วิสามัญหนุ่มคลั่งจี้แท็กซี่ยิงโชเฟอร์-ตร.เจ็บ

ผู้ตายใช้ปืนลูกซองยาว ยิงใส่ตำรวจ 5 นัด ตำรวจจึงประกาศขอให้มอบตัว โดยนับถอยหลัง 5 4 3 2 1 ก่อนระดมอาวุธปืนยิงใส่ห้องพัก

เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 30 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เพชรบุรี ว่า ตำรวจ สภ.ชะอำ ร่วมกับหน่วยปฏิบัติพิเศษ จ.เพชรบุรี ปิดล้อมบ้านเลขที่ 7 หมู่ที่ 3 ต.นายาง อ.ชะอำ หลังจาก นายพิษณุ โดยดี อายุ 40 ปี หลบอยู่ภายในบ้าน หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองจี้รถแท็กซี่มาจากกรุงเทพมหานคร และยิง นายโสภณ ทองเรือนดี อายุ 40 ปี คนขับได้รับบาดเจ็บเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ตำรวจปิดล้อมที่บ้านเพื่อเจรจา โดยให้พ่อแม่ ญาติพี่น้อง มาช่วยเกลี้ยกล่อมเนื่องจากทราบว่านายพิษณุป่วยเป็นโรคประสาทอยู่ แต่ก็ไม่เป็นผล สุดท้ายตำรวจได้นิมนต์เจ้าอาวาสวัดนายางที่นายพิษณุให้ความเคารพนับถือก็ยังไม่เป็นผลอีก กระทั่งเวลาประมาณ 11.00 น. ตำรวจจึงลองยิงปืนขึ้นฟ้า 1 นัด เพื่อดูท่าที ปรากฏว่า นายพิษณุได้ใช้ปืนลูกซองยาว ยิงใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวม 5 นัด กระสุนโดน ด.ต.เทวิน เอมรื่น ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี บริเวณขา ตำรวจจึงประกาศขอให้นายพิษณุยอมมอบตัว โดยนับถอยหลัง 5 4 3 2 1 ก่อนจะระดมอาวุธปืนยิงใส่บริเวณห้องพักของนายพิษณุ กระสุนถูกนายพิษณุเสียชีวิต

จากการตรวจสอบภายในห้องนอน พบศพนายพิษณุ สวมชุดลายพรางทหาร นอนจมกองเลือดอยู่ข้างเตียงนอน มีบาดแผลถูกยิงที่ศีรษะและตามลำตัวหลายแห่ง บนเตียงมีอาวุธปืนลูกซอง ยาว 5 นัด 1 กระบอกพร้อมกระสุนจำนวนหนึ่ง ขวาน 1 เล่ม และมีด 3 เล่ม นอกจากนี้ยังพบเอกสารและบัตรประจำตัวของนายโสภณ คนขับแท็กซี่ รวมอยู่ด้วย

นายพุม โดยดี อายุ 75 ปี บิดาของนายพิษณุ ให้การว่า สมัยก่อนนายพิษณุเป็นคนเรียนเก่งมากจบจากโรงเรียนประจำจังหวัด แต่โชคร้ายมีอาการทางประสาท โดยเริ่มเป็นมาประมาณ 2 ปี ซึ่งต้องให้กินยาตลอด หากวันไหนไม่กินยาก็จะมีอาการคลุ้มคลั่งบางครั้งก็พูดไม่รู้เรื่อง ชาวบ้านใกล้เคียงก็ค่อยไม่สบายใจกับพฤติกรรมของนายพิษณุเท่าไรนัก จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้ว นายพิษณุได้ก่อเหตุพยายามฆ่านายยุทธ เหมาะดี ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกันมาแล้ว หลังจากนั้นนายพิษณุก็หนีไป ไม่ค่อยอยู่บ้าน ล่าสุดเพิ่งกลับมาวันที่ 29 มกราคม และช่วงเย็นวานนี้มีชาวบ้านเห็นนายพิษณุสะพานปืนลูกซองเดินไปมาและหายไป ตนไม่รู้เรื่องจนกระทั่งตอนเช้าถึงได้รู้ว่านายพิษณุไปก่อเรื่องมา และการที่ลูกถูกวิสามัญครั้งนี้ ตนไม่ติดใจการทำงานของตำรวจแต่ก็เสียใจที่ลูกต้องมาเป็นแบบนี้

ด้าน นางแอ็ด โดยดี มารดาผู้ตาย ซึ่งร้องไห้ตลอดเวลาช่วงที่ตำรวจระดมยิงใส่ห้องที่ลูกชายซ่อนตัวอยู่ เผยว่า เสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตำรวจน่าจะยิงขาหรือแขนก็ได้ ไม่น่าจะยิงถึงขั้นเสียชีวิต เนื่องจากลูกชายป่วยเป็นโรคประสาทอยู่