่างไรก็ตาม ภายหลังเกิดเหตุ  เจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจ และฝ่ายปกครอง  ได้วิทยุสกัดกั้นรถกระบะขนแรงงานเถื่อนอีกคันที่มุ่งลงใต้ แต่ล่าสุดยังไร้วี่แวว